‘เกรซ’มองโลกอย่างเข้าใจ – ปะทะบทบาทกับนักแสดงรุ่นใหญ่ในละคร “เรือมนุษย์” ทางช่อง 7 นางเอกสาว ‘เกรซ’กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า สุดแฮปปี้ รู้สึกท้าทายความสามารถ ได้วิชาแสดง

โดยวันนี้เจ้าตัวมาเล่าประสบการณ์ที่ได้รับให้ฟัง พร้อมอัพเดตเรื่องราวความรัก

★ ใน “เรือมนุษย์” รับบทเป็นใคร?

เกรซ – “เป็น นิธิมา คาแร็กเตอร์เรียบๆ ง่ายๆ ตรงๆ ไม่ฟุ้งเฟ้อ คอยช่วยเหลือ ผู้อื่น จะเป็นเวิร์กกิ้งวูแมน เรื่องนี้เขาสั่งมาเลยว่า ห้ามทำผม ห้ามสวย ต้องนิ่ง อยู่บ้านก็เป็นแม่บ้าน รองจากเกียวก็คือเป็นเธอ ได้ปัดมาสคาร่าก็บุญแล้ว ชอบ คาแร็กเตอร์แบบนี้นะ ชิลดี เป็นเรื่องแรกที่ได้แต่งตัวสบายๆ”

★ บทบาท ‘นิธิมา’ มีอะไรให้ท้าทายความสามารถบ้าง?

เกรซ – “ท้าทายตรงที่ได้เข้าฉากกับนักแสดงมากฝีมือทุกคนที่เราติดตามตั้งแต่เด็ก เราต้องทำการบ้านอย่างดี เพราะนิธิมาเป็นคนที่เล่น คาแร็กเตอร์เดียวก็จริง แต่ต้องเล่นกับทุกคน กับหลานก็อย่างนึง กับพี่นุสบาก็อย่างนึง กับพี่ชาย (หนุ่ม-สันติสุข) ก็อย่างนึง กับพระเอก (อ๋อม-อรรคพันธ์) ก็อย่างนึง กับคุณเดช (ตั๊ก-นภัสกร) ที่ชอบเราก็อีกอย่างนึง คือเป็นหน้าที่ของเราต้องพยายามทำให้ทุกคนเจอกันตรงกลางให้ได้โดยตัวเรา”

★ เข้าฉากกับใครมันส์สุด?

เกรซ – “พี่ตั๊กค่ะ พี่นุสบาจะเป็นเรื่องอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เราก็จะเป็นคนคอยห้ามปราม พี่นุสตอนซ้อมกับตอนเล่นจริงจะเหมือนกัน เขาเล่นให้ดูว่าจะประมาณไหน แต่กับพี่ตั๊กซ้อมไม่เหมือนเล่นจริงเลย ตอนเล่นอย่างที่ซ้อมกันไว้หายไปไหนหมดไม่รู้ สมมติซ้อมมาเท่านี้ แต่เอาจริงคือโครมคราม เกรซกลับบ้านตัวเขียวทุกวันที่เข้าฉากกับพี่ตั๊ก ตัวเขียวไปทำงานอีกเรื่องนึงไม่ได้ อีกเรื่องเกรซถ่าย ‘สวยซ่อนคม’ เราต้องโชว์ผิวเยอะมาก แต่ตัวเขียวเป็นจ้ำเหมือนโดนซ้อม ไม่มีคำตอบอะไรให้ทีมงานกองโน้นเลยจริงๆ นอกจากให้ ต่อสายตรง ตั๊ก-นภัสกร เลยค่ะ”

★ ได้เรียนรู้อะไรจากการเข้าฉากกับนักแสดงรุ่นใหญ่บ้าง?

เกรซ – “ทุกคนจะมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดีมากที่สุด อย่างพี่หนุ่มแทบไม่เทกเลย พี่ตั๊กก็ไม่เทก เขาจะท่องบทของตัวเองมาจากบ้านโดยไม่ต้องถือบท ทำให้เราต้องทำแบบเขาบ้าง”

★ แล้วกับ ‘อ๋อม-อรรคพันธ์’ ร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง?

เกรซ – “เกรซมีโอกาสเจอพี่อ๋อม ทำงานต่างๆ กับเขา แต่ยังไม่เคยเล่นละครด้วยกัน เรื่องนี้เรื่องแรก พี่อ๋อมทำงานง่าย มืออาชีพ ตรงเวลา จริงจัง ไม่ต้องจูนอะไรกันมาก”

★ หายหน้าจากงานละครไป 3 ปี?

เกรซ – “นานมาก ผลงานออกมาไม่ต่อเนื่องด้วย พอมีละครก็ถ่ายทำปีกว่ารวมตอนนี้ก็ 3 ปี มีช่วงว่างปีนึง ช่วงนั้นเหมือนเป็นช่วงได้เบรก ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างทำธุรกิจได้เต็มที่ ได้ออกเดินทางท่องเที่ยว ไปดำน้ำ ได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว กับเพื่อน ทำให้ค้นพบตัวตนอีกแบบนึง เพราะชีวิตที่ผ่านมาทุ่มเทให้กับการทำงานถ่ายละครมาตลอด พอได้หยุดพักเหมือนได้กลับมาหายใจเต็มปอดอีกครั้งนึง เพื่อจะกลับมามีแรงทำงาน”

★ มีนอยด์บ้างไหมที่ผลงานไม่ต่อเนื่อง?

เกรซ – “มีความรู้สึกนั้นบ้าง แต่ไม่ได้เก็บมาคิด เพราะเราเซ็นสัญญากับช่อง หลังจากนี้จะต่อเนื่องมั้ย ไม่แน่ใจ ตอนนี้มี เรือมนุษย์ ที่ออนแอร์ และ สวยซ่อนคม ที่รอออนแอร์ ยังไม่ได้ถ่ายละครค่ะ”

★ ธุรกิจเราก็ไปได้สวย เคยคิดผันตัวทำธุรกิจจริงจังไหม?

เกรซ – “เกรซยังมีแพสชั่นกับวงการบันเทิงอยู่ ยังอยากทำงานตรงนี้ให้สุด อยากทำเพลง อยากทำอะไรที่อยากทำให้เต็มที่สุดๆ จริงๆ เกรซ อยากแต่งเพลงเอง เพลงเนื้อหาโดนๆ แทนความรู้สึกผู้หญิง อยากมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง ที่ผ่านมาเกรซร้องเพลงประกอบละครเป็น 10 เรื่องแล้ว อยากมีเพลงเป็นของตัวเองจริงๆ ที่เรามีส่วนเกี่ยวข้อง มีส่วนโปรดิวซ์ อยากให้เป็นเพลงกึ่งแดนซ์ มีท่าเต้น เรื่องทำเพลงอยากทำนานแล้ว ทุกคนก็บอกให้ทำ แต่ไม่มีจังหวะสักที มีค่ายเพลงมาชวนแต่เรายังรู้สึกว่าไม่อยากเสี่ยง แต่ตอนนี้เริ่มไม่คิดอะไรมาก ก็ทำขำๆ เราจะทำเพลงเองแล้วจ้างค่ายดูแล รอละครจบจะเริ่มทำเพลงแล้ว ก็ปรึกษาน้องแกรนด์ว่าจ้างใครแต่งเพลงดี ทำอะไรดี ก็คิดอยู่”

★ วางแผนชีวิตการทำงานในวงการไว้อย่างไรบ้าง?

เกรซ – “ทำไปเรื่อยๆ ช่วงนี้ที่ทำได้นอกจากละครก็มีงานคอมเมนเตเตอร์ที่ทำอยู่ตลอด 3 ปี และงานพิธีกรที่ได้ลองทำ เป็นอีกสายงานนึง พอทำก็สนุกอีกแบบ ได้ฝึกเกลาไปเรื่อยๆ ก็เป็นความยากแบบนึง งานคอมเมนเตเตอร์เกรซโชคดีเรียนดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ เลยได้ใช้ความรู้มาประกอบการทำงานในจุดนี้ได้ ก็ต้องขอบคุณที่ให้โอกาส”

★ อยู่วงการมา 10 กว่าปี มุมมองการทำงานเปลี่ยนไปบ้างไหม?

เกรซ – “เปลี่ยนตามยุคสมัย การทำงานต้องปรับตัว เราต้องใช้และอยู่กับมันให้เป็น ฝึกความสามารถของตัวเองด้วย ขณะเดียวกันก็ต้องบริหารชื่อเสียงเราด้วย เช่น สมัยก่อนยังไม่มีอินสตาแกรม ไม่มีการลงโปรโมตละคร แต่สมัยนี้มีเทคโนโลยีมากขึ้น มีโซเชี่ยลมีเดียที่ถอดเส้นกั้นระหว่างเรากับคนดู อันนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก ทำให้ได้เข้าใกล้คนดูมากขึ้น เขาก็ได้ใกล้เรามากขึ้น ในทุกรูปทุกคอมเมนต์เกรซอ่านหมด จะคอมเมนต์พูดแซวติชม หรือฝากร้าน เป็นสิ่งที่ทำให้เกรซรู้สึกว่ามันเปิดให้โลกกว้างขึ้น ได้เจอแฟนๆ เหมือนได้เจอเพื่อนใหม่ใน อินสตาแกรม ยุคไม่มีโซเชี่ยลมันก็สงบอีกแบบ แต่ถ้าให้เลือกชอบแบบปัจจุบันมากกว่า เกรซว่ามันสนุกและทำให้เราตื่นตัว”

★ มองวงการบันเทิงปัจจุบันแข่งขันกันสูงไหม?

เกรซ – “สูงนะ แต่ใครจะแข่งก็แข่งไป เกรซแข่งไม่ไหว เรารักสันโดษ แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเต็มที่ที่สุดพอแล้ว ไม่ต้องแข่งกับใคร แค่ถ่ายละครก็เหนื่อยแล้ว เราต้องเอาชีวิตจริงมาแข่งขัน กังวลและวิตกกับมันอีก มันเหนื่อยมาก เกรซเป็นคนนึงที่ไม่เอาวงการมากลืนกินชีวิตส่วนตัวของตัวเอง”

★ บางวันที่ท้อหมดกำลังใจ มีวิธีเรียกพลังใจกลับมาอย่างไร?

เกรซ – “ให้นึกถึงคุณค่าในตัวเราไว้ ต้องให้กำลังใจตัวเอง ต่อให้ใครให้กำลังใจเราเท่าไหร่แต่เราปิดกั้น เราก็จะไม่รู้สึกดีขึ้นหรอก ต้องให้กำลังใจตัวเองและมองทุกอย่างเป็นเรื่องขำ มองทุกอย่างเป็นเรื่องบวกที่สุดให้ได้ในข้อลบที่มันมี ให้เข้าใจว่าทุกอย่างมีเหตุผลของมัน วันที่เป็นของเรามันต้องมี อันนี้คือสิ่งที่อยากให้กำลังใจทุกคน”

★ เราเป็นคนมองโลกแง่ดี?

เกรซ – “ไม่ได้มองในแง่ดี แต่มองโลกอย่างเข้าใจและอยู่เป็น เกรซว่าตัวเองอยู่รอดในโลกของความวุ่นวายนี้ เกรซสนุกก็ได้ เข้าใจโลกก็ได้ เวลาเศร้าก็อยู่กับมันแป๊บเดียว อยู่แบบเข้าใจโลกมันจะทำให้เราดำเนินชีวิตง่ายขึ้น ถ้าเราไปจมปลักกับปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ วงการบันเทิงไม่ใช่ว่าเก่งที่สุดหรือสวยที่สุดแล้วจะได้ดีที่สุด มันคืออะไรที่อยู่ข้างบนแล้วหล่นลงมาเท่านั้นเอง พูดตรงๆ นักแสดงที่ไม่ใช่นางเอก แต่สวยกว่านางเอกก็มีเยอะแยะ คนที่สวยและเก่งกว่าเกรซก็มี แต่ทำไมเกรซถึงได้ เพราะมันเหมือนเป็นโอกาสของเรามากกว่า ฉะนั้นเมื่อได้โอกาสนี้แล้วก็ทำมันให้เต็มที่ที่สุด แค่นั้นเองนี่คือสิ่งที่เกรซคิด ทุกคนมีดีกว่าเราเสมอ”

★ เราจะรักษาทุกโอกาสที่ได้มาแล้วทำมันให้ดี?

เกรซ – “ใช่ค่ะ เมื่อก่อนนี้ยอมรับไม่ค่อยอินวงการบันเทิง เข้าวงการมาเด็กไป อายุ 14-15 ปี แล้วไม่ได้เห็นค่า รับละครก็รับๆ ไป เกรซว่าเราควรจะรับและวางแผนการเดินทางในวงการบันเทิงให้ดี เด็กสมัยนี้เขามีการวางแผนมีผู้จัดการกัน”

★ มองวงการบันเทิงปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร?

เกรซ – “ค่อนข้างวุ่นวาย เอาจริงๆ ดาราเท่าที่มองเหมือนแข่งขันวุ่นวาย เพราะทุกคนมีโซเชี่ยลมีช่องทางพีอาร์ตัวเอง สำหรับเกรซ ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นดารา เกรซคิดว่าเรามาทำงานแค่นี้แหละ ไม่ใช่ฉันจะต้องเลิศ แค่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ชีวิตปกติเราก็เป็นเรา สบายๆ วงการมันหล่อหลอมให้เราโตขึ้นแกร่งขึ้น”

ความรักแฮปปี้คุยภาษาเดียวกัน-ไม่มีโปรโมชั่น

รักครั้งใหม่สุดแฮปปี้ คบหนุ่ม ‘นิค’ เป็นไปด้วยดี โดยสาวผิวหยวก ‘เกรซ-กาญจน์เกล้า’ เปิดใจว่า

“เกรซเป็นคนไม่คาดหวัง ถ้าใช่ก็ใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เป็นคนไม่จริงจังความรัก แต่จริงใจ ไม่จริงจังคือไม่ได้ไปกำหนดกะเกณฑ์อะไรชีวิตเขา แล้วเขาก็อย่ามากะเกณฑ์ชีวิตเรา ให้เกียรติ ใส่ใจ ดูแลซึ่งกันและกัน”

ความรักครั้งล่าสุดที่คบหนุ่มนิค ดูไม่หวือหวาเหมือนที่ผ่านมา “ที่ผ่านมาหวือหวาเพราะเขาเป็นที่รู้จัก ทุกคนจะให้คำนำหน้า ไฮโซ ซึ่งคนนี้ไม่ไฮโซ เป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่พอรู้ชื่อกันก็เขียนคำนำหน้าไปแล้วว่าไฮโซ เขาไม่ใช่จ้ะ เขาเป็นแค่นักธุรกิจ เป็นเพื่อนรุ่นน้อง เด็กกว่า”

“รู้จักกันได้เพราะเขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ที่คลิกกันเพราะคุยภาษาเดียวกัน พูดตรงๆ ผู้ชายกับผู้หญิงจะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ก็มีแค่เรื่องดื่มเหล้า เที่ยว หึงหวง ซึ่งคนนี้ไม่มีเลย เป็นเหมือนกัน เหล้าไม่กิน ไม่เที่ยว ทำงานเสร็จกลับบ้าน ความสุขของเขาคือการฟังเพลง หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ การชอบอะไรเหมือนกันทำให้เราเดินไปได้ไกลกว่า การที่ไม่ได้ชอบอะไรเหมือนกันมันจะเดินไปคนละทาง เป็นแฟนไม่จำเป็นต้องชอบเหมือนกัน แต่ต้องมีอะไรเหมือนกันเพื่อยึดเหนี่ยวให้เราเดินไปได้ด้วยกัน”

นิคแฟนหนุ่มคนที่ 2 จากซ้าย

คนนี้เรียกว่าเป็นคนที่เราตามหาไหม “ไม่ถึงขั้นนั้น เกรซไม่ตามหาใคร จะมาก็มา จะไปก็ไป ไม่จริงจังแต่จริงใจ เกรซคุยคนเดียวให้เกียรติเขา ครอบครัวเขาน่ารัก คุณพ่อคุณแม่ น้องเขา เพื่อนเขา เกรซแฮปปี้ค่ะ เกรซไม่มีสเป๊ก”

ไม่มีสเป๊ก แล้วอะไรที่ทำให้ถูกใจผู้ชายสักคน “มันต้องเฟิร์สต์อิมเพรสชั่น บางทีเรารู้สึกคนนี้ไม่น่าใช่ แต่คุยแล้วอาจจะดีก็ได้ ต้องลองคุย ทุกคนที่เข้ามาต้องลองคุยเป็นเพื่อนก่อน เพราะสุดท้ายเป็นแฟนยังไงก็คือเพื่อน”

คนนี้เขามาจีบเราก่อนเหรอ “เขามาจีบเราก่อน เขาก็รู้ว่าเราเป็นนักแสดง เขาเพิ่งเรียนจบกลับจากประเทศอังกฤษไม่ค่อยสนใจวงการบันเทิง พอเป็นข่าว เขาก็ไม่ได้ว่ายังไง เฉยๆ”

คบคนนี้มุมมองรักเปลี่ยนไปไหม “เกรซรู้สึกว่าตัวเองให้เกียรติแฟนมากขึ้น ให้เกียรติในเรื่องการพูดการจาด้วย บางทีอารมณ์ไม่ดีฟาดงวงฟาดงา สมัยนี้ไม่ค่อยมีแล้ว”

มองถึงอนาคตไว้บ้างไหม “คิดเรื่องแต่งงานบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นกำหนดกะเกณฑ์ ทุกอย่างจะเป็นยังไงเดี๋ยวมันจะเกิดขึ้นเอง”

กับรักครั้งนี้คาดหวังไหม “ไม่นะ แค่รู้สึกว่าเขาให้ใจเรามา เราก็ให้ใจเขากลับเท่านั้นเอง เป็นการคาดหวังซึ่งกันและกัน ก็ค่อยๆ ดูกันไปก่อน เด็กอาจจะยังไม่ออกลาย เราอายุห่างกัน 2 ปี แต่คุยภาษาเดียวกัน เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่วันแรกที่เจอ ไม่มีโปรโมชั่น ความรักตอนนี้แฮปปี้โอเคมากเลยค่ะ”

อฑิตยา เพาะปลูก