เร่งฟิตซ้อม ณเดชน์ เครียดคอนเสิร์ตครั้งแรก ควง ญาญ่า ทำโชว์สุดพิเศษ
วันที่ 26 มี.ค. ที่อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ CHANGE2561 SHOWBIZ โดย พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา จัดงานแถลงข่าว THE REAL NADECH CONCERT (เดอะ เรียล ณเดชน์ คอนเสิร์ต) ซึ่งพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนขึ้นโชว์คอนเสิร์ตของตัวเองครั้งแรก รวมถึงเรื่องที่ถูกจับซิกซ์แพ็กบนโปสเตอร์โปรโมตคอนเสิร์ตว่ารีทัชหรือเปล่า
โดย ณเดชน์ เผยว่า “ก็จะเป็นส่วนของโชว์ครับ ไหนๆ ก็ฟิตร่างกายมาขนาดนี้แล้วคงไม่ปล่อยให้มันเสียเปล่า ต้องเอามาใช้ในคอนเสิร์ตอยู่แล้วครับ ยังไงก็ต้องได้เห็นแน่นอน แต่ว่าจะเอาใช้ด้วยวิธีไหนนั้นก็ต้องรอดู”
จะทำให้เรากดดันไหม เพราะแฟนๆ ก็น่าจะรอดูซีนนี้เป็นพิเศษ ?
“ผมคิดว่าอาจจะไม่กดดันนะ แต่อาจจะตื่นเต้นมากกว่า เพราะว่าผมก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แถมมันเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของผมจริงๆ ส่วนเรื่องการซ้อมสำหรับผม อันนี้ผมไม่ค่อยกังวลสักเท่าไหร่เพราะผมมีเวลาซ้อมค่อนข้างเยอะ แค่อยากทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุดมากกว่า”
ซิกซ์แพ็กที่เห็นในภาพโปสเตอร์คือของจริงไม่ได้มีการรีทัชเลยใช่ไหม ?
“เอ่อ น่าจะรีทัชออกนะครั (หัวเราะ) มันก็ประมาณนั้นแหละ อาจจะด้วยแสงด้วยไฟเลยทำให้ดูชัดขึ้น แต่ในคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นทางทีมงานเขาก็จะมีการนำเสนอให้มันดูน่าสนใจมากขึ้นอยู่นะครับ ซึ่งผมก็อยากให้รอชมกัน อยากเห็นชัดๆ ต้องไปดูในคอนเสิร์ต ดีไม่ดีผมอาจจะกระโดดลงจากเวทีและจับมือคนดูมาลูบคลำก็ได้นะ(หัวเราะ)”
นี่คือความตั้งใจของเราที่อยากจะมอบให้กับแฟนคลับเลยใช่ไหม ?
“จริงๆ ก็อยากให้เขาได้ใกล้ชิดเราที่สุดนั่นแหละครับ ยังไงก็หวังว่าจะได้มอบความสุขให้กับทุกคนในวันนั้นได้อย่างเต็มที่นะครับ”
ส่วนตัวเราเองรู้สึกเครียดไหม เพราะนี่คือคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเรา ?
“เครียดครับ ยิ่งวันนี้พอได้ออกมาเปิดตัวแบบเดี่ยวๆ ด้วยแล้วความคาดหวังของคนดูมันก็อาจจะมากขึ้น ก็เลยทำให้รู้สึกตื่นเต้นครับ”
เรื่องกำลังใจสำคัญขนาดไหน สำหรับคอนเสิร์ตครั้งแรก ?
“บางทีเราก็ถามหากำลังใจเหมือนกันนะครับ อย่างวันนี้ลงเวทีมา ก็มาถาม พี่กู้ พี่อ๋า ถามแม่ ถามทุกคนว่าเป็นยังไงบ้าง ขอโทษพี่ฉอดถ้าวันนี้ผมทำอะไรไม่สมบูรณ์ก็ขออภัยด้วย คือถ้าเราทำเต็มที่แล้วได้รับเสียงขอบคุณมา มันก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจเหมือนกันนะ แต่มาตรฐานตัวผมเอง ก็ยังไม่ได้บอกว่าผมเก่งขนาดนั้น ต้องฝึกฝนและพัฒนาต่อไป บางทีถ้าเราเทียบเต้น สิ่งที่แดนเซอร์เขาทำ เขาทำได้ดีกว่าเราแน่นอน เราก็ต้องพยายามทำให้ดีเท่าแดนเซอร์เหมือนกัน เป็นอีกการบ้านที่ผมต้องไปฝึกฝนก่อนขึ้นคอนเสิร์ต”
แล้วน้อง ญาญ่า-อุรัสยา ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่สำคัญของเราไหม ?
“ก็เป็นครับ ถ้าเป็นเรื่องข้างใน เรื่องความรู้สึก เราจะคุยกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน เกี่ยวกับเม็ดเงิน เราจะไม่ค่อยคุย หรือเรื่องที่น้องไม่สามารถคุยกับคนอื่นได้ เขาก็จะมาคุยกับเรา ผมเองเรื่องที่คุยกับคนอื่นไม่ได้เราก็จะไปคุยกับเขา แต่ผมก็ถามนะว่างานนี้เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า แต่เรื่องตัดสินใจรับงานเราจะให้ผู้จัดการล้วนๆ แต่เรื่องความสัมพันธ์ ความรู้สึกเราจะคุยกัน”
ญาญ่าได้เป็นแขกรับเชิญขึ้นคอนเสิร์ตด้วย ?
