ช็อกแฟนๆ ก่อนบ่ายคลายเครียด ลาจอ ช่อง 3 – เป็ด เชิญยิ้ม เผยเพื่อความอยู่รอด ย้ายช่อง

ทำแฟนๆช็อกหนัก รายการที่เรตติ้งสูงที่สุดในยุคหนึ่งยิ่งใหญ่มาก หลังลือสะพัด รายการดัง “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ลาจอ ช่อง 3 หลังออกอากาศมากว่า 20 ปี ล่าสุด เป็ด เชิญยิ้ม ผู้ผลิตรายการเปิดใจเรื่องนี้แล้วว่า

เกาะติดข่าวบันเทิงฮอตๆ
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสดบันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ช่อง 3 เขาเรียกเวลาคืนไป 2 วัน แต่ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ก็เหนื่อยนะ พนักงานเราก็เยอะ เราสร้างรายการเป็นฟอร์แมตแบบนี้มา 23 ปี วันนี้จะต้องลดเหลือ 3 วันมันก็เป็นไปได้ยาก เราก็ต้องขออนุญาตช่อง

เราจะขอเวลาเต็มเหมือนเดิมมันก็ลำบาก เขาก็ต้องไปแบ่งเวลาให้คนอื่นด้วย เรื่องการขยับขยายเวลาในการทำงานของช่องมันก็เปลี่ยน เราก็เข้าใจช่องนะ เพราะเขาก็ต้องสร้างกำไรให้เกิดได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทีวีสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ในยุคก่อนทีวีมีแค่ 4-5 ช่องเอง เวลามันก็เปิดพื้นที่ได้มาก วันนี้ทีวีมี 24 ช่อง การแข่งขันก็สูง ช่องก็มีการแข่งขันสูง เขาก็ต้องมีกลยุทธในการทำงานของช่อง เราก็มีกลยุทธในการทำงานของเรา

แต่ในวันนี้เราเดินมาถึงจุดนี้พอถูกตัดให้เหลือ 3 วัน มันก็ไม่ได้ เราต้องดูแลพนักงาน เดี๋ยวนี้ต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้น รายได้ก็น้อยลง ค่าใช้จ่ายเราเท่าเดิม ตัวตลกก็จำนานเท่าเดิม

ช่องยังกระทบเราไม่กระทบเป็นไปไม่ได้ โฆษณาก็น้อยลงทุกอย่างราคาก็ถูกลดลงหมด ฉะนั้นเราก็เลี้ยงพนักงานไม่ได้ ผมไม่อยากให้กระทบข้างล่างมากเกินเหตุไป ก็เลยต้องเปลี่ยนแปลง

“ผมมีรายการก่อนบ่ายรายการเดียว เราก็ต้องยืนให้ได้ ค่าโฆษณาก็ลดลง มันประสบปัญหาหมด เราถึงได้มีโอกาสขออนุญาตไปใช้พื้นที่ที่อื่น จากนั้นเราก็ไปปรึกษาทางพีพีทีวีเขาดู ว่าเป็นไปได้มั้ยที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่

เราขอเวลา 5 วัน ใช้กติกาเดียวกับทางช่อง 3 ได้มั้ย เพราะเรามีสปอนเซอร์ของเราติดไปด้วย ก็ได้คุยกับคุณสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหา ให้เราลองดูนะ อย่าให้มันกระทบกัน คุณสุรินทร์ก็น่ารักดี เขาก็เกรงใจช่อง 3 เหมือนกัน แต่เราก็ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้เพราะเราอยู่ไม่ได้

ก่อนตัดสินใจย้ายมามองถึงกลุ่มคนดูของพีพีทีวีไว้อย่างไรบ้าง? “คนดูก็เหมือนทุกช่องแหละ อยู่ที่การบริหารคอนเทนต์เท่านั้นเองว่าจะไปในรูปแบบลักษณะไหน มันอาจจะต่างกันเรื่องเรตติ้ง แต่เราต้องอยู่ให้ได้ วันนี้เราไปเลือกช่องไม่ได้ เราก็ทำให้ดีที่สุด มันอยู่ที่รายการเรา ถ้ารายการทำให้ดี ทำให้เสถียรเหมือนเดิม ผมเชื่อว่าคนก็ต้องตามไปดูรายการผม ยกตัวอย่างรายการ กิ๊กดู๋ฯ มาจากเบอร์หนึ่งแล้วมาอยู่เบอร์นี้ เขาก็ยังทำได้ เราก็ต้องทำให้ได้”

ก่อนจะเลือกเป็นพีพีทีวี เรามีตัวเลือกอื่นด้วยไหม เพราะมีช่องให้เลือกเยอะเหมือนกัน? “มีหลายช่อง แต่เรารู้จักคุณสุรินทร์ ตอนสมัยอยู่ช่อง 3 ด้วยกัน เราก็เลือกจะไปตรงไหนดี จะไปตรงอื่นก็กลัวเขาจะไม่รับ มันกะทันหันมากก็เลยต้องไปปรึกษาคุณสุรินทร์ว่าเป็นไปได้มั้ย ถ้าเราจะขยับมาที่นี่”

เรียกว่าเป็นการย้ายแบบกะทันหันได้ไหม?ประมาณสัก 2 เดือนได้แล้ว ก็ถือว่ากะทันหันครับ เพราะเราจะขอเวลาเท่าเดิมก็เป็นไปได้ยาก เราเข้าใจช่อง 3 นะ เพราะเขาก็ต้องทำยังไงก็แล้วแต่ ให้ช่อง 3 อยู่ได้ ทีวีประสบปัญหาขาดทุนทุกที่ เพราะมันเยอะช่องเหลือเกิน

มันควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง ทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง ทุกคนก็ต้องต่อสู้ ช่องก็ต้องต่อสู้แข่งขันกับช่อง สปอนเซอร์ก็ต้องแข่งขันกับสปอนเซอร์ ฝ่ายผลิตรายการก็ต้องแข่งขันกับฝ่ายผลิตรายการ ฉะนั้นเมื่อเราทำไม่ได้ตามที่เราต้องการ หรือตามวัตถุประสงค์ของเรา เราเลี้ยงบริษัทไม่ได้อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ เราต้องขออนุญาตเดินออกมา”

การย้ายมาที่ใหม่คอนเทนต์จะเปลี่ยนไหม? “ก็ปรับนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ปรับมากเพราะรายการเราเป็นลักษณะนี้ จะปรับหนีไปไหนมากเป็นไปไม่ได้ ยึดรูปแบบนี้นั่นแหละ แต่อาจจะเพิ่มเติมสีสันให้มากขึ้น เพราะเราได้เวลามากขึ้นนิดนึง มีเวลาครึ่งชั่วโมงต่อวัน แฟนๆ จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ บ้าง แต่รูปแบบรายการตลกมันก็ไม่หนีไปไหน ทำอย่างไรให้รายการมีเสียงหัวเราะดีกว่า จะเป็นรูปแบบไหนก็แล้วแต่ ถ้ามีพื้นที่ให้เสียงหัวเราะคนก็ต้องดู ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้พื้นที่นี้มีเสียงหัวเราะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

คาดหวังอย่างไรบ้างกับการย้ายมาบ้านหลังใหม่? “ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเลย ผมคาดหวังจะทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ผมจะทำให้คนดูไม่ว่าจะอยู่ช่องไหน คนดูจะได้ประโยชน์มากกว่า

เพราะเราทำรายการก่อนบ่ายมา 23 ปีแล้ว เราเคยมีประวัติศาสตร์ทำเรตติ้งสูงที่สุดในยุคสมัยก่อน ยิ่งใหญ่มากนะ เราก็พยายามสร้างงานให้มีคุณค่า ให้มีประโยชน์

รายการก่อนบ่ายไม่ใช่ว่าเป็นรายการคนสูงอายุหรือคนสูงวัย ควรจะเลิกไปได้แล้ว ตรงนั้นให้ประชาชนตัดสิน แต่วันนี้เรามีกำลังที่จะทำงาน มีกำลังที่จะสร้างเสียงหัวเราะ เรายังมีแฟนคลับมีคนชอบรายการของเราอยู่ มันก็ไม่ได้หยาบโลน อาจจะไม่ได้หัวเราะเหมือนรายการอื่น แต่มันก็ทำให้ยิ้มและมีความสุขที่ได้ดู ก็จะได้ชมรายการก่อนบ่าย ทางช่องพีพีทีวี วันที่ 4 มี.ค. เทปแรก เวลา 10.00 น. -10.30 น. ส่วนเทปสุดท้ายกับช่อง 3 คือสิ้นเดือนนี้ครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน