‘นาย’ก้าวข้าม‘ลูกดารา’ พัฒนาตัวพิสูจน์ด้วยผลงาน
‘นาย’ก้าวข้าม‘ลูกดารา’ – กลายเป็นพระเอกร้อยล้านแล้ว สำหรับ ‘นาย’ณภัทร เสียงสมบุญ ลูกชายสุดเลิฟของดารามากฝีมือ ‘หมู–พิมพ์ผกา’ หลังรับบท ‘ปาล์ม’ ในภาพยนตร์ “Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน” ค่ายจีดีเอช คู่นางเอกสาว ‘ใบเฟิร์น’ พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
◆ รู้สึกยังไงบ้าง เป็นพระเอกร้อยล้านแล้ว?
นาย – “ผมไม่เคยคาดหวังว่าจะเป็นพระเอกร้อยล้าน แค่สนุกกับการทำงาน มีความสุขกับการมากองถ่าย ไม่ได้คาดหวังอะไร แค่อยากมอบความสุขความสนุกให้ผู้ชม เวลาที่ได้ยินเสียงหัวเราะ เห็นรอยยิ้ม มันมีความสุขและหายเหนื่อยครับ”
◆ คาแร็กเตอร์ ‘ปาล์ม’ ในเรื่อง เป็นคนยังไง?
นาย – “จะมีความคล้ายและไม่คล้ายผม ความเหมือนผมคือห่วงใยเพื่อน ชีวิตจริงผมรักเพื่อนมาก ติดเพื่อน แต่สิ่งที่ไม่เหมือน หนึ่งคือความกวนตีน สองคือความขี้เล่น สามคือความอารมณ์ดีที่มันดีดเกินตัวผมในชีวิตจริง และการเข้าหาผู้หญิง ปาล์มมีมุขลูกล่อลูกชนซึ่งชีวิตจริงผมนิ่งๆ แต่ผมชอบมาก เล่นเรื่องนี้กลายเป็นคนอารมณ์ดี มีความสุข แกล้งคนแซวคนได้ ตัวผมจะอยู่ประมาณเลเวลนี้ แต่ปาล์มจะดีดขึ้นอีกเลเวล พอติดมาในชีวิตจริงกลายเป็นความพอดี”
Advertisement
◆ ไม่เคยเห็นนายมุมนี้มาก่อน?
นาย – “ใช่ครับ คือในเรื่องจะมีความ loser (ขี้แพ้) อยู่สูงมาก ตัวจริงผมก็มี และมีบางประโยคที่หยาบ ชีวิตจริงผมก็พูดกับเพื่อน แต่เวลาทำงานเราให้เกียรติสถานที่และคนที่เจอ แล้วในเรื่องได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในชีวิตจริงที่อยู่กับเพื่อน ใส่ความรู้สึกจริงๆ ที่ผมมีกับเพื่อนผู้หญิงที่สนิท ผมเล่นยังไงกับเพื่อน ก็เล่นกับใบเฟิร์นในเรื่องนี้”
◆ ชีวิตจริงมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิง?
นาย – “ครับ ชื่อ มีน เป็นเพื่อนรักผมเลย แต่ไม่ได้คิดเกินเพื่อนนะ จะมีแบ่งเส้นชัดเจน ผ่านช่วงชีวิตที่เศร้าเสียใจที่สุด เครียดที่สุด ร้องไห้แฮปปี้ที่สุด ตอนที่เล่น ผมก็เอาประสบการณ์จากเพื่อนคนนี้มาแชร์กับพี่หมูและใบเฟิร์น ถามว่าเคยมีโมเมนต์ เฟรนด์โซน มั้ย คือผมรู้สึกว่าการจะเริ่มต้นคบใครก็ต้องเริ่มจากคำว่าเพื่อนอยู่ดี แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทแล้วคิดเกินเลยยังไม่มีในชีวิตจริง”
◆ ร่วมงานกับใบเฟิร์น เป็นอย่างไรบ้าง?
นาย – “ดีมากครับ เขาส่งอารมณ์ให้ตลอดเวลา รับฟังความคิดเห็น เป็นคนตลก น่ารัก เป็นนักแสดงที่เก่ง คอยช่วยกัน ช่วงแรกที่เจอ ผมแอบเกร็ง เครียดถึงกับโทร.ไปหาวี วิโอเลต นางเอกเรื่องที่แล้ว ปรึกษาว่าจะทำยังไงดี วีก็แนะนำมา ถ้ารู้ว่าเขาเก่ง เราก็ต้องพยายามมากกว่าเดิม โชคดีได้วีช่วยคิดให้คำปรึกษา พอได้เวิร์กช็อปกันหลายครั้งก็ช่วยได้เยอะ ในเรื่องใบเฟิร์นดูบ้า ซึ่งชีวิตจริงมันก็เป็นคนบ้า (หัวเราะ)”
◆ เลิฟซีนกับใบเฟิร์นด้วย?
นาย – “ไม่เรียกว่าเลิฟซีน เกือบอีโรติกซีนเลย ใบเฟิร์นเป็นมืออาชีพมาก ผมสบายใจในการเข้าซีนกับเขา น่ารักมาก เป็นคู่หูที่ดีมาก”
◆ ผลงานละครปีนี้?
นาย – “กำลังถ่ายทำละครของช่อง 3 เรื่อง ทีใครทีมันส์ เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ ผมเล่นกอล์ฟอยู่แล้ว มีความฝันอยากเทิร์น โปรสักวัน เรื่องนี้ได้เล่นเป็นโปรกอล์ฟ เป็นบทที่ท้าทาย เล่นกับน้อง จีน่า ญีนา มีพี่หนุ่ม–กฤษณ์ เป็นผู้จัด และกำกับเองด้วย น่าจะได้ดูปีหน้า”
◆ เรียนจบแล้ววางแผนทำงานวงการยังไง?
นาย – “ผมมองว่าโอกาสเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ได้ฟิกซ์ตายตัว เราวางแผนไว้คร่าวๆ แล้วแต่โอกาสที่เหมาะสม ตอนแรกจะเรียนต่อปีนี้ แต่พอได้เล่นหนังเรื่องนี้ก็เลื่อนไว้ก่อน มาโฟกัสงานในวงการก่อน แต่ไม่ทิ้งเรื่องเรียน”
◆ เข้าวงการเต็มตัวมาไม่นาน?
นาย – “มีละคร 1 เรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอง โชคดีมีคนให้โอกาสได้รู้จักทำงานกับคนเก่งๆ ทำให้ผมพัฒนามากขึ้น ต้องขอบคุณทุกคนที่มอบโอกาสให้ผม ซึ่งอีก 10 ปีข้างหน้าผมก็คงทำงานจนไม่ไหว เหมือนแม่ ถ้าเรามีความสุขกับงานก็ทำไปเรื่อยๆ”
◆ ชีวิตวัยเด็กที่เห็นแม่ทำงาน กับตอนนี้ที่ตัวเองเข้าวงการมาทำงานเต็มตัว ต่างกันยังไง?
นาย – “ต่างกันมาก ตอนนั้นมีความสุข มาก ไปกองถ่ายเหมือนไปเล่นอยู่ในสวนสนุก โชคดีทำให้รู้ขั้นตอนการทำงาน พอโตมาได้มาทำงานเอง ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกใหม่ ได้มาทำงานตรงนี้จริงๆ เป็นอาชีพที่ต้องทุ่มเทมาก เพราะเห็นแม่ทำงานมา 30 ปี รู้ว่าต้องดูแลตัวเอง ต้องตรงต่อเวลา ต้องมีวินัยสูงมาก”
◆ คำว่า ลูกแม่หมู กดดันเราไหม?
นาย – “ไม่กดดันเลย ผมจะไม่ชอบคำหนึ่ง คือคำว่าลูกดาราตั้งแต่เด็ก แต่ผมเข้าใจว่าคำว่าดาราแปลว่าดวงดาว มันเป็นอาชีพที่ต้องทุ่มเท เหนื่อยมากๆ ในเบื้องหลังที่หลายคนอาจจะไม่ได้เห็น ผมเชื่อว่านักแสดงทุกคนจะเสียน้ำตากับเรื่องการแสดงเยอะมาก เครียด และเหนื่อยมาก ผมก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องทุ่มเท เป็นลูกแม่หมูถามว่าดีมั้ย ก็ดี เพราะแม่เป็นคนน่ารักมาก เวลาอยู่ในกองเขาจะมีวินัยสูง เป็นนักแสดงคุณภาพและเก่งมาก โชคดีที่แม่เหมือนเป็นแอ๊กติ้งโค้ชส่วนตัว”
“การเป็นลูกแม่หมูโชคดีมาก เขาใช้ประสบการณ์ 30 ปีมาเป็น ผู้จัดการผม และเป็นเหมือนกระจกสะท้อนเงาผม เขาไม่เคยคาดหวังในตัวผม ให้อิสระทุกอย่าง เป็นผู้จัดการที่รู้ใจมาก เขารู้และแบ่งเวลาให้ผมได้ใช้ชีวิตเป็นเด็กคนหนึ่ง ไม่ได้ให้ทำด้วยความหักโหมหรือโลภ ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ความยุติธรรม”
◆ พิสูจน์ผลงาน ก้าวข้ามคำว่า ลูกดารา?
