อ๊อฟ รู้ เบน มีแฟนสองคน รับห่วงความรู้สึก หลังเลิก จิงโจ้ ไม่รู้แผลสดมั้ย?

นักร้องเสียงดี อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่จาก Sizzler ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ หลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องข่าวพี่คนสนิท เบน-ชลาทิศ เพิ่งประกาศเลิกรากับแฟนหนุ่ม จิงโจ้ ตัดสินใจครองรักกับ ตั้ม เหลือความรัก 2 คน จากรักเราสามคน
โดย อ๊อฟ เผยว่า “อ๊อฟก็แอบเห็นข่าวเหมือนกัน แต่อ๊อฟว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเขา เพราะเอาจริงๆ ใครรัก ใครเลิก มันก็เป็นเรื่องปกติของเขา จะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน เขาก็อยู่กันแบบนี้มาตั้งนานแล้ว มันเป็นความรักของเขา”

จากที่เคยร่วมงานเรารู้ไหมว่าเขามีกันสามคน ?
“ก็รู้เพราะว่าปกติเราไปเราก็เห็นอยู่แล้ว เขาก็มา อ๊อฟว่าความรักมันเป็นเรื่องของหัวใจมากกว่าบางทีถ้าเกิดเราคนสามคน คนสี่คน คนห้าคนเข้าใจกันอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจและแบ่งสรรเวลาให้มันถูกต้องให้มันเท่าเทียมกัน อ๊อฟหมายถึงคู่อื่นๆ มันก็เป็นเรื่องปกติ การอยู่ด้วยกันสามคนความรักมันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมด้วย คนบางคนเขาแบบโอเคกับการที่อยู่แบบนี้ได้”

ได้ส่งข้อความไปให้กำลังใจไหม ?
“ไม่ได้ส่งข้อความไปให้กำลังใจเลยครับ เพราะว่าพี่เบนเขาโตมากแล้ว พี่เบนเขาโตกว่าอ๊อฟอีกเขาคงทำใจกับเรื่องแบบนี้ได้นานมากแล้ว”

ได้เจอกันบ้างไหม ?
“เดี๋ยวก็ต้องเจอครับ เพราะมีคอนเสิร์ต ส่วนใหญ่เวลาเจออ๊อฟก็จะไม่ถามเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว เราก็แค่รู้สึกว่าเรื่องอันไหนที่เขาจัดการได้ เขายังสามารถคอนโทล และควบคุมความรู้สึกตัวเองได้ เราก็เป็นกำลังใจให้อยู่ห่างๆ อยู่แล้ว “

เขาดูเฮิร์ตหนักไหม ?
“เอาจริงๆ ตอนที่เจอล่าสุดก็ยังอยู่กันปกติ เราก็ยังเห็นปกติอยู่ เราก็ตกใจเหมือนกัน แต่เราก็ไม่กล้าถามหรอก เพราะว่าเอาจริงๆ แล้วเราก็ห่วงความรู้สึกด้วย เพราะว่าไม่รู้ว่าเป็นแผลสดหรือแผลเก่า”

กับเพื่อนร่วมงานเขาก็ใช้ชีวิตปกติไม่ได้ปิดบัง ?
“ปกติ ไม่ปิดบังเพราะจริงๆ ก็รู้กันอยู่แล้วตั้งแต่ขึ้นคอนเสิร์ตกันแรกๆ อยู่แล้ว ปกติเวลาไปเราก็อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวน่ารักกันอยู่แล้ว”

ในมุมของเราตอนแรกที่ทราบรู้สึกใจไหม ?
“ไม่ตกใจ ไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์ เพราะว่าถ้าในมุมมองอ๊อฟนะ อ๊อฟมองว่าเป็นเหมือนความพึงพอใจของแต่ละคน มันก็เหมือนยังดีกว่าไปหาเศษหาเลยข้างนอก อันนี้คือในมุมของเรานะ เราโอเค ถ้าเรารู้สึกว่าคุณขาดแล้วคุณหาใครมาเติมเต็มได้โดยที่ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แล้วอยู่กันแบบเข้าใจ อ๊อฟก็ว่ามันโอเค หมายถึงว่ามันก็วินๆ กันทั้งคู่ อีกคนหนึ่งก็จะได้มีความสุขอีกคนหนึ่งก็จะได้มาเติมเต็มชีวิตให้ของกันและกัน”

พอมันเป็นข่าวเกิดขึ้นบางคนคอมเมนต์กันสนุกปาก ยิ่งเป็นการตอกย้ำความรักของเพศที่สาม ?
“เข้าใจ ก็อย่างที่อ๊อฟบอกว่าสุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติที่คนจะวิจารณ์จะมองเพศที่สามเป็นแบบนี้ มันไม่ผิดนะที่คนเขาจะมองกันแบบนี้ ตัวอ๊อฟเองบางทีคนว่าเราเป็นตุ๊ดเป็นกะเทย สาวมากไปเเปลงเพศมั้ย ผ่าเลยมั้ยล่ะ คือบางทีเราก็รู้สึกเฮิร์ตเหมือนกัน แต่ก็โทษไม่ได้มันเกิดจากการกระทำของเรา เพราะฉะนั้นอ๊อฟจะบอกว่า การกระทำทุกอย่างมันส่งผลต่อกลุ่มกว้าง คือเราก็แค่อย่าเหมารวม หมายถึงว่าถ้าจะด่าอะไรก็อย่าเหมารวม เพราะว่าจริงๆ แล้วแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน แล้วก็อย่าคิดกันว่า การคบกันแบบสามคนสี่คน แล้วมันจะเป็นเรื่องที่แย่ อ๊อฟว่ามันเป็นเรื่องของความพึงพอใจรสนิยม และเป็นเรื่องของความเข้าใจกันมากกว่า อ๊อฟว่ามันก็ยังดีกว่าคู่ชายหญิงที่คุณคบกันเป็นแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ออกไปหาเศษหาเลยไปกินคนอื่นมันก็ไม่ดีไง”

ปัดดันแฟนเข้าวงการ-ไม่ชอบเป็นขี้ปากใคร

ต่อข้อถามถึงเรื่องความรักตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
“แฮปปี้ดีครับ”

ล่าสุดเพิ่งไปเที่ยวกันมา หรือพรีฮันนีมูน ?
“ไม่อยากพูดมากเดี๋ยวคนจะหมั่นไส้ (หัวเราะ) ไม่หรอก อ๊อฟไปถ่ายรายการของอ๊อฟเอง
ด้วย ไปเที่ยวด้วย เลยได้โอกาสพ่วงไปด้วยกัน”

หลายคนมองว่าจะดันแฟนเข้าวงการหรือเปล่า ?
“ไม่หรอกครับ เขาอยู่ของเขา เขาก็มีกินไม่ต้องมานั่งทำงานแล้ว”

เราบังคับเขาให้ทำรายการในยูทูบหรือเปล่า ?
“คือเราก็คุยกัน อยากให้เขาได้ทำอะไรใหม่ๆแปลกๆ บ้าง คือเขาก็เป็นเขา อยากให้เขาเป็นตัวเองด้วยเวลาออกกล้อง ด้วยการทำรายการของเราก็เหมือนกับเป็นการนำเสนอไลฟ์สไตล์ของตัวเองเท่านั้นเอง แรกๆ เขาเขินมากครับ เราก็พยายามจะบอกเขาว่าควรชินได้แล้วนะ เธอมีแฟนเป็นบ้าแบบนี้ เธอต้องเริ่มชินได้แล้ว”

แต่พอมาอยู่ในสื่อ ล่าสุดเขาโดนจับจ้อง โดนคอมเมนต์ เขาคิดมากไหม ?
“เขาก็ส่งมาถามเหมือนกัน พยายามแคปทุกอย่างมาถาม อ๊อฟเห็นช่วงนั้นเขาซึมๆเ งียบไป แต่ก็มีบ้างแหละ เอาง่ายๆ เลยนะ คือ คนเป็นเกย์ทุกคนต่อให้เป็นคิงหรือควีน หรือเป็นรุกหรือรับมันก็สาวด้วยกันทั้งนั้นแหละ มันก็ต้องมีความนุ่มๆ นวลๆ นิ่มๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดคุณอยากให้แมนๆ ไปเลยมันก็ยากไง ไม่งั้นเขาก็เป็นผู้ชายไปแล้วสิ ไปชอบผู้หญิงมั้ย”

เขาอ่านคอมเมนต์ไหม?
“ตัวเขาเป็นคนชอบอ่าน ส่วนตัวอ๊อฟชินแล้วครับกับคอมเมนต์อะไรแบบนี้ เราจะเข้าใจว่า อะไรที่แก้ได้ อะไรที่เราแก้ไม่ได้ เราก็พยายามบอกเขาว่าถ้าเธอยังทำใจไม่ได้กับการอ่าน ก็ไม่ต้องเข้าไปอ่านนะ ถ้าเกิดอ่านแล้วเธอต้องทำความเข้าใจกับมันให้มากๆ เพราะว่าจริงๆ แล้ววิธีการเลี้ยงดูไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เขาจะค่อนข้างลูกคุณหนูหน่อย เราเป็นคนกระโชกโฮกฮากไง มันเลยจะมีความต่างกันสุดขั้ว ซึ่งพอแฟนเราเขานิ่ง มีความนุ่มนวลหน่อย เจ้าสำอางค์นิดนึง ก็จะถูกมองว่าเป็นสาว เป็นเพื่อนสาวหรือเปล่า ไม่จ่ะ คอนเฟิร์มว่าเป็นผัวค่ะ(ยิ้ม)”

เขานอยด์มากไหม ?
“เขาก็นอยด์นะ พอเราบอก เราอธิบายเขาเข้าใจในสิ่งที่เราพยายามจะบอก พยายามจะสอนเขา”

รู้สึกอย่างไรบ้างที่สังคมไทยยังไม่ก้าวผ่านเรื่องแบบนี้ ?
“เอาจริงๆ เขารับได้กันอยู่แล้วนะ แต่สิ่งที่คนเขาคอมเมนต์ อาจจะมาจาก หนึ่งคือเขาอาจจะไม่ได้คิดก่อนพิมพ์หรือเปล่า ในมุมมองอ๊อฟนะ ก็อาจจะสนุกปากบ้าง มันก็คงเป็นเรื่องจริง เกย์ไม่ว่าจะรุกหรือรับมันก็สาวกันทั้งนั้นแหละ มันต้องมีความสาว มันอยู่ที่ว่าแต่ละคู่เขารับกันได้มากน้อยแค่ไหน บางทีพอเราเริ่มต้นคบกัน เราก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าคนที่เข้ามาเป็นแฟนเราเขาเป็นแบบไหน เราถึงจะรับได้ ซึ่งเราก็รับได้มาปีกว่าแล้ว ซึ่งมันก็โอเค อ๊อฟว่าให้เขาทำใจแหละ เพราะคนส่วนใหญ่เขาก็เป็นแบบนี้แหละ”

เขารับได้มากน้อยแค่ไหน ?
“ก็รับได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนครับ เขาอ่านเขาก็ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาได้อ่านมากขึ้น”

แต่ไม่ถึงขั้นมาบอกเราว่าไม่อยากทำแล้วช่องยูทูบใช่ไหม ?
“อ๊อฟก็ถามเขานะครับ ถ้าอึดอัดไม่ต้องทำก็ได้นะ แต่อ๊อฟก็ต้องดำเนินการทำต่อไปเรื่อยๆ เธอก็อาจจะไม่ได้อยู่เต็มตัวเข้ามาอยู่ในกล้องตลอดเวลา เขาก็บอกว่าภูมิอยู่ได้ ภูมิทำได้ ก็ต้องเป็นการพัฒนาให้ตัวเขาได้โตขึ้นอีกขั้นนึงด้วย”

อันนี้เหมือนเป็นการซื้อใจเขาไหม ว่าเขารักเราเขาเลยมาอยู่ตรงนี้ ?
“ใช่ จริงๆ อ๊อฟว่ามันไม่จำเป็นในชีวิตเขาเลย เขาไม่จำเป็นต้องมาอยู่ตรงนี้ เขามีทุกอย่างที่มั่นคงอยู่แล้ว ไม่ต้องมานั่งเป็นขี้ปากใคร เขาคงอยากรู้ว่าโลกของเรามันเป็นยังไง พอได้มาสัมผัส เขาบอกว่าโลกของเรามันเหมือนอยู่ตรงโรงบาลศรีธัญญาเลย (หัวเราะ)”

 

รูปประกอบจาก : benchalatit, aofpongsak

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน