‘บูม’จับคู่‘ทับทิม’ครั้งแรก‘อ๊อฟ’บู๊ยืนหนึ่ง‘พรายพิฆาต’
คอลัมน์ ข่าวสดเสาร์สด
‘บูม’จับคู่‘ทับทิม’ครั้งแรก – จ่อคิวออนแอร์แล้ว ละคร แอ๊กชั่น–ไซไฟ “พรายพิฆาต” บทประพันธ์ ของ ‘พนมเทียน’ ผลิตโดย ค่ายป๊าสั่ง ย่าสอน คว้าพระเอก ‘บูม’กิตตน์ก้อง ขำกฤษ รับบท ‘พ.ต.ต.เชิดวุธ’ ประชันนางเอกสาว ‘ทับทิม’อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ในบท ‘สนธยา’
พร้อมด้วย ‘อ๊อฟ’ชนะพล สัตยา ที่สวมบทบาท 2 คาแร็กเตอร์ จอมโจร ‘พราน จอมภูต’ และนักเลงปลายแถว ‘ศรศิลป์’ จับคู่ ‘เกรซ’ พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ ที่รับบท ‘แจ๊สมิน ซุง’
ร่วมด้วย อู๋–นวพล(เดชา), ไวท์–กุลธวัช (สุระ), แมงมุม–พงษธัช(นิค), เติ้ล–ปิติพน (หมวดเชษฐ์), เมย์–สิรินทร์(หมวดรุ้ง), คะน้า–ริญญารัตน์(ปรายฟ้า), เชน–ณัฐวัฒน์(เฮนรี่ ซุง), กษาปณ์ จำปาดิบ(เฮียหงวน), เล็ก ไอศูรย์(วัง เฟย หลงอำพล บวรกุล)
สุรศักดิ์ ชัยอรรถ (ศ.ดร.วิม), สุเมธ องอาจ(ดร.วิทย์), โจ๊ก–อัครินทร์ (เอ็ดเวิร์ด ลี), กะต๊อบ–อธิวัฒน์ (โชติ แสงฉาน) ฯลฯ กำกับการแสดงโดย ‘เตอร์’รฤกฤกษ์ กัลย์จาฤก ทายาทใต้ต้นของ ‘ต๊ะ–นิรัตติศัย’
ทั้งนี้ เตอร์ ผู้กำกับฯ เผยว่า “พรายพิฆาต เป็นละครแนวแอ๊กชั่น จริงๆ มีทั้งโรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า ทุกอย่าง แต่เราจะนำหนึ่งคือเรื่องแอ๊กชั่น ด้วยบทประพันธ์เกี่ยวกับโจรคนหนึ่งที่เหมือนโรบินฮู้ด ไปปล้นหรือขโมยของเพื่อขัดขวางพวกตัวร้าย คือถ้าเป็นโรบิน ฮู้ดขโมยมาให้คนจน แต่ของเราไปขัดขวางโจร คือเป็นโจรขัดกับโจร โจรคนนี้เป็นคนดีแต่ทำตัวเป็นอาชญากร แล้วตำรวจไล่จับองค์กรหนึ่งกับโจรคนนี้ด้วย”
เรื่องนี้ ‘อ๊อฟ–ชนะพล’ พลิกบทบาท 2 คาแร็กเตอร์ ผู้กำกับฯ อธิบายเพิ่มว่า “อ๊อฟ แสดงเป็น พราน จอมภูต โจรที่เป็นคนดี มาๆ หายๆ โผล่มาบู๊ โผล่มายิง กวนประสาทแบบน่ารัก ดูหล่อ แม้กระทั่งการด่าคนก็ดูมีเสน่ห์ กับอีกคาแร็กเตอร์นึง ศรศิลป์ เป็นตัวละครที่กวนประสาท ตัวนี้จะเป็นตัวหลอก พยายามสนิทกับคนนู้นคนนี้เพื่อเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ เพราะฉะนั้นก็เป็นการบ้านที่อ๊อฟจะต้องไปทำ ซึ่งมันยากมาก”
นอกจากนี้ยังมีพระเอก ‘บูม–กิตตน์ก้อง’ จับคู่ ‘ทับทิม–อัญรินทร์’ ครั้งแรกด้วย เป็นอย่างไรบ้าง “เท่าที่เห็น เขาก็พยายามช่วยเหลือกันตลอด อย่างฉากเลิฟซีนของบูม กับทับทิมจะเป็นมุมรักแบบใสๆ ไม่ได้จูบพร่ำเพรื่อ เขาจะเป็นความรักของมนุษย์ธรรมดาที่ค่อยๆ เริ่มต้นจีบกัน หรือคนนี้ไม่รักแล้วทำยังไงให้รักกัน มีเศร้า ดูมีอะไร แต่ฝั่งอ๊อฟกับเกรซมันเอะอะจูบ ตบแล้วจูบ คือจะเป็นรูปแบบของแต่ละคู่”
ความยากในการกำกับบู๊ เตอร์กล่าวว่า “มีเวิร์กช็อปตั้งแต่เปิดกล้อง เพราะเราต้องรู้ว่านักแสดงแต่ละคนบู๊ได้ขนาดไหน เพื่อทำการบ้านกับทีมทำแอ๊กชั่นคิว กับฉากบู๊นักแสดงก็พยายามขอเล่นเอง เจ็บเองหมด ยกเว้นเป็นอะไรที่เกินตัว เช่น ตัวอ๊อฟต้องกระโดดตึก 7 ชั้น เขาก็พยายามแล้วนะ สุดท้ายขอเป็นสแตนด์อินดีกว่า เพื่อความปลอดภัย ฉากตกตึก ตกบันได หรืออะไรที่คอนโทรลยาก
เราใช้สแตนด์อินก่อน อย่างกระโดดทะลุกระจก วิ่งหนีระเบิด พี่อ๊อฟเล่นเอง เอฟเฟ็กต์เล่นกันเอง ส่วนตัวละครอื่น อย่างเชิดวุธที่เป็นตำรวจจะบู๊แบบข้ามเส้นไม่ได้ แต่ละตัวละครมันมีแพตเทิร์นของมัน ตอนเริ่มต้นเราตีความว่าเป็นแอ๊กชั่น–ไซไฟ แต่พอเป็นแอ๊กชั่น–ไซไฟเนี่ย หมายความว่าคอมพิวเตอร์ ไฮเทค เราก็ใส่เท่าที่เราจะใส่ไหว ส่วนความเรียลของแอ๊กชั่นที่เป็นเอฟเฟ็กต์กระสุนหรือระเบิด เราใส่ไม่อั้น”
จุดพีกของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แทบจะพีกตลอดเวลา เดี๋ยวมีขึ้นมีลง มีการหลอกลวง มีจริงใจ ไม่จริงใจ คือจุดพีกที่มันไม่สามารถบอกได้ว่านี่มันพีกที่สุด เราเป็นคนรู้เรื่อง ดังนั้นเราจะเป็นคนหาจุดพีกที่สุดได้ยากกว่า”
กดดันไหม “กดดันมากครับที่ได้บทประพันธ์ชั้นครูมาทำ(พนมเทียน) แล้วคนที่เป็นแฟนคลับบทประพันธ์ กับคนที่เป็นแฟนคลับละคร มันจะมีความรู้สึกไม่เหมือนกัน เราต้องทำให้ทั้งคนที่เป็นแฟนคลับบทประพันธ์ชอบ แล้วคนที่เป็นแฟนคลับละครก็ชอบเหมือนกัน”
“ขอฝากละครพรายพิฆาตด้วยครับ เป็นละครแอ๊กชั่น ไซไฟ โรแมนติก ทุกอย่างครบรส ติดตามได้ทางช่อง 7 ศุกร์–เสาร์–อาทิตย์ เวลา 20.40 น. ออนแอร์ 27 กรกฎาคมนี้ครับ” ผู้กำกับฯกล่าว ตบท้าย
