แดง ศัลยา ปัดกดดันทำ ‘พรหมลิขิต’ เชื่อสนุกตามเคย มั่นใจรู้จริตคนดู!

เรียกว่าใกล้ความเป็นจริงแล้วสำหรับแฟนๆ ที่ชมละครเรื่อง พรหมลิขิต เพราะก่อนหน้านี้ หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์ ผู้บริหารค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ผู้ผลิต ละครเรื่อง “พรหมลิขิต” ภาคต่อจากเรื่อง บุพเพสันนิวาส ได้ส่งมอบบท พรหมลิขิต 9 ตอนแรก ให้กับ แดง ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ผู้เขียนบทโทรทัศน์ ล่าสุดได้เจอนักเขียนคนเก่ง จึงได้ถามถึงความคืบหน้าว่าบทละครไปถึงไหนแล้ว

แฟนๆ บุพเพฯ เริ่มปลาบปลื้มหลังจากที่เห็นภาพรอมแพงส่งมอบงานให้ศัลยาแล้ว
“ครูปลาบปลื้มลดลง แฟนๆ ปลาบปลื้มมากขึ้น(หัวเราะ) งานหนักมาแล้ว แต่ก็ประมาณ 1 ใน 3 นะคะ ถ้าคุณรอมแพงตั้งใจไว้ว่าจะออกให้ทันงานสัปดาห์หนังสือปีนี้ ซึ่งคือเดือนเมษายนปีนี้ ก็น่าจะเสร็จ แต่ว่าเสร็จแล้วหรือเปล่าครูก็ไม่ทราบ ครูไม่ได้รับมา ไม่ได้เจอคุณรอมแพง”

ที่ได้รับมาองค์ประกอบถึงตรงไหน
“มันก็ไปตามเรื่องนะคะ ที่เขาประพันธ์ไว้ มีความคล้ายคลึงตรงที่มีนางเอกอยู่ในยุคนี้ เข้าไปอยู่ในสมัยอยุธยา เป็นการเล่าเรื่องรุ่นลูก ก็คล้ายๆ สิ่งที่คุณอุ้ยบอกไปแล้ว ว่าเป็นเด็กผู้หญิงสมัยนี้ ได้กลับไปสู่ยุคนั้น แต่เขาไม่ได้ตาย กลับไปสู่ยุคสมัยนั้น กลับไปเจอรุ่นลูกชายแฝด ไปเจอครอบครัวนี้”

อ่านบทประพันธ์แล้วสนุกไหม
“อ่านไม่ถึงกับละเอียด แต่ก็สนุกนะคะ สนุกตามเคย”

ถ้าคุณอุ้ยบอกว่าบทประพันธ์เสร็จเมษายนแล้วในส่วนของบทโทรทัศน์ต้องใช้เวลาแค่ไหน
“มันขึ้นอยู่กับเวลาที่มี และขึ้นอยู่กับความยากง่าย ของตัวเรื่องที่จะถ่ายทอดมาเป็นบท เราหวังไว้ว่าจะทำให้เร็วกว่าบุพเพสันนิวาส เพราะว่าเรามีความคุ้นเคย รู้จักทางหนีทีไล่แล้ว ต้องทำอย่างไรถึงถูกจริตคนดู คงทำให้ง่ายขึ้น เพราะว่าตอนที่เขียนบุพเพสันนิวาส ตอนแรกเราไม่รู้เลย”

ในการค้นคว้าข้อมูล ต้องใช้เวลาขนาดไหน
“ต้องเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะเป็นเรื่องที่ไกลออกจากสมัยพระณารายน์ เพราะสมัยพระนารายณ์ยังรู้สึกคุ้นเคย เคยอ่าน แต่ว่าพอไล่มาถึงพระเจ้าท้ายสระ พระเจ้าเสือ เราไม่ค่อยได้คุ้ยเคย คงต้องอ่านเยอะ ความยากของบทโทรทัศน์คือเอาคำบรรยาย มาเป็นภาพ มาเป็นเสียง ส่วนใช้เวลานานแค่ไหน อันนี้ตอบไม่ถูก มันก็แล้วแต่เวลาที่เรามี อย่างช่วงบุพเพสันนิวาส เสียเวลาไปกับความคิดว่าเราจะทำอย่างไรดี กับเรื่องราวข้อมูลประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีเนื้อหาเป็นฉาก ไม่มีคำพูด ก็ตรงนั้นทำให้ยาก”

ความกดดันเยอะไหม กับความสำเร็จที่ผ่านมา
“ครูคิดว่ามันอาจไม่ได้ดีไปกว่าเดิม แต่มันคงไม่ได้แย่ไปกว่าเดิม หรือถ้ามันแย่ไปกว่าเดิมมันคงอยู่ในมุมหนึ่ง คือไม่รู้ว่าที่ดีกว่านั้นคืออะไร คือเขียนอะไรออกไป”

อยากเขียนแบบเดิมหรือว่าทิศทางใหม่ไปเลย
“ครูก็ไม่รู้เหมือนกัน เขียนเหมือนที่เคยเขียนมา ว่าละครมันต้องเป็นแบบนี้ เล่าเรื่องแบบนี้ ทำแบบที่เคยทำมาหลายสิบปี คงไม่มีอะไรที่เป็นทิศทางใหม่ ความใหม่คือเนื้อหา ที่น่าจะโดนใจคนดูบ้าง”

พี่หน่องอยากได้รุ่นลูกเป็น โป๊ป เบลล่า
“คงอย่างนั้น มันก็ต้องมีที่มาของความหน้าเหมือนตรงนี้ ถ้าเจอก็คงต้องเขียนให้กลายเป็นโป๊ปกับเบลล่า”

เป็นโจทย์ยากไหมที่ต้องเป็นพระนางคู่เดิม เป็นภาค2ด้วย
“สำหรับครูไม่ยากหรอก เขียนไปตามเรื่อง ความยากเป็นของเขาที่ต้องไปทำให้โป๊ปลงมาเป็นหนุ่มน้อยของอยุธยา เป็นเรื่องของคนอื่นทั้งนั้น ถ้าครูจะเขียน ให้เอามัน ก็คงเขียนให้โป๊ปเป็นหนุ่มมาดเด็กน้อยมาก เขาจะยากขึ้นไปอีก ต้องอยู่ที่โป๊ปทำตัวอย่างไร”

กดดันไหม เพราะคนรอดู
“ไม่กดดันมากหรอก เพราะว่าครูเชื่อในความเป็นพรหมลิขิต ความต่อเนื่อง ความสอดคล้องของเรื่องเดิม เชื่อในสิ่งเหล่านี้ และเชื่อในคนดู ว่าคนดูรับมันได้ เพราะว่าไม่ได้แตกต่างออกไปจากของเดิม เพราะมันเป็นเรื่องของการให้เห็นสังคมไทย สังคมอยุธยา สังคมโบราณ สิ่งที่อยากทำให้มากกว่าเดิม อยากใส่ความเป็นอยุธยาเข้าไปให้มากขึ้น ให้เห็นว่าอยุธยา เป็นอย่างนี้ ทางกายภาพ วัฒนธรรม ทางซีจีต้องไปทำให้มากขึ้น เพราะว่าของเดิมมีแต่ตลาด บ้าน วัด วัง ตอนนี้มันอาจต้องมีมากขึ้น ส่วนเรื่องปรากฎการณ์มันคงมีนะคะคาดหวังก็ลำบากมากเลย ว่าจะคาดหวังว่าเป็นปรากฎการณ์อะไร เพราะว่าบุพเพเราไม่ได้คาดหวัง แต่ว่าสิ่งที่คาดหวังคืออยากทำให้ถูฏใจคนดูมากที่สุด คนดูคือคนไทย เราจะพยายามทำให้เป็นไทยที่สุด คามเป็นไทยในอยุธยา ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ซึ่งมีประวัติศาสตร์มีอยู่บ้าง แต่ว่าเราต้องกรองว่าอันไหนเท็จจริงแค่ไหน ”

คนกลัวว่ากว่าทุกอย่างจะเสร็จ โป๊ป เบลล่าจะแก่ไป
“ต้องบอกโป๊ป เบลล่าว่าอย่าไปทำตัวให้แก่ ไปทำตัวหนุ่มสาว เราจะได้เขียนได้สบายๆ”

 

รูปประกอบจากไอจี : bellacampen, popezaap, popebella2517

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน