ณวัฒน์ มั่นใจ ฝ้าย สุภาพร หลักฐานแน่น พร้อมสู้คดี เต๋า ทีวีพูล แฉติดหนี้นับล้าน

วันที่ 21 ก.พ. ที่อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี มีการจัดงาน AOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPO SEASON 4 ในงานมี ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ มาร่วมงาน ในฐานะของพิธีกรของรายการครัวคุณต๋อย หลังจากงาน พิธีกรคนดัง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า เรื่องคดีของ ฝ้าย สุภาพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2016 หลังถูกคู่กรณี “เต๋า ทีวีพูล” นายภูมิพัฒน์ ธรรมพันธ์ ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญา และยังแฉนางงามแพ้คดีความหลังติดหนี้เกือบ 2 ล้านบาท

ณวัฒน์

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล – ฝ้าย สุภาพร มะลิซ้อน

โดย ณวัฒน์ เผยว่า “คดีตอนนี้ขึ้นสู่กระบวนการศาลอีกครั้งแล้วครับ ถ้าทางด้านแพ่งก็จะสืบกันอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 22 เม.ย. นี้ ตอนนี้ยังไม่ไปถึงไหนครับ คดีก็เริ่มต้นใหม่ครับ”

ฝ้ายหายเครียดไปบ้างหรือยังหลังจากที่มีการแถลงไปแล้ว?

“ไม่ได้เครียดเท่าไหร่ เพราะว่าเราไปคุยกับทางศาลแพ่ง เขาให้รื้อคดีและพิจารณาใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะฉะนั้นเรายังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ อาจจะใช้เวลาคาดการณ์ไว้น่าจะเป็นปีครับ เพราะว่าทางฝ้ายเขาจะมีพยานค่อนข้างเยอะในการมาพิสูจน์ข้อโต้แย้งในข้อกล่าวหา น่าจะมีประมาณเกือบ 10 คน รวมถึงสปอนเซอร์ที่ให้อะไรที่เป็นเงินได้ เป็นเงินไม่ได้ เราต้องไปยื่นต่อศาลให้ชัดเจน และคำกล่าวหาบางคำ เช่น บ้านไม่ติดขายอะไรพวกนี้ มันต้องไปดูในสัญญาว่ามันติดสัญญาหรือเปล่า สมมติคุณได้รถไป บริษัทรถยนต์เขาเซ็นเลยว่าห้ามขายต่อภายใน 1 ปี สมมุตินะครับ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เราก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะเป็นรางวัลที่เราต้องขับโชว์ ไม่ใช่ว่าเราได้รถยี่ห้อนี้มา วันรุ่งขึ้นคุณขายแล้วคุณใช้รถอีกยี่ห้อหนึ่ง แล้วสปอนเซอร์เขาจะเอาไปทำไม เขาให้แล้วเขาก็ได้รูปๆ เดียว คุณต้องเข้าใจ แต่ถ้าเกิดคุณจะเอาแต่ใจ มันไม่มีใครทำให้ได้ครับ แต่ที่ผ่านมามันเป็นการฟังความฝ่ายเดียว เนื่องจากว่าเราไม่มีสิทธิต่อสู้คดี หมายศาลมันไม่สามารถเข้าถึงตัวฝ้ายได้ มันก็จะเป็นวิธีการวิธีการหนึ่งคือถ้าเข้าไม่ถึง ผู้พิพากษาก็จะพิพากษาลับหลัง ก็คือโดยที่ไม่มีฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ผ่านมา แต่เมื่อพอเราทราบ เราก็สามารถไปร้องขอได้ในเหตุผลที่เรามีเพียงพอ ทางศาลก็ประทับตราอนุมัติ เริ่มต้นสืบความใหม่ นับ 1 อีกครั้งในวันที่ 22 เม.ย.นี้ครับ”

หลังจากที่แถลงข่าวไปแล้ว มีฟีดแบ๊กอะไรกลับมาบ้างมั้ย

“ไม่มีฟีดแบ๊กอะไรมาก นอกจากฝ่ายตรงข้ามชอบโพสต์เรื่องของคดีความ โพสต์เอกสารทางราชการ อันนี้มันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมาะ เพราะโดยปกติการนำเอกสารทางราชการมาเผยแพร่ มันก็เป็นความผิดในส่วนหนึ่ง และการทำให้คนอื่นเชื่อได้ว่าคนอื่นเป็นคนไม่ดี ซึ่งยังไม่ได้ตัดสินขาด มันก็เป็นการที่เรียกว่าหมิ่นประมาทได้ อันนี้เรากำลังคุยกัน อาจจะนำไปสู่อาญาครับ”

ทางคู่กรณีได้ติดต่อมามั้ย

“ไม่ติดต่อครับ ไม่มีติดต่อ นอกจากเล่นโซเชียลอย่างเดียว”

เขาบอกว่าเขายังเคารพเราอยู่เหมือนเดิม

“ถ้าเคารพต้องไม่ทำแบบนี้ครับ เพราะเราช่วยเขาหลายเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ถ้าคนเรามีความเคารพ นึกได้ว่าเกิดมาจากใคร นึกได้ว่าใครให้งาน นึกได้ว่าใครให้ยืม นึกได้ว่าทำอะไรกัน ต้องไม่ทำกันแบบนี้ เพราะว่าสิ่งที่น้องเขาได้ไปก็เยอะแล้ว เงินสดๆ 5 แสนกว่าบาท ผมว่ามันก็โอเคนะ (ยิ้ม)”

แสดงว่าหลังจากนี้ก็คงจะไม่มีการพูดคุยอะไรกันนอกรอบแล้ว

“ไม่ครับ ต้องปล่อยให้เป็นกระบวนการของศาลแน่นอนครับ แต่ว่าจะมีอาญาด้วยหรือไม่ก็เดี๋ยวรอติดตามภายในสัปดาห์นี้ครับ”

 

หลายคนยังสงสัยเรื่องที่ว่าส่งหมายศาลไปที่บ้าน แต่ไม่ได้รับหมาย ทำไมถึงไม่มีหมายตรงไปที่ต้นสังกัดด้วย

“เนื่องจากว่าฝ้ายเองไม่ใช่เป็นคนไม่มีถิ่นฐาน ถ้าไปตามบัตรประชาชนไม่เจอ ควรจะส่งที่ต้นสังกัดคือช่อง 7 เขาเป็นนักแสดงเซ็นสัญญา หรือทางบริษัทผม เพราะน้องเซ็นสัญญาอยู่กับผม เคยมีจดหมายมาทวงหนี้ส่งมาถูก ส่งมาที่บริษัทผม ถึงฝ้าย สุภาพร มะลิซ้อน ซึ่งเขารู้ว่าส่งที่ไหนแล้วจะถึง แต่เขาหลีกเลี่ยงที่จะไม่ส่ง พฤติกรรมเป็นแบบนั้น พอส่งที่บ้านเสร็จแล้วก็ขอใช้ประกาศ การประกาศเราก็ไม่รู้ว่าประกาศที่ไหน เขาไม่ได้ประกาศสื่อใหญ่ เขาประกาศสื่อท้องถิ่นเล็กๆ ประมาณ 2 นิ้วว่าถ้าไม่มาตามนี้ก็ถือว่าต้องยอมแพ้ อันนี้กฎหมายมันก็มีช่องเล็กๆ ให้สามารถที่จะใช้อะไรก็ได้ แต่ก็ยังโชคดีที่กระบวนการยุติธรรมยังฟังพื้นฐานความเป็นจริงว่าเราอยู่ที่นี่ เรามีตัวตน ตามเราได้ทุกเวลา ทำไมเราไม่อยากจะไป แต่เราถูกปิดบังเรื่องไม่ให้รับรู้ ช่วงตั้งแต่เขายื่นฟ้องต่อศาล ตัวเขาและคนรอบข้างไม่ได้โพสต์อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เงียบยาว ทำให้เราไม่รู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้น แต่พอพ้นไปปั๊บ ก็ยังเงียบอีกหนึ่งเดือน เพราะว่าหนึ่งเดือนหลังจากโพสต์แล้วมันเป็นช่วงอุทธรณ์ พ้นช่วงอุทธรณ์เขาถึงจะโพสต์ว่าชนะแล้ว ที่ผ่านมาเราเลยจะไม่มีสิทธิได้รับรู้เลยว่ามีการทำอะไรใดๆ ทั้งสิ้นให้เราได้รับรู้”

 

ตอนนี้มั่นใจแค่ไหนกับหลักฐานทุกอย่างที่เรามี

“เรามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว คนอย่างผมถ้าทำอะไรก็ต้องชัดเจน และถ้าไม่ชัดเจนผมก็จะไม่ทำ และถ้าเกิดเราผิดจริง เราก็ต้องทำในสิ่งที่เหมาะสม แต่ถ้าเราไม่ผิดและเรามีหลักฐาน และคิดว่าการกระทำบางอย่างมันไม่เหมาะสม เราต้องพิจารณามาด้วยหลักการที่ชัดเจนอยู่แล้ว”

เข้ามาช่วยฝ้ายเต็มตัวเลย

“ก็ยังอยู่ในสังกัด ไม่ช่วยก็ต้องช่วยครับ เพราะว่าต้องดูแลด้านเอกสาร ด้านทนาย และต้องดูในรายละเอียดหลายจุด มันก็เป็นเรื่องปกติครับ เพราะว่าเปรียบเสมือนลูกน้องผม”

ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหามาก่อนมั้ยกับนางงามคนอื่นๆ

“ไม่มีครับ คือเนื่องจากว่าการกระทำเหล่านี้มันไม่ได้เกิดขึ้นตอนที่มาอยู่กับผม มันแอบเกิดขึ้นติดตัวมาตั้งแต่ก่อนจะมาประกวด”

 

แบบนี้ต้องทำให้เป็นมาตรการชัดเจนต่อไปเลยมั้ย

“ทำแล้วครับ ปีล่าสุดก็ทำหมดแล้วครับ แต่บางทีผมก็ประกาศออกไปว่า คนสวยๆ คนจะมีอนาคตก็ดูดีๆ ว่าอย่าไปรับปาก รับคำ หรือเซ็นอะไรกับใคร บางทีมันไม่จบ มันมี และ แล้ว หรือ อย่างเช่น ผมถามว่าได้กิ๊ฟวอยช์เชอร์มา 300,000 บาททำศัลยกรรม ถ้าจะขอเป็นเงินสด 150,000 บาทจะทำยังไงดีล่ะ ในเมื่อเขาแสตมป์หลังกิ๊ฟวอยซ์เชอร์ว่าห้ามเปลี่ยนเป็นเงินสด มันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ต้องเอากิ๊ฟวอยช์เชอร์ไปทำใช่มั้ยครับ (หัวเราะ) แต่ที่เห็นสำนวนมาทั้งหมด กิ๊ฟวอยช์เชอร์ก็จะเอาเงิน อะไรก็จะเอาเงิน ขอโทษนะ รางวัลที่ได้มาทั้งหมด ถ้าจ่ายกิ๊ฟวอยช์เชอร์ให้เป็นเงินสดยังไม่พอเลยนะครับ (ยิ้ม) ผมว่าศาลคงเข้าใจในพฤติกรรมการกระทำ และศาลคงเข้าใจเรื่องเหตุและผล เราจึงมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์”

อินสตาแกรม tao_tvpool

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน