วันที่ 23 มีค. ที่ช่อง 7 ค่าย ไนน์ บีเวอร์ ฟิล์ม จัดพิธีบวงสรวงละครเรื่อง “เล็บครุฑ” โดยงานนี้ผู้จัดคนเก่ง “โอลิเวอร์ บีเวอร์” นำทีมนักแสดงมาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง ซึ่งหลังจากจบพิธีบวงสรวง ผู้จัดหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ตนเองได้โพสต์ข้อความให้ช่วยตามหาคนที่ขับรถชนหลานสาวของตนเองเสียชีวิต แล้วหนีไปว่า
Live เปิดใจ “โอลิเวอร์ บีเวอร์” หลังโพสต์เรียกร้องช่วยกันตามหาคนขับรถชนหลานสาวจนเสียชีวิตแล้วหนี รวมถึงเรื่องเพิ่งหย่ากับภรรยา #ข่าวสดบันเทิง
โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด บน 22 มีนาคม 2017
“หลังจากเราโพสต์ไป หนึ่งวันถัดไปคนทำผิดก็เข้ามาเจรจา ขอโทษและขอขมาศพเราไม่ติดใจอะไร เชื่อว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่ในส่วนของคดีความเป็นคดีอาญาก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนดำเนินการ”
ตอนแรกคือชนแล้วหนี โอลิเวอร์ เผยว่า “ครั้งแรกพอชนแล้วหายเราก็ต้องตีความอย่างนั้นก่อน แต่เอาจริงๆ ผมไม่อยากตีความอย่างนั้น อาจจะตกใจ ช็อก ขอไปตั้งหลักก่อน พอได้สติก็กลับเข้ามาให้การ เวรระงับด้วยการไม่จองเวร หลังจากนี้ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจ”
คิดไหมว่าถ้าไม่โพสต์เขาอาจจะไม่กลับมา “ไม่กล้าจะออกความเห็นตรงนั้นเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขอบคุณสื่อโซเชียลที่ให้ความสนใจและช่วยกันแชร์ ตัวเขาเองก็คงไม่ได้ตั้งใจหนี พอโซเชียลมีการช่วยกันแชร์ก็คงจะมีคนไปบอก ไปเตือน จนเขาตัดสินใจเข้ามาหาเรา ต้องขอบทุกคนที่เป็นห่วงครอบครัวผม ตอนนี้งานศพเรียบร้อยแล้ว เผาเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ต้องดูคดีต่อไป”
นอกจากเข้ามาคุยแล้วเขามาแสดงความรับผิดชอบอะไรอีกบ้าง “มีบางส่วนที่เข้ามาแสดงความรับผิดชอบ แต่ตรงนี้ต้องคุยกับน้องชายผม เขาทราบรายละเอียด เขาเป็นพ่อของหลานที่ฝ่ายนั้นมาเจรจา หลานสาวที่เสียชีวิตเขาอายุ 23 ปีเองครับ แต่ก็ไม่เป็นไรเขาไปสบายแล้ว คงทำบุญมาแค่นี้ใช้ชีวิตบนโลกได้แค่ 23 ปี ครอบครัวก็เสียใจ เขาน่าจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ แต่ครอบครัวก็ทำใจ มีมาก็มีไป”
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าตอนนี้ได้กลับมาเป็นหนุ่มโสดอีกครั้ง หลังจากที่ได้จดทะเบียนหย่ากับอดีตภรรยา ที่แต่งงานอยู่ด้วยกันมาเกือบ 3 ปี ผู้จัดหนุ่มเผยว่า “ก็ทำบุญกันมาแค่นี้ มีมาก็มีไป ในเมื่ออยู่กันไม่ได้ก็ต้องแยกกัน หย่ากันเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องโกรธกัน เอาน่าผมก็กลายเป็นหนุ่มโสดที่หน้าตาดี ส่วนเรื่องของสาเหตุ ถ้าให้พูดกันก็ยาว หลักๆคืออยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็เหมือนกับคนเป็นแฟนกันแล้วเลิกกัน แต่การคบกันครั้งนี้มีสักขีพยานเยอะ มีงานแต่ง การจดทะเบียน แล้วพอเลิกก็ไม่เหมือนเลิกแฟนที่โทรไปบอกเลิกเฉยๆ ตอนแต่งจดทะเบียนสมรส ตอนเลิกก็ต้องจดทะเบียนหย่า ในเมื่อสังคมรับรู้มาตั้งแต่แรกก็เลยทำให้คนเกิดคำถามว่าทำไมดาราแต่งแล้วชอบเลิกกัน จริงๆคนเลิกกันมีเยอะแยะ เพียงแต่เขาไม่ได้เป็นข่าว ตอนแรกก็คิดว่าไม่เป็นข่าวหรอก เพราะเราไม่ได้ดัง เราหย่ากันตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว มาคนถามก็ตอบเลยเป็นข่าวขึ้นมา”
แต่คนนี้ก่อนแต่งก็คบกันนาน “คบ 5 ปี รวมแต่งงานด้วยก็เกือบ 3 ปี ก็ประมาณ 8 ปีที่อยู่ด้วยกัน ถามว่าเสียดายเวลาไหม ไม่นะ คนเราคบกันตอนรักกันก็บอกว่าดี พอตอนเลิกบอกเสียดาย เลือกเอาตอนที่เรารู้สึกดีๆมาใช้ดีกว่าทุกวันนี้นานๆก็คุยกันที”
ชีวิตก่อนแต่งต่างจากหลังแต่งไหม “ไม่ครับ เหมือนกันเลย แต่เป็นปัญหาของแต่ละคู่ เอามาพูดก็ดูไม่งาม เอาเป็นว่าเราแยกกันด้วยดี”
โสดแล้ว มีคนเข้ามาไหม “ยังครับ และก็ไม่ได้ปิดด้วย เปิดรับ แต่ด้วยความที่เราทำงานเยอะ ไม่มีเวลาหรอก ถ้าจะมีเดี๋ยวก็คงมีเอง ผมไม่ได้เข็ดกับการที่จะมีความรัก มีคู่ ก็ผู้ชาย ถามว่าเหงาไหม แรกๆรู้สึกบ้าง เวลาตอนกลางคืนอยู่บ้านคนเดียว แต่ตอนนี้ชินแล้ว ถามว่าถ้ามีคนเข้ามาเลือกเยอะไหม ใครก็ได้ มาเลย แต่คงไม่แต่งแล้ว พอแล้ว อยู่กันแบบเพื่อน อยู่ด้วยกันไม่ต้องแต่ง แต่งแล้วหย่าเดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก”