เดอะทอยส์ เล่านาที คนเมาล็อกคอ รับผิดชอบไม่เอาค่าตัว

วันที่ 24 พ.ค. ที่ ลานหน้า Hard Rock Cafe สยามสแควร์ ซอย 11 ทอย ธันวา บุญสูงเนิน หรือ เดอะ ทอยส์ ศิลปินชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าว “นีเวีย เมน เปิดตัว 4 พรีเซ็นเตอร์ใหม่ล่าสุด” ถึงปมดราม่าร้อน หลังโดนคนขึ้นมาล็อกคอและบังคับกินเหล้า ขณะทำการแสดงบนเวทีในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ประเทศเพื่อนบ้าน จนเจ้าตัวเขวี้ยงกีตาร์ลงพื้น เดินกลับเข้าหลังเวที และยุติโชว์ทั้งหมด

เดอะทอยส์

ทอย ธันวา บุญสูงเนิน

เล่าเหตุการณ์บนเวทีให้ฟังหน่อย?
“เท่าที่เห็นคือเขาขึ้นมาบนเวที ผมจำไม่ได้ทั้งหมด แต่ฟีลคือกำลังจะร้องเพลงท่อนต่อไป รู้ตัวอีกทีคือเขาเข้ามาแล้วและผมหายใจไม่ออก ตอนนั้นไม่ได้พูดอะไรเลย ด้วยความที่บรรยากาศในร้านมันมืดๆ อยู่แล้วเลยมองอะไรไม่ค่อยเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น”

มีจังหวะที่เขวี้ยงกีต้าร์ลงพื้นด้วย ความรู้สึกคือเป็นยังไง?
ตอนนั้นคือกลัวไม่ปลอดภัย ตกใจด้วย แต่ไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่รู้ว่าจะต้องยังไงดี ถ้าสมมุติเขามีมีดหรือมีปืนจะเป็นยังไง แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผมแต่มันเป็นกับทุกคน ไม่ต้องเป็นศิลปินก็ได้ สมมุติถ้าผมเป็นเซลล์ขายรถกำลังคุยกับลูกค้าอยู่ แล้วมีคนเดินเข้ามาล็อกคอ คืออะไรตรงนี้มันเป็นวัฒนธรรมที่เราควรเรียนรู้ ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาผิดนะ เพียงแค่ว่าเราได้รับวัฒนธรรมการชมดนตรีที่แตกต่างกันออกไป เลยเป็นอย่างที่เห็น”

หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าของร้านได้มาพูดอะไรไหม?
“ได้มาคุยกับผู้จัดการครับ ผมถือว่าเขาค่อนข้างมีสปิริตเพราะเขารับผิดชอบเงินของลูกค้าทั้งหมด คืนทั้งหมด อันนี้คือเรื่องที่ดี จริงๆ เขาไม่ต้องทำก็ได้แต่ว่าเขาทำ”

หลังลงจากเวทีก็ไม่มีการเล่นต่อเลยใช่ไหม?
“ใช่ครับ คือผมไปกินข้าวต้มกับมือกลองต่อครับ ผมคุยกับมือกลองว่าแถวนี้มีร้านข้าวต้มเปิดไหม เขาก็บอกว่ามีตรงนี้ เราก็เลยไป”

จากนี้จะมีการระวังไม่ให้แฟนเพลงขึ้นไปบนเวทียังไงบ้าง?
“จริงๆ เราควรรู้กันอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ดนตรี แต่มันเป็นทุกเรื่องบนโลก เราควรรู้กันอยู่แล้วว่าไม่ควรจะไปแทรกแซงในการปฏิบัติงานของใครก็ตามแต่ อันนี้มันเป็นวัฒนธรรมของการเป็นผู้ใหญ่”

พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้เราระแวงในการขึ้นเวที กลัวจะซ้ำรอยอีกไหม?
“ไม่ครับ เพราะมันเป็นหน้าที่ของทีมงานแล้วครับ”

เดอะทอยส์

นาทีโดนล็อกคอ

เห็นว่าทางเราก็คืนค่าตัววันนั้นให้หมดเลย?
“ใช่ครับ ตอนที่ผมไปกินข้าวต้มกับมือกลอง ผมก็บอกว่า ตายแล้ว! เราเล่นไม่ครบนี่ เพิ่งจะนึกได้ จังหวะนั้นผมเลยโทรหาผู้จัดการ ซึ่งผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าขอคืนเงินทั้งหมด ส่วนเรื่องค่ารถต่างๆ ผมขออนุญาตออกเองนะครับ”

แสดงว่าเราก็อยากรับผิดชอบในส่วนนี้เหมือนกัน?
“ใช่ครับ เพราะถือว่าทางร้านเขารับผิดชอบกับลูกค้า อันนี้คือเรื่องที่ดีมาก”

พอทราบดราม่าที่เกิดขึ้นไหมเพราะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ 2 มุม ทั้งเข้าข้าง และบอกว่าเราไม่เป็นมืออาชีพ?
“ผมไม่ค่อยเข้าไปอ่านครับ ผมไม่แคร์ ไม่ค่อยสนใจ เราอาจจะเป็นมืออาชีพสักหนึ่งหมื่นวัน และวันนั้นผมอาจจะใช้หมดพอดีก็เลยไปกินข้าวต้มดีกว่าครับ”

โกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม?
“ไม่โกรธครับ ทุกคนต้องเรียนรู้ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีนะ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้เหมือนกัน อย่างน้อยมันก็ทำให้เห็นว่าเป็นประสบการณ์ของทุกๆ ฝ่าย รวมถึงผมด้วย”

จากนี้ต้องเลือกรับงานมากขึ้นไหม?
“ไม่ซีเรียสอะไรเลยครับ เพราะสุดท้ายจะเป็นค่ายเท่านั้นที่รับงาน ไม่เกี่ยวกับผม”

หากมีงานติดต่อมาอีกครั้ง เราสามารถกลับไปเล่นที่สถานบันเทิงนั้นได้ไหม ?
“ได้ครับ ไม่ปัญหาอะไรเลย”

ต้องขอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยเพิ่มไหม?
“ไม่ทราบเลยครับ เพราะทางทีมงานจะเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง ผมไม่รู้ ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเลยครับ”

อยากจะบอกอะไรกับแฟนคลับที่เป็นห่วงบ้างไหม?
“ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ และไม่ต้องไปโจมตีใครเลย ไม่ว่าจะเป็นทางร้านหรืออะไรก็ตามครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเรียนรู้อยู่แล้ว เป็นก้าวเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้จัก เรียนรู้ และแก้ปัญหา ผมคิดแค่นั้นครับ”

ขอบคุณรูปจาก : thetoysthetoysthetoys

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน