‘มาสุ’พีก-อินเนอร์‘โจ้’พุ่ง!

ดำดิ่งบทบาท-น้อมรับคำติ

คอลัมน์ ข่าวสดอาทิตย์ใส

อนงค์ จันทร

‘มาสุ’พีก-อินเนอร์‘โจ้’พุ่ง! – กําลังโดนถล่มเละ สำหรับ ‘คุณโจ้’ ตัวละครร้ายจอมเจ้าชู้ในละคร “ลับลวงใจ” ทางช่อง 3 ที่ถ่ายทอดโดยพระเอกหนุ่ม ‘มาสุ จรรยางค์ดีกุล’ ซึ่งแสดงได้เนียนจนแฟนๆ อิน หมั่นไส้กันทั่วบ้าน ทั่วเมือง

กระแสฮอตซะขนาดนี้ พลาดไม่ได้ที่จะจับเข่าคุยหนุ่มมาสุในการพลิกบทบาท

ตอนรู้ว่าต้องเล่นเป็น ‘โจ้’ ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร?

มาสุ – “พี่ฟิวส์(กิตติศักดิ์) ผู้กำกับฯ โทร.มาถามว่ามีบทแบบนี้ อยากลองมั้ย เขาก็เล่าเรื่องให้ฟัง พอฟังแล้วรู้สึกท้าทาย ก็ตอบว่าอยากเล่น จากนั้นก็มาเวิร์กช็อป กับอาปิ่น(ณัฏฐนันท์) เทสต์หน้ากล้อง ทำเวิร์กช็อปกันหนักมาก เพราะโจ้ไม่ได้ร้ายเหมือนคนอื่น ตัวละครตัวนี้ทำอะไรชัดเจนกว่าชาวบ้าน แบกอะไรหลายๆ อย่างไว้ เรื่องความต้องการของตัวละคร มีการใช้เล่ห์เหลี่ยมอย่างมาก การเข้าหาผู้หญิงแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ประโยคเดียวกัน แต่พูดกับผู้หญิงคนละคน สีหน้าแววตา ความรู้สึกในการพูด หรือจุดมุ่งหมายในการพูดก็ไม่เหมือนกัน ตอนเล่น ผมมองว่าโจ้เป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งเรื่องเหมือนแผนผัง พยายามชักโยงทุกอย่างให้เข้ามาอยู่ในเส้นทางตัวเอง เพื่อประโยชน์ตัวเอง”

เรื่องเจ้าชู้ในบทบาทโจ้ก็โดดเด่น?

มาสุ – “นั่นคือสิ่งที่ทำการบ้านกับผู้กำกับฯ มาอย่างหนัก เลิฟซีนเยอะมาก เลิฟซีนแบบดุเดือดด้วย ซึ่งเรื่องนี้สิ่งที่ต้องทำการบ้านหนักสุดคือบท ท่องบทเยอะมาก เพราะโจ้เป็นตัวละครที่พูดเก่ง บทมา 1 หน้า มันแย่งคนอื่นพูดไปครึ่งหน้าแล้ว เราก็ต้องท่องมาให้ดีๆ ซึ่งคำพูดของเขามีความหมายทุกคำ เป็นแผนการที่ซ่อนอยู่ในประโยค บางทีประโยคยาว 3 บรรทัด ซ่อนแผนการ 3 อย่างของเรา ประโยคหนึ่งพูดเพื่อหว่านเสน่ห์ ประโยคสองโยงเข้าแผนการของเรา ประโยคสามปิดเพื่อเชื่อมให้ตัวละครที่กำลังสนทนากับเราไปปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เพื่อผลประโยชน์ของเรา มันเป็นการทำการบ้านที่ยาก”

เล่นกับสาวคนไหนยากที่สุด?

มาสุ – “เล่นกับน้ำหวาน (ภูริตา) ครับ เพราะต้องเป็นสามีภรรยากัน ซึ่งเราทั้งคู่ไม่เคยแต่งงาน มันยาก ไม่เหมือนการเล่นเป็นแฟนกัน ยิ่งช่วงทะเลาะกันยิ่งยาก อีกอย่างโจ้ไม่ได้แต่งงานเพราะรักผู้หญิงคนนี้อย่างเดียว มีสิ่งที่ซ่อนอยู่ในทุกการกระทำ”

คนที่เราเข้าฉากแล้วรู้สึกสนุกล่ะ?

มาสุ – “พี่เกรท(วรินทร) ครับ เป็นบทที่เชือดเฉือนด้วยคำพูด พอคำพูดรุนแรงมันก็นำมาซึ่งการกระทำที่รุนแรง มีการชกต่อยกัน สนุกทุกซีน ทุกซีนผมจะซ้อมกับพี่เกรทแค่ครั้งเดียว ที่เหลือคือหน้าเซ็ต ส่วนใหญ่เล่นเทกเดียว เป็นอะไรที่สดมาก ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ปะทะคารมหรือชกต่อยกัน มันมาทีเดียว อารมณ์ก็จะรุนแรง ทุกอย่างมันสด ทุกครั้งที่เล่นผมจะจับมือและขอโทษพี่เกรท ก่อน”

พอละครออกไปคนก็มองว่าทำไมเรื่องนี้ มาสุ ร้ายจัง รู้สึกตัดสินใจผิดไหมที่เล่นเรื่องนี้?

มาสุ – “ไม่ผิดครับ ถ้าให้ตัดสินใจอีกทีก็เล่นครับ มันสนุกตอนถ่าย ยิ่งมีคนบอกว่าตัวละครเรื่องนี้ร้ายนะ ยิ่งคนด่าแสดงว่าเราเล่นดี ก็ดีใจครับ ส่วนที่มีคำติชมผมน้อมรับและรับฟัง และจะเอาไปปรับปรุง แต่อยากให้ทราบว่าตอนที่ถ่ายทำ มันร้อนไปทั้งตัว มันอินกับบทบาท ถ่ายทอดออกมาได้มากหรือน้อย หรืออาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆ คนก็ขอโทษด้วย แต่เราทำเต็มที่แล้ว เราดำดิ่งกับบท ณ ตอนนั้นครับ”

ถ้าให้เล่นบทบาทแบบที่เคยเล่นมา กับเรื่อง ‘ลับลวงใจ’ ชอบแบบไหน?

มาสุ – “ชอบคนละแบบครับ เล่นเป็นตัวดีก็ชอบในฟีดแบ็กคนดูที่ชอบและรักเรา แต่เรื่องนี้ผมทำใจไว้ตั้งแต่แรกว่าเราจะไม่ได้ความรัก คนดูต้องเกลียด แต่สิ่งที่ได้คือได้ความท้าทายกับงานของตัวเอง จำได้วันแรกที่เจออาปิ่น อาปิ่นบอกว่าเล่นเรื่องนี้คนต้องเกลียดนะ ถ้าคนไม่เกลียดเท่ากับเราสอบตก ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงบทบาทของผม เล่นเรื่องนี้ผมได้หลายอย่างมาก ได้ท้าทายตัวเอง มันเป็นบทที่ยากเกือบจะที่สุดตั้งแต่เคยเล่นละครมา ผมอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ แต่ก็ยากที่สุดแล้วตั้งแต่ผมเคยเจอมา”

ละครเรื่องต่อไป?

มาสุ – “มี ลิขิตรักข้ามดวงดาว เรื่องนี้กลับมาเป็นภาพที่คุ้นเคยเป็นผู้ชายอบอุ่นโรแมนติก อีกเรื่องเป็นละครผีเรื่อง ผมอาถรรพ์ เรื่องนี้ลุกส์นิ่งๆ และที่กำลังถ่ายทำเรื่อง ดาวหลงฟ้า อันนี้เป็นดราม่า น่าสงสาร ทุกเรื่องแตกต่างกันหมดเลย ก็ทยอยถ่ายกันไปครับ ส่วนบทที่ยังไม่เคยเล่นแล้วอยากเล่น ก็เป็นบทบู๊เท่ๆ ถือปืน”

วงการบันเทิงอยากไปถึงจุดไหน?

มาสุ – “อยากเป็นนักแสดงที่คนดูชื่นชอบเราในการแสดงของเรา ไม่ว่าจะเล่นบทบาทไหน คนดูเปิดมาแล้วรู้สึกว่าอยากดูนักแสดงคนนี้แสดง แค่นั้นพอแล้ว ซึ่ง ณ วันนี้เรายังไม่คิดว่าอนาคตจะยังไง เพราะปัจจุบันมันดี เราทำให้มันดี อะไรที่เหมาะสมกับเราในภายภาคหน้า มันจะตามต่อมาเอง ผมเชื่ออย่างนั้น”

อยู่วงการมา 5 ปี รู้สึกว่าวงการเปลี่ยนไปไหม?

มาสุ – “ไม่เปลี่ยนนะ ผมรู้สึกแค่ว่าเดี๋ยวนี้มีบทบาทหลากหลายให้เล่นมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเล่นบทบาทเดิมๆ หลายคนถามว่าเปลี่ยนบทบาทมาเล่นร้าย คิดดีแล้วเหรอ โอเคแล้วเหรอ คือผมไม่เคยคิดตรงนั้นเลย ผมรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นความสนุกในการทำงาน รู้สึกท้าทายกับบทนี้เราก็อยากเล่น แค่นั้นเอง”

เราจะรักษาระดับงานของเราให้อยู่กับเราได้นานๆ ได้อย่างไร?

