วันที่ 10 มี.ค. ที่สตูดิโอช่อง 8 แอน-อังคณา ทิมดี อดีตนางแบบ-นักแสดงชื่อดัง มาเปิดใจหลังฮึดสู้ผ่านวิกฤตป่วยขั้นโคม่า พร้อมเผยถึงเรื่องราวชีวิตที่ไม่ประสบความสำเร็จ จนถึงขั้นหมดตัว

โดย แอน เผยว่า “ออกมาจากโรงพยาบาลได้อาทิตย์กว่าๆ แล้ว ตอนนี้อาการป่วยหายเกือบ 80% แล้ว ขายังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ มันเกี่ยวกับเลือดที่ไม่ไปหล่อเลี้ยงที่ขาและสมองด้วย แต่ทุกอย่างโอเคหมดแล้ว ยังต้องกลับไปเช็ค ไปตรวจเลือดตลอด ก็เพิ่งไปมาเมื่อเร็วๆ นี้เอง ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว หมอแค่ห้ามทานเค็ม ห้ามทานของมัน จริงๆ แล้วไปโรงพยาบาลแรกวินิจฉัยไม่ว่าเป็นโรคอะไร โรงพยาบาลที่สองก็ตรวจหาไม่เจอ จนมาโรงพยาบาลเลิดสินถึงได้ตรวจเจอ ก็รู้ว่าเราเป็นโรคเลือด ติดเชื้อในกระแสเลือดของตัวเอง เราเป็นภูมิแพ้เลือดตัวเอง ส่งผลให้ตับอักเสบ เรื่องตับเป็นอะไรที่รักษายากมาก แต่กำลังใจดี และหมอดีตับก็เลยหายก่อน และต้องเจาะท้องเอาน้ำออก เพราะพุงป่องเหมือนคนท้อง 8 เดือน”

 

ที่เราหายเหมือนเป็นปาฏิหาริย์ไหม “ปาฏิหาริย์เลยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้น่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน วันแรกที่แอดมิทแอนจะกลับบ้าน แต่หมอไม่ให้กลับ ถ้ามาช้าวันนึงแอนตายแล้วเพราะแอนเดินไม่ได้เลย ตัวแอนซีดไปหมดมันขาดเลือดอย่างแรง คนเราปกติมีเลือดในร่างกาย 38% ของแอนมีแค่ 15% เข้าโรงพยาบาลวันแรกให้เลือด 4 ถุง สาเหตุเกิดจากความเครียด เราเป็นโรคซึมเศร้า ไม่มีงานทำ ไม่อยากเจอผู้คน และขาดสารอาหาร แอนเป็นคนไม่ทานแป้งกลัวมันจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล กลัวจะอ้วน จนเราผอมมากหน้าตอบ คนคิดว่าแอนไปทำไรกับหน้ามา ไม่มีค่ะ หน้านี่ของจริงหมด จริงๆ อาการเป็นมานานแล้วแต่ไม่เคยบอกใคร เดินไม่ได้เข้าห้องน้ำต้องคลานเอา ตอนนั้นเรารู้สึกแย่ไม่อยากรับอะไรแล้ว”

“เราเครียดไม่มีงานทำ ลงทุนทำอะไรก็เจ๊ง โดนเขาโกงบ้าง ทำอะไรไม่เคยประสบความสำเร็จต้องเป็นลูกจ้างอย่างเดียว ตอนนี้ไหวแล้วนะคะ ใครอยากให้เล่นละครก็โอเคแล้ว ร่างกายพร้อมสมองโอเค เรามาฮึดสู้เพราะเพื่อนๆ ให้กำลังใจดี แอนคิดว่าใครๆ ก็ยังเป็นห่วงเรา เราจะไม่ห่วงตัวเองได้ยังไง ตอนนั้นไม่มีเงินค่ารักษาก็แพงมาก ตอนแรกห่วงที่สุดคือถ้าเปลี่ยนตับต้องอยู่อีก 3 เดือน กลัวมาก เราพยายามแป๊ปเดียวก็หายเลย หมอบอกจริงๆ เธอช่วยตัวเอง 50% ฉันช่วยเธอแค่ 50% เพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกัน 40ปี ก็มาเยี่ยมกันหมด เราดีใจมาก ดาราน้องๆ หลายคนที่แอนไม่รู้จักก็มาเยี่ยม ต้องขอบคุณทุกคนเลยนะคะ มาช่วยบริจาค พี่ๆ ก็ไปเล่นคอนเสิร์ตหาเงินให้เรา พี่เสก โลโซ แอนไม่รู้จักเขาเลยนะ เขาน่ารักมาก โทรมาบอกจะจัดคอนเสิร์ตเอาเงินส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือแอน และมีบิลลี่ โอแกน ด้วยมาหาถึงโรงพยาบาลเลยนะ ตอนนั้นนักข่าวอยากเข้าไปสัมภาษณ์ต้องขอโทษจริงๆ หมอเขาสกรีนคนมากไม่ให้เข้า เพราะกลัวเราติดเชื้อ”

 

รู้สึกอย่างไรบ้างที่หลายคนเป็นห่วง และเข้ามาช่วยเหลือ “วันที่เข้าโรงพยาบาลแอนไม่มีเงินเลยนะ ถ้าไม่ได้บี-วัลวิภา กับ เฮเลน แอนก็แย่เหมือนกัน เพราะเขาชวนไปทานข้าว เราก็ไม่อยากไปเดินไม่ไหว แต่บีกับเฮเลนบอกพี่แอนต้องมา เพราะมีใครไม่รู้ถ่ายรูปเราแล้วเอาไปลง บีก็เลยเรียกแอนมาเดี๋ยวจะเลี้ยงข้าว กินได้คำสองคำก็กินไม่ได้แล้วมันจะอ้วกอย่างเดียว พอจะไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านก็ล้มหัวฟาดพื้นตรงนั้นเลย คนแถวนั้นมาช่วยหามขึ้นรถเฮเลนมาที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถามว่าค่ารักษาพยาบาลเยอะไหม ก็หลายแสนค่ะ มีมูลนิธินึงมาช่วยด้วย มีคนช่วยจากหลายๆ ทางเยอะมาก ที่ที่แอนเคยไปทำบุญ พวกดีไซเนอร์สมัยก่อนที่เราเดินแฟชั่นโชว์ ทุกคนมาช่วยใส่ซองให้เป็นหมื่นๆ นะ แอนมีบัตร 30 บาทด้วย ตอนนี้ค่ารักษาพยาบาลก็เคลียร์เรียบร้อยหมดแล้ว”

เราทำงานมาหลายปี เงินทองไปไหนหมด “ภาระแอนเยอะ และเราชอบลงทุน เปิดร้านอาหาร เปิดผับ เปิดร้านเสื้อผ้า ร้านเสริมสวย ทำทุกอย่าง ใช้เงินเก็บเงินไม่เป็น ตอนนั้นงานมีโฆษณา เล่นละคร เล่นหนัง ร้องเพลง ทำงานเยอะ แต่พอเอาไปลงทุนทำไรแอนมักจะไม่ประสบความสำเร็จสักครั้ง งานสุดท้ายทำรายการเกี่ยวกับสุขภาพ แอนหมดไปเป็นล้านๆ เรื่องราวต่างๆ สอนอะไรเราเยอะมาก แต่ครั้งนี้เป็นครั้งรุนแรงที่สุดแล้ว แอนถึงขนาดไปหาผู้ใหญ่มีงานอะไรแอนฝากเนื้อฝากตัวนะคะ รถ เครื่องประดับ กระเป๋าที่เคยมีขายหมดเลย บ้านยังอยู่แต่ก็โดนยึด ตอนนี้กำลังคุยอยู่ แอนเพิ่งออกจากโรงพยาบาลงานยังไม่มี ก็มาช่วยเพื่อนทำร้านสปากระเป๋า และทำเล็บ เราต้องออกจากบ้านบ้างเดี๋ยวจะเป็นโรคซึมเศร้าอีก มาถึงวันนี้แอนจะไม่ท้อแล้ว จะสู้ต่อไป แอนคิดจะถ่ายหนังสืออีกสักเล่ม น่าจะเป็นเล่มสุดท้าย จะมีเพื่อนๆ นางแบบและดารา หลายคนที่อยากมาถ่ายกับแอนด้วย จะเป็นใครบ้างต้องคอยติดตาม ถามว่าเป็นแนวเซ็กซี่ไหม ก็เป็นชุดว่ายน้ำสวยๆ โชว์หุ่น ไม่ถึงกับเปลือย”

วางแผนชีวิตจากนี้ไว้อย่างไรบ้าง “ต้องค่อยๆ ไปก่อน ตอนนี้ไม่มีการลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น เป็นลูกจ้างเขาไปก่อนง่ายดี ไปช่วยร้านเพื่อนๆ แอนก็มีร้านทำผมอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 6 นะ แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีก็เลยไม่ได้แบ่ง ก็ยังพอมีรายได้จากตรงร้านนี้ด้วย สุขภาพก็ต้องดูแล ห้ามกินเค็ม ข้าวก็กลับมาทานแล้ว แต่ไม่ได้ทานเยอะ ทานแบบพอดี เวลาเดินก็ต้องค่อยๆ ถ้าล้มมา นี่ไปเลยนะ หมอบอกห้ามล้มเด็ดขาด เพราะเรายังไม่แข็งแรงดี ก็มีเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมา 40 กว่าปีคอยดูแล แอนไม่มีครอบครัวเราเพื่อนเยอะไม่เหงาค่ะ ก็มีคนมาจีบนะกำลังดูๆ อยู่ แต่เราดันมาป่วยเขาก็คงไม่เอาแล้วมั้ง(หัวเราะ) ฝากถึงผู้จัดทุกท่าน แอนกลับมาเหมือนเดิมแล้วนะ ถ้าใครขาดนักแสดง แอนเล่นได้หมดฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน