อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ หายดีแล้ว ลงกำกับ ลายกินรี อย่าเพิ่งด่าจับคู่ ญาญ่า-ณเดชน์

หลังจากล้มป่วย ด้วยโรคเส้นเลือดฝอยในสมองตีบ ทำให้ต้องทำกายภาพบำบัด หัดเดิน และหัดพูด ล่าสุด ผู้กำบมาฝีมือ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ได้ให้สัมภาษณ์อัพเดตอาการป่าวยของตนเองเป็นครั้งแรกในงานประกาศรางวัล “ไนน์เอ็นฯ อวอร์ด ประจำปี 2019” ที่ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งเผยเรื่องการกลับมาทำงานอีกครั้งในละครเรื่อง ลายกินรี

อ๊อฟ พงษ์พัฒน์

หน้าตาสดใส

สุขภาพตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“ตั้งแต่ล้ม 10 เดือนแล้ว อาการก็เท่าเดิมครับ โรคนี้เป็นแล้วต้องรักษา มันไม่ได้ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน แต่มันจะค่อยๆ ดีขึ้น นี่ตัวผมเองก็ยังพูดไม่ชัดเลยและก็ยังเดินไม่ค่อยได้ ต้องทำกายภาพบำบัดอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะถามว่าผมหายดีหรือยัง ผมหายแล้วครับ แต่แค่ยังเป็นแบบนี้อยู่ เป็นอาการของโรค ทำกายภาพทุกวัน ก็ทำในส่วนของทำแขนขาและก็ไปเดินลู่ เดินเยอะมากครับ ส่วนเรื่องการรับประทานอาหาร ต้องควบคุมตัวเอง อย่าทานหวาน อย่าทานมัน และอย่าทานเค็มมาก รวมถึงไม่ควรนอนดึก เวลาที่อยู่ที่บ้านทุกวันนี้ก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ทำอะไรได้ก็ทำ กวาดบ้าน ทำความสะอาดบ้าน คือใช้ชีวิตประจำวันให้มันเหมือนเดิมที่สุด อาบน้ำเอง ทานข้าวเอง ไม่ทำตัวให้เป็นภาระ ทุกวันนี้ก็คิดแค่นั้น

“คนที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่แล้วอาการไม่เท่ากัน บางคนรักษาตัวไม่กี่เดือนก็หาย บางคนก็รักษาเป็นปี อย่างรุ่นน้องผมที่เป็นโรคเดียวกันนี้ซึ่งเขาอ้วนมาก แต่เขารักษาตัวแค่ 3 เดือนก็หาย หายในที่นี้คือหายเป็นปกติ สามารถเดินได้วิ่งได้ แต่ผมอาจจะเป็นหนัก สำหรับโรคนี้ครอบครัวสำคัญที่สุด ต้องเข้าใจกัน และเราก็ต้องเข้าใจเขาด้วย เราป่วยไม่ใช่ปัญหาของเรา เป็นปัญหาของครอบครัว เขาต้องมาดูแลไม่ได้ สมัยก่อนที่เป็นแรกๆ ลุกไปขี้เยี่ยวเองไม่ได้ คนในครอบครัวเขาก็ทำให้ เดี๋ยวนี้เราทำได้ หน้าที่ของเราพยายามฟื่นให้เร็วที่สุด พยายามอันไหนที่ทำได้ก็ทำ เมื่อก่อนสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเลย ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่(หัวเราะ)”

อ๊อฟ พงษ์พัฒน์

ครอบครัว วชิรบรรจง

ก่อนหน้านี้ พี่แดง ธัญญา บอกว่าตอนที่พี่อ๊อฟป่วย ต้องเอาใจพี่อ๊อฟหน่อย
“นี้เอาใจแล้วใช่มั้ย(หัวเราะ) โรคนี้หรือโรคอะไรก็แล้วแต่ กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทั้งจากคนรอบข้าง เพื่อนฝูง และก็กำลังใจของตัวเอง เราต้องยิ้มกับมัน เราต้องคิดถึงแต่ปัจจุบัน คิดถึงคนรอบข้าง ไม่ต้องไปคิดถึงอดีต ไม่ต้องไปคิดถึงอนาคต คิดถึงวันนี้ก็พอ ใช้ชีวิตเราให้เป็นปกติที่สุด หลายคนที่เป็นแบบผมส่วนใหญ่จะเก็บตัว เพราะว่ามันน่าเกลียด เดินเป๋บ้าง เดินเกรงบ้าง พูดไม่ชัดบ้าง แต่มันไม่ใช่เรื่องของเรา พูดไม่ชัดมันก็ไม่ใช่ปัญหาของพี่ เพราะพี่ไม่ได้ฟังเอง มันเป็นปัญหาของคนฟัง(ยิ้ม) หรือเราเดินช้ามันก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่มันเป็นปัญหาของคนเดินเร็ว เราไม่ได้ลำบาก อย่าเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเลยครับ เราออกมาข้างนอกเถอะ”

อย่างในเรื่องการทำงาน บีบี เข้ามาแบ่งเบา และทำงานได้ตามเป้าหมายที่เราต้องการไหม
“ไม่ใช่ปัญหา เราพูดตลอดเวลา เราทำงานกันเป็นทีม ทุกคนมีหน้าที่ส่วนของตัวเองอยู่ เราในฐานะผู้กำกับ เราทำงานนิดเดียวเลย เพราะทุกคนมาพร้อมหมดแล้ว ถ้าหากว่าเขาทำงานทำการบ้านมาดี เพราะฉะนั้นเราถึงประชุมกันเยอะ คุยกันเยอะ ด่ากันเยอะ พอถึงเวลา ก็แยกย้ายกันไปทำงาน แล้วพอกลับมาทำงาน พี่ไม่ต้องทำอะไร”

อย่างเรื่อง กรงกรรม เป็นเรื่องที่พี่อ๊อฟ แล้วล้มป่วย ซึ่งกระแสออกมาดีมากรู้สึกอย่างไรบ้าง
“ดีใจเป็นเรื่องปกติ ละครเรื่อง กรงกรรม เราก็หวังว่าคนจะดู เพราะว่ามันเป็นละครที่มีโอกาสที่ดี ในการใส่ธรรมะเข้าไปในบทละคร โดยที่คนดูไม่รู้ตัว เราฉวยโอกาศแบบนี้ทุกครั้ง อย่างสมัยก่อน กับเรื่อง ทองเนื้อเก้า เราก็ทำ เรื่องไหนมีโอกาสทำเราไม่รังเลที่จะทำ โชคดีที่คนดูเยอะ”

เห็นว่าพี่อ๊อฟจะกลับมาทำละครอีกครั้ง
“เขากำหนดมาเพื่อให้เราทำ เราเกิดมาเพื่อทำละครก็ต้องทำ ทุกวันนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการแก้บทและก็คุยบทกับคนคุมบทอยู่ ถามว่าพี่ดูเองทั้งหมดเลยไหม ก็ดูครับ ทั้งดูบท ทั้งพูดคุย แต่จริงๆ การทำงานละครมันคือการรวมตัวของคนเก่งหลายๆ คน ไม่ได้มีแค่ผมทำงานคนเดียว และเชื่อไหมว่าผมทำงานแค่นิดเดียวจริงๆ เพราะทีมงานเขาพร้อมกันอยู่แล้ว วันนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้น ถ้าหากคิดเป็นตัวเลขเราก็แค่เพิ่งจะนับได้แค่ 1 หรือ 2 ยังไม่ได้นับถึง 100 ดังนั้นทุกวันนี้ของเราจึงมีแต่คำว่าเดินไปข้างหน้า ต้องโตกว่านี้ วันนี้เราอาจจะประสบความสำเร็จทุกคนชื่นชม แต่เรื่องหน้าคนดูอาจจะด่าเราก็ได้ เราต้องเตรียมใจเอาไว้ด้วยครับ”

ตอนออกกองล่ะ
“คือเราวิ่งไม่ได้ เราก็ให้คนอื่นวิ่งแทน เราพูดไม่ชัดก็ให้คนอื่นพูดแทน เราเป็นคนทำงานก็ต้องทำงาน”

ละครเรื่อง ลายกินรี จากที่ตอนแรกวางบทไว้ว่าจะเป็น ติ๊ก เจษฎาภรณ์ แต่ล่าสุดเห็นว่าเปลี่ยนเป็น ณเดชน์ – ญาญ่า ?
“สาเหตุไม่มีเลยครับ คือเรายังในส่วนของโปรดักชั่น ส่วนแคสติ้งจะอยู่ในฝั่งของพี่แดง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความเหมาะสม วันวานที่เปลี่ยนไป มันก็สามารถที่จะเปลี่ยนได้ ไม่ใช่ว่าจะมีการวางแบบนั้นแบบนี้ดีกว่า ไม่มีครับ”

ทำไมถึงจับคู่ ณเดชน์ กับ ญาญ่า มาประกบคู่กันอีกรอบ
“เราเพิ่งจับครั้งแรกนะ(หัวเราะ) อย่างเรื่อง นาคี 2 มันเป็นหนัง พอจับเขามาเล่นละครคู่กัน ก็ว่าเลยนะ แบร์ กับญาญ่า เล่นคู่มากี่เรื่องไม่ทราบ พี่ดูทีวีบ้าง ไม่ดูบ้าง พอมีโอกาสได้จับคู่นี้มาเจอกัน เราก็ดีใจ กลับมีคนมาด่าอีก ยังไม่ทันรู้เรื่องกันเลย อยากให้ดูก่อน เราเลือกแคสติ้งตัวละคร ตามความเหมาะสม ตามความเหมาะสม และมั่นใจเถอะว่าไม่ให้มันมายืนเฉยๆ ไม่ให้มาเป็น ณเดชน์ ญาญ่า ให้เขามาเป็นตัวละคร เราทำด้วยความตั้งใจ ไม่ชุ่ย”

อ๊อฟ พงษ์พัฒน์

พระ-นาง คู่ใหม่ของพี่อ๊อฟ

ณเดชน์บอกว่าเขาไม่เคยเล่นพรีเรียดครั้งแรก และโดนปรับลุกค์เยอะ
“คนเราต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น นี้ยิ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเขา และดีสำหรับตัวเราด้วยซ้ำ เขาไม่เคยทำงานพีเรียต เขาไม่ใส่โจงกระเบน แต่เรื่องนี้เขาต้องมาใส่ ต้องปรับเขาเยอะครับ”

พอเป็น ณเดชน์ กับ ญาญ่า บวกกับฝีมือการกับของพี่อ๊อฟ คนก็จะคาดหวังกับละครเรื่องนี้เป็น 2 เท่า
“ไม่รับการคาดหวังจากใคร อันนี้จริงๆ เวลาเราทำเราทำดีที่สุด แต่เราจะคาดหวังว่าคนจะต้องดูทั้งหมด เรตติ้งจะต้องดีมากๆ ไม่มีทางได้เลย ต่อให้คุณเก่งขนาดไหนก็ตาม ละครบางเรื่องดีแสนดี แต่ไม่มีคนดู ละครบางเรื่องมีคนดูทั้งที่ไม่มีสาระอะไร ก็คนดูเขาสนุก แต่ละครบางเรื่องเครียดเกินไป แต่มีสาระ มันแล้วแต่สมัยนั้น มันตรงกับแฟชั่นอะไร คาดหวังไม่ได้หรอก อย่าไปคาดหวังเลย”

ขอบคุณรูปจาก : bewachi

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน