แต้ว-ณฐพร เผย ดราม่าอาหารเสริมส่งผลกระทบ คนถามทำไมยังทำอยู่

วันที่ 8 พ.ค. ที่ ห้องฟังก์ชั่น ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 4 อาคารไปรษณีย์กลาง แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ให้สัมภาษณ์ในงาน “RADO NOVELTIES 2019” เอ็กซ์คลูซีฟ ปาร์ตี้ ฉลองเปิดตัวเรือนเวลาคอลเลกชั่น ประจำปี 2019 ถึงเรื่องที่ถูกโยงปมดราม่าอาหารเสริมที่มี ‘ต้นหอม-ศกุนตลา’ และ ‘มะตูม-เตชินท์’ เป็นเจ้าของ หลังนางเอก ‘ปู-ไปรยา’ ขอถอนตัวและกำลังมีเรื่องฟ้องร้องจนเป็นข่าวดัง รวมถึงการรวมตัวของแก๊งเฟอร์บี้ล่าสุดที่ไร้เงา ‘แมท-ภีรนีย์’ อีกแล้ว

มาร่วมงานนาฬิกา

ล่าสุดแก๊งเฟอร์บี้นัดกันกินข้าว แต่ไร้เงาแมทอีกแล้ว?
“นั่นสิ! ทำไมไม่มาเนี่ย(หัวเราะ) จริงๆ ก็ชวนค่ะ ทุกครั้งที่นัดมาเจอกันก็พยายามจะเจอกันให้ครบ แต่ว่าแมทอาจจะติดธุระ เขาก็ไม่ได้ถึงกับว่าขอโทษเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ครั้งนี้ไม่มาเดี๋ยวครั้งหน้าก็ค่อยมาเจอกันใหม่ก็ได้”

ตอกย้ำว่าความเป็นเฟอร์บี้ยังอยู่เนอะ?
“ไม่มีความเป็นเฟอร์บี้อะไรหรอกค่ะ พวกเราก็ชอบทำกิจกรรมโดยเฉพาะเรื่องการกิน(หัวเราะ) เลยสามารถไปด้วยกันได้เรื่อยๆ ค่ะ”

เห็นหนุ่มๆ ของแต่ละคนมากันครบเลย?
“ใช่ค่ะ ทุกคนโอเค ยิ่งถ้าเป็นเรื่องกินทุกคนเข้ากันได้ดีมาก(ยิ้ม) ล่าสุดคือคุยกันเรื่องไปเที่ยวเยอะมาก ว่าอยากไปไหนกัน ถามว่าจะมีทริปที่ไปครบกันทุกคนทุกคู่มั้ย อันนี้ไม่อยากสัญญาเลยค่ะ คือคิดนะ แต่ด้วยความที่คิวของแต่ละคนแน่นมาก ถ้าเป็นทริปกะทันหันอาจจะไม่ได้ อาจจะต้องแพลนกันล่วงหน้านานมากๆ ขั้นแรกคิดว่าเอาแค่นัดทานข้าวให้ครบก่อนดีกว่า(หัวเราะ)”

ครบคู่

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่

ถามถึงดราม่าเรื่องอาหารเสริม กระทบมาถึงตัวเรายังไงบ้าง?
“สำหรับแต้วเองเลยก็มีกระทบบ้างค่ะ หลายกระแสก็ถามว่าทำไมยังทำอยู่ ซึ่งเราก็คิดว่ามันเป็นความรับผิดชอบของเราที่อย่างต้องทำ แล้วเราก็ไม่ได้คิดจะเลิกอะไรเพราะว่าไม่ได้มีปัญหา”

ค่อนข้างมีหลายคนที่ห่วงในการทำธุรกิจครั้งนี้ของเรา?
“จริงๆ ไม่ได้เพิ่งจะมามีคนเป็นห่วงตอนนี้นะคะ แต่พอมันมีการตัดสินใจหรือการเปลี่ยนแปลงที่เราเข้ามาทำธุรกิจตรงนี้ก็มีคนเป็นห่วงและพูดถึงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถามว่าข่าวที่เกิดขึ้นลดทอนความเชื่อมั่นในตัวเราลงบ้างไหม ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องของความเชื่อมั่นอะไรยังไง เพราะตรงนั้นไม่ใช่ในฐานะนักแสดงซะทีเดียว แต่เป็นเหมือนกับการที่เราได้ลองเข้าไปทำในธุรกิจใหม่ๆ”

บทบาทของแต้วในธุรกิจที่ทำอยู่คืออะไร?
“สำหรับแต้วคำว่าบอสกับพรีเซนเตอร์มันเป็นความหมายที่ก้ำกึ่งกัน หมายถึงว่าในความเป็นบอสมันก็มีความเป็นพรีเซนเตอร์อยู่แล้ว ส่วนในเรื่องของบอส คำนี้หมายถึงการที่เราเข้าไปดูในเรื่องของการโปรโมตและทำมาร์เก็ตติ้งให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งมันก็มีความคาบเกี่ยวกับการเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย สำหรับแต้วในสัญญาระบุชัดเจนว่าอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่าเอททีน เป็นพรีเซนเตอร์ และทำหน้าที่บอสในส่วนของการพีอาร์ ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเราก็เราก็แฮปปี้และโอเคในหน้าที่ของตัวเอง รู้สึกว่าไม่ได้ขาดตกบกพร่องอะไร”

เกิดเหตุการณ์ล่าสุดขึ้นมาทางต้นหอมและมะตูมได้โทรมาอธิบายอะไรให้ฟังไหม?
“ไม่นะคะ ไม่ได้มาชี้แจงอะไร ส่วนตัวมองว่ามันเป็นสินค้าอีกตัวหนึ่งที่นอกเหนือจากการรับผิดชอบของเรา เราได้แต่ให้กำลังใจเขาว่าสู้ๆ นะ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป”

บอส

ด้วยความที่เป็นบริษัทเดียวกัน มันมีผลกระทบมาถึงผลิตภัณฑ์ที่เราเป็นพรีเซนเตอร์ไหม?
“จริงๆ มันมีผลกระทบตั้งแต่ก่อนที่จะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วค่ะ ในเรื่องของกระแสอาหารเสริมที่มีมาก่อนหน้านี้ เลยไม่ชัดเจนว่าจากตรงไหน

เราต้องอยู่ในสัญญาอีกกี่ปีกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์และบอส?
“ทั้งหมดก็ 2 ปีค่ะ ตอนนี้ก็อยู่ในส่วนของปีที่ 2”

เรามั่นใจแค่ไหนว่าสัญญาของเราจะไม่มีปัญหาในอนาคต ?
“ไม่มีนะคะ เพราะโดยส่วนตัวเราเคลียร์กับทางบริษัทชัดเจนในส่วนของสัญญา”

การทำงานของเรากับพี่ต้นหอมและพี่มะตูมแฮปปี้ไหมที่ผ่านมา?
“โอเคเลยนะคะ การทำงานของเรามันชัดเจนว่าใครทำอะไรแค่ไหน ส่วนเรื่องของผลประโยชน์ก็มีระบุชัดเจนในสัญญาค่ะ”

อ่านข่าวเพิ่ม : เดือดในเดือด! ดีเจมะตูม VS ปู ไปรยา นัดแถลงปมดราม่า วัน-เวลาเดียวกันเป๊ะ

สำหรับเอททีนสถานการณ์ยอดขายที่เกิดขึ้นกับตัวแทน ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ยังไม่ได้ดีขึ้นมากค่ะ มันด้วยหลายๆ อย่างที่เหมือนกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เราก็อยู่ในช่วงคุมๆ เกมกันอยู่ และก็ดูสถานการณ์กันไป”

กังวลไหมว่าการทำธุรกิจนี้และส่งผลต่อภาพลักษณ์เรา?
“ไม่ได้กลัวอะไรค่ะ คือเราอยู่กับตอนนี้ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น และค่อยๆ แก้สถานการณ์กันไปแบบเฉพาะหน้าดีกว่า เพราะเราก็รู้ตัวดีว่าเราทำอะไรอยู่ ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่มันเป็นการค้าขาย การสร้างอาชีพให้หลายๆ คน”

เราบอกว่าสัญญามี 2 ปี ถ้าหากหมดสัญญาแล้วเราจะยังไปต่อไหม?
“อันนี้มันเป็นสิ่งที่ตัวแต้วตัดสินไม่ได้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเป็นไปได้ของบริษัท รวมถึงความเป็นไปได้ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเราก็ต้องมาคุยกันอีกที แต่ ณ ตอนนี้ให้มันผ่านวิกฤตตรงนี้ไปให้ได้ก่อนดีกว่า”

ขอบคุณรูปจากไอจี : taewaew_natapohn