มาสุ – “ผมไม่สามารถรักษาระดับงานของตัวเองได้ เพราะตัวผมไม่ได้เป็นคนตัดสินใจว่าผมจะได้รับงานชิ้นนี้ ได้รับบทนี้ สิ่งที่ผมทำได้คือต้องรักษาวินัยในการทำการบ้านของเรา วันที่มาทำงาน เราพร้อมแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่เราตัดสินใจเลือกทำได้ และเราก็ตัดสินใจแล้วที่จะเลือกทำให้ดีที่สุดในทุกๆ วันที่เข้าไปในกองถ่าย”

“พี่ฟิวส์ ผู้กำกับฯ ลับ ลวง ใจ ชอบบอกผมว่า เวลาเราเล่น ให้คิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าเรามานั่งดูตัวเอง หรือวันนึงเรามีลูกมีหลานมาดูละครที่เราเล่น แล้วอยากให้เขารู้สึกอย่างไร จะให้เขารู้สึกว่างั้นๆ ไม่เห็นมีอะไร หรืออยากให้คนดูชื่นชอบ อยู่ที่ความตั้งใจของเราวันนี้ อยู่ที่เราจะเลือกทำครับ”

เป็นไปตามสเต็ป

ถ้านับจากเซ็นสัญญากับช่อง 3 ว่าเป็นการเริ่มก้าวเข้าวงการ ก็ถือว่า 5 ปีแล้วที่พระเอกหนุ่มโลดแล่นในวงการบันเทิง โดยเจ้าตัวเล่าว่า “ผมเล่นละครกับช่อง 3 เรื่องแรกปี 2558 เรื่อง เลือดมังกร ตอน หงส์ ก็เท่ากับว่าเข้าวงการมา 5 ปีแล้วครับ”

5 ปีที่เข้ามาทำงานในวงการ แต่เพิ่งพีกในช่วงนี้ “ผมว่ามันเป็นจังหวะมากกว่าครับ ช่วงแรกๆ บทบาทที่ได้รับยังเบา ไม่รุนแรง ไม่เข้มข้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับทางช่องมองว่าอายุประมาณแค่นี้เหมาะกับบทประมาณไหน อายุมากขึ้น เราสามารถรับบทที่ยากขึ้น ท้าทายขึ้น ก็น่าติดตามสำหรับคนดูมากขึ้น ไม่ได้รู้สึกว่าเร็วหรือว่าช้ากับการทำงานของเรา เป็นไปตามสเต็ปที่ทางช่องวางไว้”

 

ถามว่างานในวงการยากไหม มาสุตอบ “ไม่ยากครับ แค่เราทำการบ้านมา วันที่ไปทำงานเราก็ตื่นแต่เช้าแล้วไปทำงาน แค่นั้นจบ เพราะเราทำการบ้าน เตรียมความพร้อมในการทำงาน สำหรับผม มันไม่ได้ยากอะไร ชีวิตผมก็ไม่เปลี่ยนนะ ยิ่งเป็นชีวิตเบื้องหลังกับเพื่อนๆ หรือว่ากับครอบครัว พี่น้องไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย สิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือเดินไปไหนมาไหนมีคนจำได้บ้างจากละครเรื่องนั้นเรื่องนี้ เขาก็เข้ามาทักทายเรา โดยในหนึ่งอาทิตย์ ผมจะต้องมี 1 วันที่อยู่กับครอบครัว ทุกอย่างผมใช้ชีวิตตามปกติครับ”

เป็นคนที่ใช้ชีวิตระวัง “ก็ไม่ขนาดนั้น คือเวลาที่เราจะพูดอะไรหรือทำอะไร เราจะคิดก่อน เพราะกลัวจะไปกระทบคนอื่น กลัวทำให้คนอื่นเดือดร้อน อย่างสื่อโซเชี่ยลมันรวดเร็วมาก ผมระวังแต่ก็ไม่ได้ระวังเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะนิสัยของเราที่ไม่ค่อยชอบพูดความรู้สึกว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรไปในที่ที่คนเห็นเยอะๆ เราจะพูดเรื่องพวกนี้กับเพื่อนสนิท หรือคนรอบตัว เลยคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ไปข้างนอกก็เหมือนเดิมเลยครับ”

“แต่ช่วงนี้สายตาคนที่มองเข้ามาจะมีอาฆาตบ้าง (หัวเราะ) ผมสัมผัสได้ มีสายตาบางคนที่อาจจะยังอินกับละครอยู่”

แหม…ก็เล่นซะได้เนียนขนาดนั้นน่ะ!!

รักแฮปปี้คบเกินครึ่งปี-เรื่องเวลาไร้ปัญหา

เรื่องความรักดูเงียบๆ โดยหนุ่มหล่อ ‘มาสุ จรรยางค์ดีกุล’ บอกเงียบแน่นอนเพราะเก็บความลับเก่ง ก่อนจะกล่าวต่อว่า “กับสาวก็เหมือนเดิม แฮปปี้มีคนคุย แต่เป็นคนในหรือนอกวงการอันนี้ไม่บอก แต่รอบหน้าเดี๋ยวมีโอกาสบอกแน่นอนครับ”

เรียกว่าเป็นคนเก็บเรื่องความรัก มาสุ ปฏิเสธ “ไม่ครับ แต่ผมเป็นคนไม่โพสต์เรื่องส่วนตัวลง โซเชี่ยล มีบางคนแซวผมว่าไอจีผม เหมือนไอจีแฟนคลับ มีแต่รูปละคร ไปออกงาน หรือไม่ก็รูปกิจกรรม รูปกับเพื่อนหรือกับใครผมไม่เคยโพสต์ เป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ”

ไม่ใช่ว่าอยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว รอให้มั่นใจก่อน “ไม่ใช่ครับ มันเป็นนิสัยเดิม ไม่โพสต์เรื่องส่วนตัว”

จะมีโอกาสเห็นสาวผู้โชคดีคนนี้ไหม มาสุกล่าวว่า “มีแน่นอน แต่ตอนนี้ต้องรอให้คนเลิกเกลียดผมก่อนนะ (หัวเราะ)”

เรามองความรักเป็นอย่างไรบ้าง ยิ่งเป็นดาราคนก็ยิ่งจับตาเรื่องนี้ “มุมมองส่วนตัวของผม ผมมองเป็นเรื่องปกติ และคนสมัยนี้ก็รับได้อยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าต้องเก็บไว้เป็นความลับ หรือปิดกั้น ที่ผ่านมาหลายคนจะคิดว่าทำไมมาสุไม่เห็นลงรูปกับสาวเลย คุยกับใคร ต้องบอกว่าเป็นนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบเปิดเผย แต่ถ้าวันนึง โดนแซวเยอะๆ อาจหลุด (หัวเราะ) แต่ตอนนี้แฮปปี้มีความสุขมากครับ ไปไหนมาไหนกันปกติ ใครเห็นก็ใช่ครับ”

ที่บ้านมีถามเรื่องความรักไหม “ปกติไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กับที่บ้าน เพราะเป็นคนที่เขินอายที่จะคุยเรื่องความรักตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”

เคยพาสาวเข้าบ้านไหม “ไม่เคยครับ ที่บ้านผมมีผู้ใหญ่อยู่เยอะ ผมเกรงใจเพราะที่บ้านผมมีผู้ใหญ่ที่อาจจะไม่สะดวก มีคนป่วยอยู่บ้านด้วย มีอาม่า มีคุณยายที่ไม่สบายอยู่ก็จะเกรงใจ”

ระหว่างความรักที่เปิดเผย กับความรักที่ไม่เปิดเผย คิดว่าอย่างไหนดีกว่ากันสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในวงการ มาสุกล่าวว่า “เปิดเผยดีกว่าครับ ม้วนเดียวจบ เพราะพอเราเปิดเผยก็จะไม่โดนถามบ่อย ไม่โดนแซวบ่อย ชัดเจนไปเลยครับ ซึ่งตัวผมเองไม่ได้ปิดอยู่ แต่มันเป็นสไตล์แบบนี้อยู่แล้ว ขนาดว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ผมยังไม่โพสต์เลยครับ หรือว่าจะมีความคิดเห็นส่วนตัวอะไรก็ไม่ค่อยโพสต์”

หลายคนในวงการชอบพูดว่ามีแฟนพร้อมกับทำงานไปด้วยมันลำบากเรื่องของเวลา คู่เราล่ะลำบากไหม “สำหรับผมไม่นะ ถ้ามีความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่มีปัญหาเลย มีแต่ส่งเสริมให้กำลังใจกัน เรื่องเวลามันมี อยู่ที่เราจัดสรร ซึ่งเรื่องตรงนี้เขาเข้าใจครับ”

คนนี้คุยมานานหรือยัง “เกินครึ่งปีแล้วครับ แต่ขอเก็บไว้ก่อนว่าเป็นใคร ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไรครับ” มาสุกล่าว

ชื่อเล่น – มาสุ

ชื่อ/นามสกุล – มาสุ จรรยางค์ดีกุล

วัน/เดือน/ปีเกิด – 9 มิถุนายน พ.ศ. 2537

บิดา/มารดา – ไพโรจน์/กตัญญู จรรยางค์ดีกุล

พี่น้อง – มีพี่น้อง 4 คน มีพี่สาว 1 คน และน้องชาย 2 คน มาสุเป็นลูกคนที่ 2

การศึกษา – มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนรุ่งอรุณ มัธยมศึกษาต้นปลาย โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ตอนนี้กำลังศึกษาคณะ COMMUNICATION ARTS วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน