วันที่ 15 ก.พ. เวลา 14.10 น. นางเอกสาว แพท ณปภา ควงสามี นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง แถลงข่าวที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน กรุงเทพ หลังนางเอกสาวเพิ่งคลอดลูกชายคนแรก “น้องเรซซิ่ง” เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยแพทปรากฏตัวในชุดของโรงพยาบาล ส่วนสามีได้อุ้มน้องเรซซิ่งโชว์สื่อมวลชนที่มาทำข่าวกันคับคั่ง
โดยแพท ณปภา เริ่มเล่าเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัดว่า “เราเข้าวันจันทร์ เป็นแพลนที่เราตั้งใจอยู่แล้ว วันที่เข้าก็ตื่นเต้นค่ะ เป็นความรู้สึกตื้นเต้น ห้องผ่าตัดก็เย็นมาก โชคดีคุยกับพี่เบนซ์ไว้ว่าอยากให้เขาไปด้วย ตอนแรกก็กลัวว่าพี่เบนซ์ก็กลัวเหมือนกัน แต่พี่เบนซ์ก็เข้าไปอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งก็ช่วยแม่ได้เยอะ เข้าไปให้กำลังใจ ระหว่างที่เราอยู่ในห้อง ต้องวัดความดัน ต้องเจาะเลือด บล็อกหลัง เราก็รู้สึกชาไปครึ่งตัว ไม่เจ็บ แต่รู้สึก ยังได้ยินหมอพูด ได้ยินเขาเตรียมของ ยิ่งทำให้เรากลัว พอพี่เบนซ์เข้ามาก็อยู่เป็นเพื่อน พยายามพูด ให้เราไม่โฟกัสสิ่งข้างหน้า ให้อยู่กับพี่เบนซ์”
“ประมาณครึ่งชั่วโมงครับ คอยให้กำลังใจ เราก็บอก เหมือนไปถอนฟันแหละ มันไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว ก็ชวนคุยให้ไม่กังวลมาก ตอนที่เห็นหน้าลูก ก็ตื้นตันมาก เป็นความรู้สึกที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต ดีใจมาก” เบนซ์กล่าว
แพทกล่าวอีกว่า “ความกลัวทำให้เราลุ้นอยู่แล้ว ตอนแรก น้องไม่ออก เพราะตัวใหญ่มาก หมอบอกอาจจะจุกนิดนึง เพราะต้องดันแรงมาก ก็จุกจริงๆ ตอนออกมา ได้ยินเสียงก็โล่ง สำเร็จแล้ว เขาออกมาแล้ว ร้องเสียงดัง ที่สำคัญคือมีลมหายใจอยู่ เราก็ร้องไห้ สิ่งแรกเลยคือ บอกพี่เบนซ์ว่า ตามลูกไปเลยนะ ไม่ต้องห่วง กลัวลูกหาย กลัวโดนสลับ ถามพี่เบนซ์ว่า ลูกเรามีผมมั้ย แพทเคยเจอเด็กหลายคนผมน้อยหรือไม่มีผม แล้วตอนเราไปอัลตราซาวด์ ภาพอัลตราซาวด์ไม่ค่อยโอเคเลยสักภาพ ไม่จมูกบานก็ปากเบี้ยว เราก็กลัวว่าถ้าออกมาแล้วน้องไม่น่ารักเราจะทำยังไง เราเลยต้องถามว่า มีผมมั้ย บางคนก็บอกเหมือนพี่เบนซ์ บางคนก็บอกว่าเหมือนแพท ความเจ็บปวดที่แสนวิเศษเป็นเรื่องจริง ความเจ็บหายไปเลยเมื่อเจอหน้าเค้าครั้งแรก”
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้่วางแผนการเลี้ยงลูกอย่างไร นางเอกสาวเผยว่า “ตอนนี้เลี้ยงกันเอง 2 คน ไม่ได้หลับไม่ได้นอนค่ะ เพราะเราก็ไม่เคย ด้วยความที่น้องตัวใหญ่ตั้งแต่อยู่ในท้อง ตอนออกมาก็รับประทานเหมือนเดิม ตอนนี้ตัวแพทก็ผลิตมาสำหรับน้องไม่พอน้องก็จะดราม่า ร้องไห้จนปากสั่นกระพือ ดูดแล้วไม่อิ่มก็จะโวยวายนิดหนึ่ง ช่วงนี้เป็นช่วงปรับตัว”