นาย – “เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมแฮปปี้มาก ผมจะคิดกับตัวเองตลอด ไม่ว่าจะงานอะไร ถ้ามีคนตบมือให้ผม ผมอยากให้ตบมือให้เรื่องผลงานมากกว่าหน้าตา และอยากให้คนชมว่าเก่งมากกว่าคำว่าหล่อ มันเป็นสิ่งที่ผมแฮปปี้มาก ผมไม่เคยคิดว่าหน้าตาสำคัญ ตราบใดที่เราไม่เคยพัฒนาตัวเองมันจะไม่มีอะไรเมกเซนส์กับความชื่นชมที่ได้มาเลย เพราะฉะนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา หาความรู้ใหม่ๆ ใส่ตัว เราต้องเป็นน้ำไม่เต็มแก้วตลอดเวลา พัฒนาผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”
◆ ภาพที่คนมองว่าเราเพอร์เฟ็กต์?
นาย – “ผมไม่เชื่อว่าคนที่เกิดมาจะมีความเพอร์เฟ็กต์ครบทุกอย่าง ผมก็มีข้อเสีย มีนิสัยไม่ดีอยู่ในตัว มีอะไรที่เคยทำผิดพลาด”
◆ ความเป็นแม่ลูกรักผูกพันกันมาก
นาย – “มันเป็นเรื่องธรรมดา ใครจะหาว่าผมติดแม่ ขี้แหง่ ไม่สน เราอยู่สองคนมาตั้งแต่ผมเกิด มันคงไม่มีใครเข้าใจจริงๆ หรอกว่าความรู้สึกของคนที่เลี้ยงลูกเดี่ยวแล้วมีปัญหารุมล้อมเข้ามาตลอดที่ผ่านมา มันเหนื่อยมากแค่ไหน คนอาจจะติดตามข่าว แต่ไม่รู้จริงๆ หรอกว่าเป็นยังไง แต่ผมรู้ไงว่ามันเป็นยังไง ผมรู้ว่าเขาพยายามทำเพื่อผมมามาก สิ่งที่เราทำได้ก็เหมือนลูกคนหนึ่งที่ดูแลด้วยความจริงใจ แล้วยิ่งมาทำงานตรงนี้ ก็รู้สึกมีความสุขที่เขามาเป็นผู้จัดการเรา มีคนเหมือนรู้ใจมาทำงานคู่กับเรา
ตอนนี้ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะเข้าใจแหละ แยกออกชัดเจนว่าเขาเป็นผู้จัดการเราด้วย เป็นผู้จัดการที่เป็นแม่ในตัว ไม่มีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีเท่าเขาอีกแล้ว”
ชอบสาวอารมณ์ดีน่ารักจริงใจ–เข้ากับแม่ได้
ทั้งหล่อ นิสัยดี เป็นที่หมายปองของสาวๆ หลายคน แต่ใครจะเชื่อว่าหนุ่ม ‘นาย–ณภัทร’ จะหัวใจยังว่าง ซึ่งเจ้าตัวเผยสาเหตุว่า “เพราะผมเป็นคนบ้างาน (หัวเราะ) เรื่องหน้าที่มาก่อนเสมอ แต่ถามว่าปิดกั้นมั้ย ผมไม่ปิดกั้นนะ ก็คุยไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่าการที่มีคนมาชอบเราเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง ดีกว่าทำให้เขาเกลียดเรา
ผมเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา และไม่ปิดกั้น ถ้าสมมติว่าวันหนึ่งจะมีคนเข้ามาคุย ผมก็ยินดีตลอด ก็คุยได้ แต่ไม่ได้เป็นคนซีเรียสว่าต้องมีอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่เคยคิดอย่างนี้เลย เรามีสิ่งที่ชอบทำอยู่เยอะมาก ก็ปล่อยเป็นเรื่องธรรมชาติไป”
นายเป็นหนุ่มในฝันของสาวหลายคน สาวแบบไหนที่จะเอาชนะใจเราได้ “ผมชอบผู้หญิงอารมณ์ดีครับ อยู่ด้วยแล้วสนุก แฮปปี้เหมือนพี่โอปอล์ ผมชอบมาก ในชีวิตจริงเราทำงานเหนื่อย บางครั้งก็อยากได้เสียงหัวเราะ พอเราอยู่กับคนอารมณ์ดีคนรอบข้างจะสัมผัสได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องสวย ถ้าเขาน่ารักจริงใจ แค่นั้นก็โอเคมากแล้ว”
แม่หมูมีช่วยสแกนสาวไหม “ไม่นะ เขาก็ให้อิสระมาตลอด ไม่ว่าจะชอบใคร เพราะเขาก็รู้ว่ามันห้ามกันไม่ได้หรอก แต่เขาเชื่อใจเราแหละ” ที่นายไม่มีแฟน คนมองว่าแม่หมูหวง นายรีบแย้ง “ไม่ใช่ ไม่ได้หวง ผมเชื่อว่าทุกคนก็เป็นแหละ แม่ลูกธรรมดาก็ต้องมีความเป็นห่วงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องพวกนี้บังคับกันไม่ได้หรอก ต้องอาศัยการเชื่อใจกัน”
มีคุยทั่วไปปกติ เป็นเพื่อนกัน “ผมเป็นคนชัดเจนนะ ถ้าชอบใครผมก็จะบอกเลยว่าชอบ เราต้องให้เกียรติผู้หญิง ไม่ว่าเราจะเข้าหาก่อน หรือเขาเข้าหา มันก็ต้องทำทุกอย่างให้ดูให้เกียรติเขา”
วันหนึ่งมีแฟน กลัวกระแสแอนตี้จากแฟนคลับไหม “ไม่กลัวนะ ผมไม่ได้คิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ผมไม่ได้เป็นคนคิดมากเรื่องความรัก ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะผมเชื่อเรื่องธรรมะจัดสรร กับคำว่า ศีลเสมอกัน ผมรู้สึกว่าการมีความรัก ถ้ามีแล้วทุกอย่างมันต้องดีขึ้น ไม่ใช่ว่าคบกันแล้วทุกอย่างมันแย่ลง เหนื่อย เครียด ไม่ใช่แล้ว มันต้องคอยซัพพอร์ตกัน และกัน”
“มุมมองความรักของผม รักในสิ่งที่ทำ รักในสิ่งที่ชอบ มันไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบคนอย่างเดียว ก็มาในรูปแบบของงาน สิ่งของ บ้ารถ บ้ากล้อง รักกล้อง รักรถ เพื่อนผมว่าสำคัญที่สุด ในบรรดาทุกอย่าง การเป็นแฟนก็ต้องเริ่มจากเพื่อนก่อน วันสุดท้ายก็คงต้องเป็นเพื่อนกันอยู่ดี อยู่กันเป็นเพื่อน สุดท้ายเพื่อนคนรอบข้างของเราก็คือคนที่จริงใจกับเรามากที่สุด”
แม่หมูเคยพูดไหมว่า สาวที่จะเข้ามาต้องเป็นยังไง “ก็เคยพูดนะว่าเมกชัวร์นะว่าเขาจะดูแลแม่ได้ แค่นั้นแหละ ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดา แน่นอนอยู่แล้ว ต้องเข้ากับแม่ได้ เลือกใครมาอยู่ก็ต้องดูว่าเขาจริงใจหรือเปล่า เขาดูแลเราได้มั้ย ดูแลครอบครัวเราได้มั้ย แค่นั้นแหละ”
“แม่ก็ดุตามประสาแม่เป็นธรรมดา แต่เป็นคนมีเหตุผลทุกอย่าง ไม่เคยดุแบบอยู่ดีๆ ก็ดุ จะมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงโกรธ ทำไมไม่ชอบ เราอยู่กันด้วยเหตุผลซะมากกว่า” พระเอกหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย
วีรนุช จันทำ
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