“อันนี้คือเขาก็บอกนะว่า อะไรก็ได้ตามพี่ณเดชน์ ผมก็บอกไม่ได้ ยังไงก็ต้องมาจากเขาด้วย และให้เขาเลือกเพลงเหมือนกัน เขาก็ทำการบ้านครับ”
พาร์ตของ ญาญ่า หลายคนค่อนข้างเซอร์ไพรส์ ?
“เราเพิ่งทำการบ้านจบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเองครับ โดยมีการตกลงกันเรื่องลิสต์เพลงต่างๆ ซึ่งการมาร่วมโชว์ของน้องครั้งนี้ เราถามน้องเป็นหลักมากกว่าว่าน้องเขาอยากทำมั้ย อยากทำแนวไหน และอยากทำเพลงอะไรบ้าง ทุกอย่างมาจากตัวเขาเองเกือบทั้งหมดเลย”
แสดงว่าพาร์ตการโชว์นี้ตามใจ ญาญ่า ส่วนเราก็ทำให้เขาได้ทุกอย่าง ?
“ประมาณนั้นครับ คือให้เขาเสนอไอเดียมาประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอันไหนที่มันเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เราก็จะให้ผู้ใหญ่ช่วยดูแลในภาพรวม ซึ่งโชว์นี้ทุกคนจะไม่เคยดูมาก่อนแน่นอน เพราะเราเองก็ไม่อยากให้คนดูต้องมาเสียเงินดูสิ่งที่เขาเคยเห็นแล้ว เราอยากให้เขาได้เจอกับสิ่งใหม่ๆ มากกว่า”
อัพเดตเรื่องสุขภาพของ ญาญ่า เห็นว่ามีแพลนจะไปตรวจเรื่องอาการแพ้กับคุณหมอ ?
“เหมือนเขาก็อยากจะไปทดสอบดู ว่าเขาแพ้อะไรบ้างหรือกินอะไรไม่ได้บ้างมั้งครับ ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่รู้รายละเอียดนะ ไม่รู้ว่าเขาได้มีโอกาสไปตรวจแล้วหรือยัง”
เรามีความเป็นห่วงเขาอยู่ไหมเรื่องสุขภาพอาการแพ้ ?
“เป็นห่วงมาตลอดนะครับ เพราะการทำงานของเรามันเป็นการทำงานที่ไม่ค่อยเป็นเวลา ทำงานดึกนอนน้อย เรื่องสุขภาพมันก็เลยเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราควรจะต้องเป็นห่วง ดังนั้นก็ต้องคอยประคับประคองกันไป เท่าที่สังเกตสุขภาพเขาก็ดีขึ้น เพราะหลังจากที่เขาหายแพ้ยาตัวนั้นไป ก็ไม่ค่อยมีอะไรน่ากังวลสักเท่าไหร่”
ถามถึงเรื่องเปิดใช้อินสตาแกรม ชื่อว่า @wishforthaikids เป็นการทำโครงการเกี่ยวกับเด็กๆ ?
“ใช่ครับ ผมได้เปิดอินสตาแกรม แต่เป็นอินสตาแกรมที่ไม่ได้โพสต์รูปตัวเองนะ จะอัพเดตสิ่งที่เราทำให้กับสังคมเป็นหลัก มีชื่อว่า WishForThaiKids โดยเราเริ่มต้นจากตลาดนัดเด็กดอย และตั้งใจว่าจะพัฒนาที่นี่ให้ได้มากที่สุดก่อน จากนั้นจึงค่อยย้ายไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าใครอยากรู้รายละเอียดสามารถติดตามได้ในอินสตาแกรมครับ”
แสดงว่าอินสตาแกรมนี้เราตั้งใจจะไม่โพสต์รูปส่วนตัวแน่นอน ?
“ไม่ค่อยอยากจะโพสต์รูปส่วนตัวครับ ผมอยากจะนำอินสตาแกรมมาใช้ประโยชน์อีกแบบหนึ่งมากกว่า เพราะอินสตาแกรมหลักคุณแม่ท่านอาจจะเล่นให้เราแล้ว ฉะนั้นโดยส่วนตัวผม ผมก็อยากจะทำพื้นที่ตรงนี้มาใช้ประโยชน์ในอีกแบบครับ”
พอเป็นโครงการที่ทำเพื่อเด็กๆ แบบนี้ จะมีการเปิดรับบริจาคหรืออะไรไหม ?
“อาจจะไม่ถึงขนาดนั้นครับ เพราะปัจจัยส่วนใหญ่ก็มาจากเราเองนี่แหละ เนื่องจากผมไม่อยากจะไปข้องเกี่ยวเรื่องเงินกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่อย่างมากพอมีแฟนคลับที่รู้เขาก็จะมาช่วยสมทบทุนบ้าง ซึ่งเราเองก็ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไร เพราะถ้าหากเกิดปัญหามาเดี๋ยวจะซวยเอง ดังนั้นเรื่องเงินผมจึงไม่ค่อยยุ่งครับ ผมจะใช้เงินของตัวเองเป็นหลักมากกว่า”
สงกรานต์ใกล้จะมาถึงแล้ว มีแพลนท่องเที่ยวแล้วหรือยัง ?
“ตอนแรกก็ตั้งใจจะไปหาคุณลุงคุณป้าที่ประเทศญี่ปุ่น แต่พอคุณลุงท่านเสียก็เลยตั้งใจจะว่าไปเคารพศพท่านด้วยเลย ดังนั้นคงไปเหมือนเดิมครับ ไปประเทศญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ ถามว่าจะพาน้องไปด้วยกันมั้ย ยังครับ คือเราคุยกันแล้ว แต่ไม่ได้มีการแพลนอะไร ถ้าได้ไปก็คงจะเห็น (ยิ้ม)”
อินสตาแกรม @urassayas / @keaw_jung