“คุณแม่มาด้วย ตั้งใจอยากให้คุณแม่เห็นครั้งแรก แกน้ำตาคลอ ไม่ได้พูดอะไร ยิ้มอย่างเดียว เราก็หวังว่าจะเลี้ยงน้องให้เต็มที่ เหมือนที่แม่เราเลี้ยงเรามา จะทำให้ดีที่สุด พยายามเลี้ยงในแบบของเรา บางคนก็แนะนำตั้งแต่ตอนท้อง แต่เราสองคนก็อินดี้่ มีสไตล์ของตัวเอง แต่รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน เราก็ปรึกษาตลอด สไตล์ใครสไตล์มัน หน้าที่หลักเราจะเลี้ยงเอง อยากให้ลูกเหมือนเรา ซึมซับอะไรจากเรา”
สำหรับชื่อจริงของลูก “พี่เบนซ์หาชื่อลูก เสริชชื่อลูก ส่งชื่อที่เค้าเลือกมาให้ดู คนเราจะคิดได้อย่างมากก็ 2 ชื่อ แต่เค้าคิดไว้ 5 ชื่อ”
แพทยังเผยด้วยว่าสำหรับของขวัญรับขวัญน้องเรซซิ่ง “คุณพ่อทำบ้านไว้ให้ เป็นตึกทั้งชั้น ทำไว้รอเลย” แพทตอบ
อยากมีอีกหรัอยัง แพทตอบ “ยังค่ะ” ส่วนเบนซ์ตอบต้องลองดูก่อน ตอนนี้ยังไม่มีฟีลว่าจะยากหรือเปล่า
เรื่องของการหยุดงานยาวจะหยุดถึงตอนไหน แพทกล่าวว่า “ตอนแรกว่าจะเดือนนิดๆ เดือนกว่า แต่ตอนนี้ร่างกายยังไม่โอเค แต่ตอนนี้ต้องรอร่างกายพร้อมก่อน เอาให้เดินให้คล่องก่อน”
ด้านผู้สื่อข่าวยังถามเกี่ยวกับเรื่องที่เบนซ์เปลี่ยนสีผมรับขวัญลูก แพทบอก “เปลี่ยนรับทรัพย์ จะทำให้คุณพ่อมีอำนาจ โกรกก่อนที่ลูกจะคลอด”
สำหรับเรื่องคดีมีผลต่อสภาพจิตใจอย่างไรบ้าง
เบนซ์กล่าวว่า “เราก็แยกกัน จริงๆ ก็โฟกัสเฉพาะเรื่องนี้อยู่แล้ว”
“ทั้งแพททั้งพี่เบนซ์ เราห่วงลูก เราทั้งคู่ อย่างที่บอก สิ่งสำคัญคือ ณ จุดที่มันใกล้ ลูกคือสิ่งสำคัญที่สุด เขาให้กำลังใจดี เขาไม่เคยเอาเรื่องเครียดมาลงที่เราหรือลูกเลย เขาดูแลปกติ ตรงเวลา” แพทเผย
เบนซ์ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า “ไม่มีอะไรต้องกังวลอยู่แล้ว ก็คุยกันตลอด เรื่องราวเป็นยังไง อย่างที่บอก เรากำลังมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เลยตัดเรื่องอื่นทิ้งไปหมด เรารอมาทั้งหมด 9 เดือน เพื่อวันนี้”
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้เหมือนเรื่องราวจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี แพทเผยว่า “ก็โล่งอยู่แล้ว มันดีตั้งแต่เห็นหน้าน้อง อะไรหลายๆ อย่างก็ดีขึ้นตามไปด้วย ก็หวังว่าทุกๆ อย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น ทุกอย่างต้องใช้เวลา เราสองคนถือว่าผ่านมาเยอะ”
เบนซ์ระบุว่า “ก็คอยให้กำลังใจกันตลอด ตอนนี้ก็มีกำลังใจดวงน้อยๆ ลืมตาดูโลกขึ้นมาอีก ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของเขา”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจากนี้ไลฟ์สไตล์จะเปลี่ยนหรือไม่ เบนซ์เผยว่า “ก็ควรจะอย่างนั้น อาจจะซอฟต์กว่าเดิม ไม่โลดโผนอะไรมากเหมือนแต่ก่อน”
นางเอกสาวยังเผยว่า “ไม่อยากให้พี่เบนซ์เปลี่ยนสไตล์ เพียงเพราะมีลูก หรือโดนคนข้างนอกกดดัน เราอยู่กันมาตั้งนานแล้ว ก็อยู่กันได้ ไม่อยากให้มีลูกคนนึงแล้วชีวิตจะต้องดาวน์ อยากให้เขาเหมือนเดิม ออกไปเหมือนเดิม ไปขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนเดิม ไปแข่งเหมือนเดิม เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า พอลูกเห็นจะได้มีบันดาลใจ พ่อเขาเก่ง”
