วันที่ 20 มี.ค. ที่ สตูดิโอมนตรี 1-2 ลาดพร้าว 101 ป๋อง-กพล ทองพลับ ดีเจและพิธีกรชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาอัดรายการ “โจ๊กเกอร์ วาไรตี้ วาไรตี้จี้เส้น” ถึงเรื่อง ‘น้องเป็ดน้ำ’ ลูกชายวัย 1 ขวบ หลังปิดเรื่องครอบครัวมานาน

 

โดย ‘ป๋อง’ เผยว่า “จริงๆ ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ปิดครับ แต่มีความรู้สึกว่าน้องเขา (ภรรยา) ไม่ใช่คนในวงการ ส่วนตัวเล็กเองก็ด้วยความที่เป็นเด็กเลยไม่อยากให้เขาออกกล้องเพราะยังเล็กมาก วันพรุ่งนี้ (21มี.ค.) ก็จะอายุครบ 1 ขวบแล้วชื่อว่า ‘น้องเป็ดน้ำ’ แต่ที่มีข่าวออกมาอาจจะเพราะว่าน้องต้นหอม ศกุนตลา ซึ่งอยู่ในกรุ๊ปไลน์เดียวกัน บังเอิญว่าผมเองก็อยากจะอวดรูปลูกเลยโยนไปในกรุ๊ป หลังจากนั้นเรื่องก็เลยกลายเป็นที่รู้จักเพราะมีคนติดตามไอจีต้นหอมเยอะมาก แล้วเขาก็ดีใจเพราะเห็นว่าเป็นหลานอีกคนหนึ่งของตัวเองเลยลงรูป เลยเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กัน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาไม่ได้ปิดแต่ก็ไม่ได้เป็นมุมที่ออกมาบอก”

 

ถามถึงที่มาของชื่อ ‘เป็ดน้ำ’ คุณพ่อป๋องบอกว่า “ตอนแรกเลยเพื่อนในรุ่นมีการส่งสติ๊กเกอร์ไลน์กัน คนหนึ่งส่งรูปไก่ อีกคนก็ส่งรูปเป็ด ผมกับภรรยาก็เลยเรียกกันเล่นๆ ตั้งแต่อยู่ในท้องว่าเป็ดมาตลอด พ่อชื่อป๋อง ลูกชื่อเป็ดก็โอเค แต่พอเขาเกิดเดือนมี.ค.เลยกลัวเขาจะร้อนเลยใส่คำว่า ‘น้ำ’ เข้าไปอีกคำหนึ่ง เลยกลายเป็น ‘เป็ดน้ำ’ ถามว่าถ้าลูกโตมากลัวโดนเพื่อนล้อชื่อมั้ย ก็ดีครับ กะว่าถ้าซักอีก 20 ปีข้างหน้าชื่อเขาจะต้องเป็นชื่อที่โดดเด่น เพื่อนๆ เขาอาจจะเรียกว่า “เยสเป็ด”(หัวเราะ)”

รู้สึกยังไงที่คนเห็นรูป ‘น้องเป็ดน้ำ’ แล้วหลงรักกันเลย ป๋องกล่าวว่า “ดีใจและงงมาก เพราะพ่อก็หน้าแบบนี้ แม่ก็ไม่ได้สวยอะไรมากมาย(หัวเราะ) ลูกออกมาน่ารักก็สงสัยว่าเป็นลูกใครว้าหรือจะเป็นลูกคนส่งพิซซ่าหรือเปล่า(หัวเราะ) แต่เซอร์ไพรส์มาก ต้องไปเห็นหน้า หน้าเขาทะเล้นมาก คือไม่ได้หล่อมากแต่เขาหน้าเป็น”

 

หลายคนไม่ค่อยทราบว่าพี่ป๋องมีครอบครัวแล้ว พิธีกรคนดังกล่าวว่า “ผมไม่แต่งงานและไม่ได้คิดจะแต่งงาน ภรรยาคนนี้อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ช่วงหนึ่งก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมีลูก จนมาอายุ 50 ส่วนน้องเขาก็ 30 กว่าๆ เลยนั่งคิดว่าอายุ 50 แล้วจะยังไงดี บางมุมก็เหงา ถ้างั้นมีลูกก็คงดีมั้ง ทีแรกไม่คิดว่าจะมี แต่พอมีแล้วก็ชีวีตเปลี่ยนเลย รู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีเป้าหมายคือทำเพื่อลูก ซึ่งแต่ก่อนไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร”

 

ถ้าต้นหอมไม่ลงรูป ตัวเองคิดจะบอกเรื่องนี้ไหม ป๋องกล่าวว่า “จริงๆ ก่อนต้นหอมรู้ คือมีตั๊ก (บริบูรณ์) กับหนุ่ม (กรรชัย) ที่รู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพวกเราเป็นผู้ชายก็ไม่ได้พูดกัน แต่บังเอิญต้นหอมเป็นน้องผู้หญิงในกลุ่มก็เลยดีใจและโพสต์รูปไป ถ้าต้นหอมไม่ได้โพสต์รูป ผมก็คิดในใจว่าไม่ได้อยากบอกใครเพราะมองว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา อยากโฟกัสเรื่องงานมากกว่าเพราะที่ผ่านมาผมก็ไม่ค่อยได้เป็นข่าวอยู่แล้ว แต่พอหลังที่เริ่มมีข่าวออกไปก็เริ่มมีคนสนใจน้องเป็ดน้ำมากขึ้นอาจจะเพราะน่ารักมั้ง ใครเห็นก็ชอบ แล้วพอวันหนึ่งได้ไปออกรายการของพี่หนูแหม่ม(สุริวิภา)โดยบังเอิญ คือไปเป็นเกสต์และเอาน้องเป็ดน้ำไปด้วย”

ก่อนหน้านี้พี่ป๋องชอบทำตัวเหมือนโสดและชอบแอ๊วผู้หญิงไปเรื่อย ดีเจคนดังกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ก็ทำตัวลั้นลาเพราะว่าไม่ได้แต่งงานด้วยไง จนตอนหลังมีลูกคนก็เริ่มรู้ แต่ผมก็ยังมีมุมแรดๆ ซ่าๆ อะไรอยู่ ถามว่าภรรยาไม่ว่าเหรอ ไม่หรอกครับ ผมว่าเขาเข้าใจและคนแบบนี้มั้งที่อยู่กับคนแบบผมได้ ผมเชื่อว่าบางวันเขาอาจจะรู้ด้วยซ้ำว่าตัวผมมีกลิ่นน้ำหอมที่มันแปลกปลอม แต่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซึ่งอันนี้คือเสน่ห์ของผู้หญิงแบบนี้ เพราะถ้าเกิดรู้ทุกอย่างหรือยุ่งทุกอย่างมันอาจจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือเขาก็ไม่เคยเช็กเลย”

 

“ถามว่าทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ถอดเขี้ยวเล็บใช่มั้ย มีแรดบ้าง (หัวเราะ) ผมไม่รู้ว่าจะโกหกทำไมเพราะไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น แต่พอมีลูกแล้วก็อาจจะมีเบาลง ไม่ได้ถึงกับหัวหกก้นขวิดเหมือนแต่ก่อน แต่ก่อนพอเลิกงานก็ไปแรดต่อ แต่พอมีลูกแล้วก็เข้าบ้านดีกว่า อยากกลับไปหาเขา” ป๋องกล่าว

พอเปิดเรื่องลูกแล้วสบายใจขึ้นบ้างไหม ป๋องตอบว่า “เหมือนเดิมทุกอย่างครับ แค่วันนี้มีคนรู้เยอะขึ้น จากตอนแรกที่ไม่ได้อยากให้มันเป็นมุมเปิดเท่านั้นเอง มองเป็นเรื่องส่วนตัว สังเกตได้ว่าผมไม่เคยให้รายการไหนไปที่บ้านเลยเพราะรู้สึกว่าเรื่องบ้าน เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ อีกอย่างบ้านผมก็เป็นบ้านธรรมดา เข้าไปในบ้านก็อีกโลกหนึ่ง พอออกมาจากบ้านก็เป็นอีกโลกหนึ่ง”

 

“ถามว่าคนรู้เรื่องน้องเป็ดน้ำแล้วคิดจะเอามาโชว์มากขึ้นมั้ย ไม่ครับ วันนี้ก็คุยกับภรรยาอยู่ว่าจะมีนักข่าวมาสัมภาษณ์เรื่องนี้ เขาก็ไม่ได้อยากจะมา อย่างตอนที่ไปออกรายการของพี่หนูแหม่มก็มีคนดูเยอะมาก เขารู้สึกเขินๆ เวลาไปตามตลาดแล้วมีคนจำเขาได้ ส่วนลูกชายที่ยังไม่ได้เอามาเพราะก่อนหน้านี้ไม่สบาย พอเริ่มหายป่วยก็รู้สึกว่ายังไม่พามาดีกว่า อยากให้อยู่แบบเดิมไปก่อน ถ้าวันนึงโตขึ้นมาแล้วชอบวงการนี้ก็เดี๋ยวว่ากันอีกที” ดีเจคนดังกล่าว

 

คิดจะมีลูกอีกซักคนไหม ป๋องบอกว่า “คิดครับ ตั้งใจอยากจะมี 2 คน พอมีครอบครัวแล้วก็อยากให้บ้านเสียงดังและสนุกสนานกว่านี้ ถ้ามีอีกคนก็ดี วัยผมก็มาปูนนี้แล้วถ้าจะมีก็ต้องรีบมีอีกคนตอนนี้จะได้มีพี่มีน้อง ถามว่ารู้สึกยังไงที่คนมองว่าอายุขึ้นเลข 5 แล้วยังฟิตปั๋งอยู่ มันก็ไม่ได้ฟิตครับ นานๆ ทียิงเข้าเป้า (หัวเราะ) ไม่ได้ฟิตมากแต่เป็นไปตามจังหวะมากกว่า ส่วนอีกคนก็อยากจะมีไม่ให้ห่างกันมากน่าจะ 1-2 ปี สุขภาพตอนนี้ไม่ได้ฟิตเท่าไหร่เพราะทำงานดึกกว่าจะกลับบ้านก็เช้า แต่ของแบบนี้ก็ไม่ซีเรียส ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็กะว่าจะใช้วิธีทางแพทย์ช่วยเลยครับ”

ชีวิตเปลี่ยนไหมหลังจากเป็นคุณพ่อมา 1 ปีแล้ว “ความรู้สึกเปลี่ยนครับ ตอนนี้พอหลับตานึกครั้งใดก็จะเห็นหน้าเขาเป็นหน้าแรกของเรา รอยยิ้มของเขา เสียงหัวเราะของเขาทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีความสุข จากที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันพอกลับไปเห็นเขาก็หายไปโดยปริยาย ซึ่งผมอธิบายไม่ถูกเพราะเมื่อก่อนไม่เคยมีความรู้สึกนี้ เลยเริ่มเข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงรักเรามากขนาดนี้ วันนี้ผมก็เข้าใจแล้วเพราะว่ามีสถานะเป็นพ่อคนแล้ว รู้เลยว่าใครที่ผมจะให้ได้ทั้งชีวิตนั่นก็คือลูก รู้อย่างนี้มีลูกตั้งนานแล้วครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน