คอลัมน์ ข่าวสดบันเทิง

ได้ฤกษ์ลงจอ 7 สีแล้ว สำหรับ “เพลิงพระนาง” ละครฟอร์มยักษ์แห่งปีที่หลายคนรอคอย ผลงานการผลิตของบริษัท กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด โดยผู้จัดมากฝีมือ “ตุ๊กตา”จิตรลดา กัลย์จาฤก

คว้านางเอกซุป”ตาร์ตัวแม่ “อั้ม”พัชราภา ไชยเชื้อ รับบท “เจ้านางอนัญทิพย์” ประชันนางเอกรุ่นน้อง “ยุ้ย”จีรนันท์ มะโนแจ่ม ในบท “เจ้านางเสกขรเทวี” พร้อมพระเอก “เคลลี่ ธนะพัฒน์” กับบท “เจ้าหลวงเมืองคุ้ม”

 

ร่วมด้วยทัพนักแสดง เหมียว-ชไมพร(เจ้าสำเภางาม), ฐิสา-วริฏฐิสา (เจ้านางเรณุมาศ), เปรี้ยว-ทัศนียา (เจ้านางปิ่นมณี), แจม-ปาณิชดา (เจ้านางทองพญา), บอส-โตนนท์ (เจ้าหลวงม่านฟ้า), กอล์ฟ-อนุวัฒน์ (เจ้าครองภพ), ขุน-ชานนท์ (เจ้าตองแปง), กระติ๊บ-ชวัลกร (เจ้านางตองนวล), ต่าย-ชัชฎาภรณ์ (เจ้านางริมบึง), มะนาว-ศรศิลป์ (เจ้านางยอดพุ่ม), ทราย-จิตติมา (เรือนแก้ว) ฯลฯ ฝีมือการ กำกับฯ ของ “อ๊อด”ธีระศักดิ์ พรหมเงิน

ทั้งนี้ ผู้จัดเผยเรื่องราวละครว่า “เป็นเรื่องราวการแก่งแย่งชิงดีแย่งบัลลังก์อิจฉาริษยา เป็นเมืองสมมติ จะมีเหตุการณ์แย่งชิงบัลลังก์ฆ่ากัน เป็นมุมของผู้หญิงที่ครองเมือง นำเอาพลังสตรีออกมา ความอิจฉาริษยาทำให้เกิดความทะเยอทะยาน สุดท้ายเกิดความสูญเสีย”

ถามถึงตัวเอกของเรื่อง “เจ้านางอนัญทิพย์” กับ “เจ้านางเสกขรเทวี” ทำไมลงตัวที่ “อั้ม-ยุ้ย” ผู้จัดกล่าวว่า “อั้มนี่คือตัวแม่เลยค่ะ จริงๆ เรื่องนี้ที่ไม่ทำซะทีเพราะรออั้ม ตั้งใจว่าถ้าไม่ได้ตัวนี้ ถ้าสู้ของเก่าไม่ได้ก็เก็บไว้ดีกว่า อันดับแรกวางอั้มกับยุ้ยไว้แล้ว ต้องดูให้สูสี พอได้เขามาตัวอื่นๆ ได้หมด แต่ตัวที่รีเควสต์คือพี่เหมียว ต้องไปตามกลับมาให้มาเล่นตัวใดตัวนึง จริงๆ เขาก็นอยด์กว่าจะยอมเล่น แต่เรา ก็บอกมาเถอะ มาเป็นตัวเจ้าสำเภางาม ตัวนี้สำคัญ เราปรับบทให้แรงกว่าเดิม เอามาฟัดกับอั้ม และสุดท้ายเขาเป็นตัววางแผนร้ายทั้งสิ้น เล่นร้ายกว่าอั้มอีก เพราะต่างคนต่างมีเหตุผล อย่างอั้มโดนยึดบ้านยึดเมือง แย่งสามี แต่เหมียวถ้าไม่มีพ่อของอั้ม ครอบครัวเหมียวจะได้ขึ้นบัลลังก์ บังเอิญพ่ออั้มมาแย่งก็เลยมีความแค้น แล้วบทยุ้ยก็ไม่เหมือนเดิม เดิมมีแค่ครึ่งเรื่องเขาตายไปก่อน เหมือนเล่นยังไม่เสร็จ ซึ่งเรื่องนี้ตัวละครเยอะก็จริงแต่ไม่มีใครดร็อป ต่างคนมีเรื่องของตัวเอง”

 

 

ส่วนรุ่นลูก ผู้จัดเผยว่า “จะมีเปรี้ยวกับฐิสาที่เล่นเป็นลูกอั้ม และที่เราเลือกเปรี้ยวเพราะเปรี้ยวเล่นร้ายดูแรงดี ดูน่ากลัวมาก สมเป็นแม่ลูก แล้วหน้าตาไป ทางอั้มได้ ส่วนฐิสาดูน่าสงสาร น่ารังแกดี เวลาเข้าฉาก 3 คนไม่มีใครยอมใคร”

อั้มกังวลไหมที่ต้องมารับบทแม่ที่มีลูกโต ได้รับคำตอบว่า “เขาไม่กังวล เพราะเขาตั้งใจมาเล่นตั้งแต่แรก เป็นคนอยากจะแก่ แต่เราเป็นคนขออย่าแก่ คิดว่าคนดูคงอยากดูเขาสวยๆ มันแก่ด้วยแอ๊กติ้ง คนเราแก่แล้วสง่า เล่นด้วยแอ๊กติ้งที่มันช้าลง จังหวะการพูด ให้ไปปรับตรงนั้น เรารีเควสต์เองว่ายังไงอั้มต้องสวย อยากให้เป็นนางพญาพันปี”

เรื่องชุดเป็นยังไงบ้าง “จะเป็นสบันงาทำ คิดอลังการให้ใหม่ ดีไซน์ใหม่ เอานู่นนี่มาประยุกต์ ขุดผ้าของเก่าแก่ที่มีมูลค่าเอามาใช้ เครียดมากเพราะกลัวของเขาพัง ถ้าละครออกมาจะมีเปรียบเทียบเวอร์ชั่นเก่ากับใหม่ ซึ่งมันไม่เหมือนกัน เพราะเราไม่ทำให้เหมือน ทรงผมก็ดีไซน์ใหม่ แล้วทรงผมเดี๋ยวนี้เขาเก่ง ทำสำเร็จรูป เมื่อก่อนต้องนั่งรอปั้นหัว มีหลายสาเหตุที่เล่นไม่ไหวเพราะเจ็บหัว ตอนเวอร์ชั่นที่แล้ว กว่าจะทำผมเสร็จระบมหนักมาก แต่ครั้งนี้ดีไซน์มาอย่างเร็วและเบา”

เรียกว่าเป็นฟอร์มใหญ่ของปีนี้ได้เลยไหม “จริงๆ ทำตั้งแต่ปลายปี 2558 บทมันมาส่วนนึง แต่เวลาถ่ายมันต้องรอคน อย่างขึ้นไปเชียงใหม่จะจัดยังไงให้ขึ้นไป 10 วันจะให้ 20-30 คนอยู่ด้วยกันได้ ต้องขึ้นลงหลายรอบ”

ละครเรื่องนี้จะให้อะไรคนดูบ้าง “เรื่องความทะเยอทะยาน การไม่รู้จักพอ การที่จะปกครองคนต้องมีความเมตตา อย่างยุ้ยจะเป็นตัวแทนของความดี คิดบวกและเอาความดีชนะความชั่ว แต่คนที่คิดลบ คอยแต่จะจ้องจับผิด จ้องแต่จะเอาของคนอื่น แย่งชิง สุดท้ายจะเห็นผลว่าใครทำอะไรแล้วได้อย่างนั้น”

คาดหวังขนาดไหน ตุ๊กตากล่าวว่า “คาดหวังว่าคนดูจะพอใจและไม่ต้องมีใครมาถกเถียงกัน ตอนนี้เหมือนแฟนคลับแบ่งเป็นสองฝั่ง อะไรนิดหน่อยก็ปะฉะกัน อยากให้ดูกันแบบมีความสุข อย่าคิดมาก เพราะมันคือละคร”

สุดท้ายผู้จัดฝากว่า “ดูละครเพื่อความบันเทิง อย่ามานั่งจับผิดเลย มันเป็นเวอร์ชั่นที่เป็นเมืองสมมติ และทุกอย่างสมมติขึ้น ทั้งสิ้น ให้ดูถึงความตั้งใจดีกว่าค่ะ”

ติดตามชมละครฟอร์มยักษ์ “เพลิงพระนาง” ที่ขนทัพนักแสดงให้ชมเต็มจอ ทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. เริ่มศุกร์ที่ 17 ก.พ.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน