พระเอกแวมไพร์ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ แง้มเคล็ดลับ สตัฟฟ์หน้าเด็ก อยู่ในโลกธรรมชาติ

พระเอกแวมไพร์ – วันที่ 2 ก.ค. ที่ ลาน Bell Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าสุพรีม คอมเพล็กซ์ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี พระเอกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซนเตอร์ “ผลิตภัณฑ์ สก๊อต รังนกแท้ รอเยล โกลด์” ที่ตนเองนั่งแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรก ถึงเรื่องที่เดินทางไปให้กำลังใจผู้ประสบภัยพิบัติที่ประเทศโมซัมบิก รวมถึงเคล็ดลับดูแลตัวเองให้เด็กตลอดเวลา จนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า “พระเอกแวมไพร์”

พระเอกแวมไพร์

ติ๊ก เจษฎาภรณ์

ถามถึงการเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ ค่าตัวถึง 8 หลักไหม?
“คิดว่าไม่น่าจะถึงครับ(หัวเราะ) ประมาณหนึ่ง ในเรื่องของตัวเลขเราเก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อนดีกว่า อันนี้แต่ละคนมันไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์อะไรตายตัว ถามว่าสมน้ำสมเนื้อมั้ย มันไม่ใช่ว่าเงินจะจ้างได้ทุกอย่างนะครับ(หัวเราะ) ถือว่าตัวเองได้มีประสบการณ์อะไรใหม่ๆ มากขึ้นในการทำงานแบบนี้”

ล่าสุดเห็นเพิ่งกลับมาจากประเทศโมซัมบิก เล่าให้ฟังหน่อยว่าไปทำอะไรมา?
“ใช่ครับ ผมเพิ่งกลับมาจากประเทศโมซัมบิก อยู่ทางประเทศแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติก็คือพายุไซโคลนรุนแรง ทำให้อาคารบ้านเรือนต่างๆ พังพินาศหมด ผู้คนไม่มีที่อยู่อาศัย บางคนก็เสียชีวิต เกิดภาวะน้ำท่วม ขาดแคลนอาหาร และเกิดโรคระบาด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทางยูนิเซฟได้ร่วมมือกับทางรัฐบาลและเข้าไปดูแลในเรื่องพวกนี้ ตัวผมเองดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับโปรเจ็กต์ “ไทยช่วยภัยไซโคลน” จริงๆ แล้วอยากจะให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือกัน ด้วยความที่โลกตอนนี้มันย่อลง การเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันมันรวดเร็ว อย่างน้อยๆ พวกเขาก็เป็นเพื่อนร่วมโลกของเรา การที่เราจะหยิบยื่นความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่สามารถทำได้ก็อยากทำ ผมก็เป็นส่วนหนึ่งในการนำภาพต่างๆ เหล่านั้นกลับมาให้พี่น้องชาวไทยได้เห็นกัน และก็สามารถที่จะร่วมกันบริจาคได้”

พระเอกแวมไพร์

จับมือยูนิเซฟ ร่วมโปรเจ็กต์ ไทยช่วยภัยไซโคลน

 

ครั้งนี้คือไปให้กำลังใจใช่ไหม?
“ใช่ครับ เวลาที่พวกเขาได้เห็นคนต่างถิ่นเข้าไป โดยเฉพาะคนเอเชีย ตอนแรกเขาก็แปลกใจว่ามาทำอะไร เราก็สื่อสารกลับไปว่ามาให้กำลังใจและจะนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้กลับไปยังประเทศของเรา ทำให้ทุกๆ คนได้ร่วมมือกันและบริจาคให้กับองค์กรที่เป็นตัวกลาง เพื่อที่เงินต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเยียวยาพวกเขา เนื่องจากความเสียหายเป็นวงกว้างมาก ดังนั้นเงินบริจาคจึงต้องการจำนวนมากมหาศาลเพื่อครอบคลุมจำนวนประชากรที่เขาเดือดร้อน”

พระเอกแวมไพร์

ติ๊กกับเด็กๆ ที่ประเทศโมซัมบิก

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

คนที่นั่นทราบไหมว่าเราเป็นดารามาจากประเทศไทย?
“ไม่น่าจะทราบนะครับ(หัวเราะ) อีกอย่างพวกเขาอาจจะไม่ได้มองว่าเราหล่อก็ได้นะ แต่เจ้าหน้าที่ยูนิเซฟของประเทศไทยก็จะได้ไปเจอกับเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟที่โมซัมบิก เขาพอจะทราบว่าคนนี้เป็นใคร”

ทำอะไรหลายอย่าง แต่ละอย่างก็ดูลุยๆ ทั้งนั้น แต่ทำไมไม่กระทบความหล่อเลย?
“(หัวเราะ) เอาจริงๆ ก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรนะครับ เพียงแต่ว่าเราอย่าไปทำอะไรให้ตัวเองโทรม ดังนั้นเราก็จะต้องพักผ่อนให้เต็มที่ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ ไม่เอาสิ่งที่ไม่ดีเข้าร่างกาย สิ่งสำคัญคือว่า ตัวผมเองส่วนใหญ่อยู่ในโลกธรรมชาติ ธรรมชาติเลยทำให้เรามีความสุข ฉะนั้นมันเลยถ่ายทอดจากข้างในออกสู่ภายนอก

พระเอกแวมไพร์

อยู่กับธรรมชาติ

หลายคนแซวว่าสตัฟฟ์หน้าเอาไว้ให้เด็กตลอดหรือเปล่า?
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ มันก็เป็นไปตามกาลเวลา อย่างที่บอกว่าต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดดีกว่า เพราะผู้ชมเขาไว้ใจเราและอยากเห็นติ๊กแบบนี้ไปอีกนานๆ เราก็พยายามตอบสนองนโยบายนี้ อีกอยากเรื่องของความคิดก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าไปคิดว่าตัวเองอายุเยอะแก่แล้วไม่ไหวแล้ว แค่คิดก็ผิดแล้วครับ”

ฉายาพระเอกแวมไพร์?
“ดีใจนะครับ แต่ว่าต้องมีเลือดไปให้กินนะ(หัวเราะ)”

พระเอกแวมไพร๋

หล่อขั้นเทพ

นอกจากใช้ธรรมชาติบำบัดแล้ว ยังพึ่งนวัตกรรมต่างๆ ในการดูแลตัวเองด้วยไหม?
“ผมเองมักจะเป็นสิวบ่อย แน่นอนว่าก็ต้องไปหาหมอเพื่อรักษาและดูแล ทรีตเม้นต์อาจจะมีบ้างบางครั้ง เวลาไปโลดโผนแล้วเหนื่อยกลับมา การที่เราจะดูแลตัวเองดีที่สุดก็เป็นเรื่องของอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การพักผ่อนให้เต็มที่ และมองโลกในแง่ดี ส่วนเรื่องเข้าคลินิกเสริมความงาม อย่าเรียกว่าเสริมความงาม แต่เป็นการไปหาคุณหมอเพื่อรักษาสิวดีกว่า”

หน้าสตัฟฟ์ไว้แล้ว ซิกซ์แพ็กสตัฟฟ์ไว้ด้วยไหม?
“ไม่เลยครับ เป็นช่วงๆ แล้วแต่งานเลย ถ้าจะมีงานถอดเสื้อก็ค่อยฟิตทีนึง พอจบก็เริ่มขี้เกียจฟิตต่อ เดี๋ยวเร็วๆ นี้ก็น่าจะมีงานให้ต้องถอดเสื้ออีกนะครับ”

ยิ่งอายุมากยิ่งหล่อ ภรรยามีหวงบ้างไหม?
“ไม่นะครับ ผมว่าเขาน่าจะชินกับสิ่งที่เขาเห็น อาจจะไม่มองแล้วรู้สึกอย่างที่คนอื่นเห็นก็ได้นะครับ(ยิ้ม) ฉะนั้นเขาก็ไม่น่าจะห่วงอะไร เพราะอยู่กันมาขนาดนี้แล้ว”

ขอบคุณภาพ เฟซบุ๊ก Tik Jesdaporn Pholdee

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน