‘เป้’ปรับ‘อาราโกชิน่า’ฟังง่าย ไม่ท้อ-ดนตรีคือส่วนหนึ่งในชีวิต
‘เป้’ปรับ‘อาราโกชิน่า’ฟังง่าย – ส่งเพลง “ไม่ต้อง ทำหรอกบุญ” ในอัลบั้ม “อาราโกชิน่า (ARAGOCHINA)” ออกมาทักทายแฟนเพลง สำหรับนักร้องหนุ่ม ‘เป้’อารักษ์ อมรศุภศิริ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเพลงที่ฟังยากแต่อยากให้ลองฟัง แต่ไปคุยกับหนุ่ม ‘เป้’ ถึงเพลง “ไม่ต้องทำหรอกบุญ” กันก่อนดีกว่า
◆ ฟีดแบ็กเพลง “ไม่ต้องทำหรอกบุญ” เป็นยังไงบ้าง
เป้ – “เรื่อยๆ นะครับ เพลงนี้แต่งมาจากตอนที่เราใช้ชีวิต ผมว่าการทำบุญมันเป็นกุศโลบาย ว่าให้คนทำดีอยู่ในกรอบในศีล ขอพรอะไรก็เป็นการเตือนสติว่าขอพระไปแล้วก็จะไปทำให้มันเป็นจริง แต่กับคนบางประเภทไม่ใช่แบบนั้น ขอพรไปแล้วก็ทำตัวปกติ
คือทำตัวไม่ดีเลย เลยรู้สึกว่ามันไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าเราจะตีความในแง่ของความรักก็คือ ถ้ายังโกหกยังนอกใจแฟนอยู่ก็ไม่ต้องทำหรอกบุญ (ยิ้ม) จะว่าไปเพลงนี้ก็แต่งเอามันด้วยแหละ แต่ถ้ามันจะมีผลให้ความคิดของคนเปลี่ยนไปนิดหนึ่งก็ดีครับ”
◆ ยังเป็นคนที่ชอบเอาเรื่องรอบตัวเองมาเล่าเป็นเนื้อเพลง
เป้ – “ใช่ครับ แต่ว่าเพลงต่อๆ ไปในอีพีอัลบั้มใหม่จะไม่ใช่แนวนี้แล้ว อีพีอัลบั้มใหม่นี้มีชื่อว่า อาราโกชิน่า เพลงที่เหลืออีก 5 เพลงจะไม่มีเพลงแบบ ไม่ต้องทำหรอกบุญ ผมเลือกที่จะเอาเพลงนี้มาเป็นเพลงเปิดตัวอีพีอัลบั้ม เพราะว่าถ้าเราปล่อยเพลงที่คิดว่ามันป๊อปปูลาร์กว่านี้ ฟังง่ายกว่านี้ แล้วเดี๋ยว ไม่ต้องทำหรอกบุญ มันจะไม่มีที่ยืน(หัวเราะ) ผมเลยปล่อยเพลงที่ฟังยากที่สุดในอัลบั้มออกมาก่อน”
◆ ชื่ออัลบั้ม อาราโกชิน่า มาจากอะไร
เป้ – “มาจากที่พี่เล็ก(ฮิวโก้) เขาส่งเพลงไปกลับกับเรา แล้วอัลบั้มนี้ทำกันโดย อารักษ์ ฮิวโก้ และมาชิน่า แล้วเวลาส่งไฟล์กลับมาเขาเขียนว่า อาราโกชิน่า(ARAGOCHINA) ผมก็งงว่ามันคืออะไร จนมารู้ทีหลังก็เลยคิดว่าเอาชื่อนี้แหละเป็นชื่ออีพีอัลบั้มไปเลย แต่ความจริงมี น้องบิ๊ก เดอะ ปีศาจแบนด์ อีกคนนึงร่วมทำด้วย”
◆ ทำไมถึงคิดจะทำเป็นอีพีอัลบั้มออกมา
เป้ – “ตอนแรกผมมีเพลงเยอะครับ พอไปเจอพี่เล็กก็เปิดอัลบั้ม DAYTONA ของ Pusha T ให้ฟัง ซึ่งเป็นอัลบั้มแร็พที่ซาวด์มันเจ๋งมาก หลังจากนั้นผมก็กลับไปฟังอีกและชอบมาก เลยคุยกับพี่เล็กว่าอยากทำแนวนี้ใช่มั้ย โอเคได้เลย แต่ผมมีเพลงอยู่ประมาณนี้และแต่งจากกีตาร์โปร่ง พี่เล็กฟังไปทั้งหมด 10 กว่าเพลง
ปรากฏว่าพี่เขาเลือกมาทำแค่ 5 เพลง บางเพลงที่เขาทิ้งไป ผมก็ถามว่าทิ้งจริงๆ เหรอ พี่เล็กบอกว่าไม่ใช่ชุดนี้ ชุดนี้ต้องเป็นเพลงไม่จริงใจ (หัวเราะ) เพลงอกหักอะไรที่มันซีเรียสๆ มาจากความรู้สึกจริงๆ อย่าไปเอา มันต้องดูกวนบาทา ต้องด่า ต้องเหน็บนิดนึงอะไรแบบนั้น”
◆ คิดไหมว่าเพราะอะไรเพลงของเรามันยังไม่ไปในวงกว้าง
เป้ – “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ บางทีมันอาจจะออกมาในช่วงเวลาที่ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ด้วย สุดท้ายคือมันก็โทษอะไรไม่ได้ ต้องโทษตัวเองที่อาจจะพาเพลงเข้าไปไม่ถึงคนฟัง หรือว่ามันเป็นภาพลักษณ์ของวงที่ทำให้คนเขามองไปในแง่ของเพลงที่ฟังไม่รู้เรื่องไปแล้ว ทั้งที่อัลบั้มชุดใหม่ๆ มันก็ฟังง่ายขึ้นแล้ว เข้าใจ รู้เรื่อง ไม่ได้มีอะไรที่ยุ่งยากเกินไป ในฐานะที่เป็นศิลปินก็อยากจะให้คนได้ฟังเพลงที่ใหม่ที่สุดของตัวเองเสมอ”
◆ เคยอยากจะทำเพลงออกมาให้แมสสุดๆ สักเพลงหนึ่งไหม
เป้ – “ความจริงในอีพีอัลบั้มนี้มันมีเพลงแบบนั้นประมาณ 2-3 เพลง แต่ว่าเพลงที่มันเกิดขึ้นมามัน เกิดจากที่ผมอกหัก (หัวเราะ) หักเป๊าะดังมากและร่วงลงมาแรงมาก แล้วมันก็มี 1 เพลงที่คิดว่าอาจจะดังได้นะ ซึ่งเป็นเพลงที่ตอนแรกไม่ได้อยู่ ใน 5 เพลงที่พี่เล็กเลือกมา แล้วผมก็เติม เข้าไปใหม่ เพลงนี้ชื่อว่า สอนใคร มาจากประสบการณ์ส่วนตัวเลย
ก่อนที่ผมจะเจอเหตุการณ์นี้มีเพื่อนคนหนึ่งอกหักแรงมาก แล้วมาปรึกษาผม ผมจะคอยสอนและให้คำปรึกษาตลอด แต่พอวันนึงมาเจอกับตัวเอง อะไรทุกอย่างที่เคยสอนเพื่อนไปตัวเองทำไม่ได้เลย (หัวเราะ) ….ตั้งแต่วันนี้จะไม่สอนใคร! แล้วก็ยังมีอีกหลายเพลงที่มันแมสมากจริงๆ อยากให้รอฟังกันครับ”
◆ แอบหวังไหมว่าอีพีอัลบั้ม “อาราโกชิน่า” น่าจะเข้าไปถึงคนได้มากขึ้น
เป้ – “ไม่รู้เลยครับ รู้แต่ว่าเพลงในอัลบั้มนี้มันไม่ยาก ส่วนว่ามันจะทะลุทะลวงเข้าไปในใจคนหรือเปล่า อันนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวผมแล้ว”
◆ หลังจากนี้ในทุกๆ อัลบั้มที่ออกมาจะเปลี่ยนสีตัวเองไปเรื่อยๆ ไหม
เป้ – “ใช่ครับ คือเราเปลี่ยนมาตลอดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ตอนแรกเป็นโฟล์ก ตอนหลังอยากมีวงก็เป็นคันทรีแบนด์ จากนั้นก็เป็นร็อกแบนด์ จนมาตอนนี้ก็ไม่มีเครื่องดนตรีเหลือเลย มีแต่อิเล็กทรอนิกส์ ต่อจากนี้อาจจะเป็นโมทาว อาร์แอนด์บีย้อนยุคไปเลย”
◆ ยังเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นกับเส้นทางดนตรี แม้ว่าจะเจออุปสรรคอะไรก็ตาม?
เป้ – “ได้ประมาณหนึ่งครับ ถามว่ามันเคยมีจุดน้อยเนื้อต่ำใจหรือท้อใจมั้ย มีทุกวันเลยครับ(หัวเราะ) เล่นละครมันก็ดีแหละ ยังไงผมก็ต้องเล่นละคร แต่ดนตรีมันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ผมรัก ชอบมีคนถามว่าผมทำธุรกิจอะไร ผมก็จะตอบว่าผม ทำวง ถ้ามองในแง่เงินตรามันก็เหมือนกับการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง แต่ตอนนี้มันยังตัวแดงอยู่ ผมก็ค่อยๆ คิดว่าธุรกิจตัวนี้มันจะประสบความสำเร็จในสักวันหนึ่ง จริงๆ มันเป็นเรื่องของความฝัน แต่เราตีความให้เข้าใจในมุมของคนอื่นก็คือการลงทุน”
◆ 14 ปี ในวงการบันเทิงเป็นยังไงบ้าง
เป้ – “หลายคนที่เห็นผมมาตั้งแต่สมัยผมยาวเข้าวงการแรกๆ จะมีความคิดว่าเด็กคนนี้มันจะอยู่วงการได้นานเหรอ ตัวผมยังคิดเองเลยว่าจะอยู่ในวงการนี้สักกี่ปีนะ (หัวเราะ) เดี๋ยวก็จะกลับไปทำชิปปิ้งที่บริษัทที่บ้านละ กลายเป็นว่าทุกวันนี้ยังอยู่อยู่เลย”
◆ คิดว่าตัวเองมาได้ไกลเหมือนกันไหม
เป้ – “แต่มันกลายเป็นว่ามันแค่มาไกล สุดท้ายแล้วมนุษย์ถ้ามองกันจริงๆ เขาสนปัจจุบันมากกว่า ฉะนั้นถ้างานในปัจจุบันเรามันไม่ได้ดีเท่าเมื่อก่อน เราก็โม้หรือทะนงตัวไม่ได้ ซึ่งช่วงนี้ผมก็พยายามที่จะทำให้งานของผมมันดีและมีคนชื่นชอบเยอะเหมือนเมื่อก่อน”
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
