เปิ้ล-นาคร ควง จูน-กษมา เผย นาทีติดพายุกลางเขื่อนศรีฯ ยิ่งกว่าในหนังแอ๊กชั่น!!

ผ่านเหตุการณ์ระทึกใจมานักต่อนักแล้ว สำหรับ เปิ้ล-นาคร และ จูน-กษมา ศิลาชัย และเมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมานี้ ก็เพิ่งหนีตายท่ามกลางพายุกระหน่ำ อยู่กลางเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ล่าสุดได้มีโอกาสเจอกับ เปิ้ล – จูน ที่มาร่วมชมรอบปฐมทัศน์ ละครเวที “บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล 2019” ที่ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ จึงได้สบโอกาสถามไถ่วินาทีนั้น

เปิ้ล-นาคร

มาร่วมงาน

หลังจากผ่านพ้นวิกฤติวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
เปิ้ล “หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นก็โชคดีที่รอด เพราะว่ามันก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ เราออกไปกลางเขื่อนในช่วงมรสุมพอดี มันก็เห็นไกลๆแล้วแหละ ว่าพายุกำลังจะมา ก็บอกลูกให้รีบขับหนีเร็วๆ ลูกก็เลยขับหนีไป แต่พ่อกับแม่โดนพายุ เพราะหนีไม่ทัน ลูกก็เลยรอดไป ตอนนั้นมันเหมือนในหนังนะ สุดท้ายรอดมาได้ก็โอเค

ตอนที่ลูกหายไปคิดอะไรอยู่
เปิ้ล “ก็เป็นห่วงมาก แต่คงไม่ตายหรอก เพราะเขามีเสื้อชูชีพอยู่ พายุจะแรงขนาดไหน ตกน้ำขนาดไหน ชูชีพก็เอาเขาอยู่ ก็คงลอยติดอยู่แถวเกาะใดเกาะหนึ่งในเขื่อนนั้นแหละ”

ออก้าเขาเข็ดไหม
เปิ้ล “ไม่เข็ด พอเราไปเจอเขากำลังเล่นสไลด์เดอร์อยู่ที่รีสอร์ตมีความสุขมาก”

เขารู้ไหมว่าเราห่วงขนาดไหน
เปิ้ล “เขาไม่รู้เรื่องอะไร เขาไม่รู้ว่าพ่อกับแม่และน้องออกู๊ด ออกู๊ดก็ติดอยู่ในเจ็ทสกีเดียวกันด้วย ทีแรกออกู๊ดก็ร้องไห้ แต่พอพายุผ่านไปก็เป็นเสียงหัวเราะ เล่นน้ำฝนที่มันเหลือเป็นฝนปรอยๆ”

สอนลูกเอาตัวรอดอย่างไรบ้าง
เปิ้ล “คือสอนให้อย่ากลัวอย่างเดียว เพราะบางทีเราก็จับเขาโยนลงกลางทะเล โยนกลางแม่น้ำ แล้วเราก็ขับหนีทิ้งไปกิโลหนึ่ง หรือไม่ก็โยนกลางแม่น้ำ แล้วก็ปล่อยให้เขาไหลไปเรื่อยๆ กลางแม่น้ำสักกิโล สองกิโล แล้วค่อยขับไปตาม เลี้ยงลูกเหมือนหน่วยซีล ”

เห็นว่าเรื่องนี้ทำให้เราทะเลาะกันเลยใช่ไหม
เปิ้ล “ทีแรกจูนก็บอกพอแล้วนะทำอะไรแบบนี้ แค่ประโยคเดียว หลังจากนั้นก็ร่าเริง อารมณ์เขามาเร็ว ยิ่งกว่าพายุอีก”

ลึกๆจูนก็อยากให้เลิกไหม
เปิ้ล “เลิกอะไร วางแผนจะขับพาออก้าไปแข่ง แข่งเสาร์-อาทิตย์นี้ ที่โคราช ไม่ให้ป๊าพาลูกไปแข่งแล้ว แม่พาไปเอง”

ยังไม่คิดให้ลูกเลิกใช่ไหม
จูน “อย่างที่บอกว่าเรื่องเจ็ตสกีมีปัญหากันมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้สักที เพราะลูกดันชอบไปแล้ว เราก็ได้แต่เปลี่ยนตัวเองว่าต้องชอบตามลูก หน้าที่เราก็ซัพพอร์ตแล้วก็ดูแลให้ดีกว่านี้มากๆขึ้น เพราะเราไม่สามารถห้ามพี่เปิ้ลกับลูกได้”
เปิ้ล “แม่ไม่มีสิทธิ์ แม่ไม่มีสิทธิ์มาห้ามในสิ่งที่พ่อกับลูกชอบ แม่มีหน้าที่ผลักดันสิ่งที่เราชอบ เหมือนแม่ชอบอะไร เราก็จะคอยผลักดันแม่ คอยเป็นแรงใจ กำลังใจ ไม่ใช่ไปห้าม เพราะคนเราเกิดมามีชีวิตเดียว มีชาติเดียว จะไปห้ามชาตินี้ไม่ให้ทำโน้นทำนี่ มันสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน มันไม่ใช่หน้าที่สิ่งมีชีวิตด้วยกันไปห้ามให้แต่ละคนทำอะไร”

เราให้ออก้าลงสนามอะไรบ้าง
เปิ้ล “ตอนนี้เขาแข่งชิงแชมป์ประเทศไทยอยู่ เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา เขาเด็กอายุ 7 ขวบเอง ไปแข่งกับเด็กอายุ 12 ขวบ ซึ่งจากครั้งแรกที่ให้เขาแข่ง เขาก็ร้องไห้ เตรียมตัวมาดี พอถึงสนามร้องไห้ ไม่ยอมแข่ง เขิน คนกรี๊ดเยอะ พอเขาประกาศชื่อว่า นักแข่งคนต่อไป นครา ศิลาชัย ออก้า ร้องไห้ เขาถามว่าพูดชื่อออก้าทำไม ออก้ากำลังจะเตรียมตัวไปแข่ง ร้องไห้ เขาเรียกชื่อทำไม ออก้าไม่แข่งแล้ว

เปิ้ล-นาคร

นักเจ็ทสกีจิ๋ว

เขากลัวเพราะว่าโดนประกาศชื่อคิดว่าทำผิดใช่ไหม
เปิ้ล “ใช่ เขาก็เลยไม่แข่งเลย พอครั้งที่สองก็เลยอธิบายเขา ว่าลูกไม่ต้องไปสนใจตรงนั้น หน้าที่ของลูกคือทำให้ดีกว่าวันที่ออก้าร้องไห้นะ โอเคไหม เอาแต่วันนี้ออก้าไม่ร้อง แล้วลงไปแข่งตามที่ตัวเองอยากแข่ง ปรากฎว่าเขาก็ลงไปแข่ง คือไม่ต้องไปลนะคนอื่นหรอก แค่นี้พ่อกับแม่ก็ถือว่าชนะแล้ว”

ตอนนี้น้องเริ่มชินกับสนามหรือยัง
เปิ้ล “ทุกวันนี้ มีแต่บอกว่าป๋าไปซ้อมๆ ไปซ้อมเร็ว เขารอ เสาร์-อาทิตย์ นี้มากเลย รอเลยว่าเมื่อไหร่จะไปโคราช เมื่อไหร่จะไปแข่ง อีกกี่วัน อีกกี่ชั่วโมง คือถามทุกวัน”

เราจะผลักดันเขาไปขนาดไหนสำหรับเจ็ตสกี
เปิ้ล “คือจริงๆแล้วเราคาดเดาไม่ได้ ถ้าเกิดเขาโตขึ้นมาแล้วเขาอยากเป็นนักการเมือง หรืออยากจะเป็นทหาร หรืออยากจะเป็นหมอ หรือเขาอยากจะไปแปลงเพศ คือเราเดาเขาไม่ได้จริงๆ ถ้าวันหนึ่งเขาอยากเป็นนักกีฬาเราก็จะดันเขาให้เป็นนักกีฬาที่ดีที่สุดในโลก แต่ถ้าวันหนึ่งเขาอยากจะแปลงเพศ เราก็จะหาหมอที่แพงที่สุดในโลกให้เขา แล้วเขาต้องได้มิสทิฟฟานี่ เอาให้สุด”

ถือเป็นการลงแข่งเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งแรกเลยไหม
เปิ้ล “เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เสาร์- อาทิตย์นี้”

แล้วน้องออกู๊ดมีแววมางนี้บ้างไหม
เปื้ล “ออกู๊ดชอบมาก แต่ชอบร้องไห้มากกว่า(หัวเราะ) แล้วก็ติดแม่มาก แล้วยังขี้เหร่เหมือนแม่มากที่สุด”

เห็นว่าน้องออกู๊ดผ่าตัดตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำไมยังใส่แว่นอยู่
จูน “เพราะว่าที่ใส่อยู่ เป็นการปรับค่าสายตายาว เขามีเลซี่อายกับสายตายาวร่วมด้วย แต่ในชีวิตนี้ไม่ต้องผ่าตัดตาอีกแล้ว จบแล้ว หายแล้ว เหลือค่าสายตายาวอย่างเดียว”
เปิ้ล “คือเอาตรงๆเลยนะ ปีที่ผ่านมาก่อนที่จะผ่าตัดเรากังวลมาก ทั้งตาอ่อนแรง แล้วก็ตาเหล่ข้างหนึ่ง ตอนนี้ลองกลับไปดูสิ แฮปปี้มาก ตากลับมาเหมือนเดิมเป๊ะเลย คือทีแรกหมอบอกว่าเอาน่า เดี๋ยวจะหาย แต่พอผ่าตัดครั้งที่สองปุ๊บมันหนักกว่าเดิมอีก เราก็แบบหมอ มึงมั่วแล้ว โมโหหมอมากเลยนะ หมอชื่อปกป้อง เราก็แบบ ต่อไปนี้ปกป้องตัวเองเถอะ ทำไมเป็นอย่างนี้ หมอก็บอกใจเย็นๆ เชื่อไหมว่าทุกวันนี้เรามองหน้าลูกแล้วเราอยากจะกราบเท้าคุณหมอมากๆ ลูกเรากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม รู้สึกดีใจมากๆ เป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ทุกคนด้วย ที่มีลูกเป็นแบบนี้ รักษาหายได้จริงๆ มันไม่ใช่ปาฏิหาริย์ ตอนนี้เขาหายจริงๆ ดีขึ้นมากๆ”

น้องยังต้องใส่แว่นต่อไปถึงเมื่อไหร่
จูน “ก็อยู่ที่สายตาเขา ให้แว่นคอยปรับโฟกัส แล้วก็ร่างกายน้องเองด้วย หลายๆอย่าง ก็ต้องใช้เวลาแป๊บหนึ่งค่ะ แต่จริงๆใส่ยันโตก็ได้ ไม่ได้มีผลอะไร”

ขอบคุณรูปจากไอจี : june_kasama

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน