เจมส์ มาร์ เขิน ญาญ่า เลิฟซีนหมอทรัพย์มุดมุ้ง เล่น 10 ที ก็รู้สึกเกร็ง

วันที่ 23 ก.ค. ที่ห้องสิรินธร อาคารเฉลิมพระ เกียรติ ชั้น G รพ.ศิริราช ดาราหนุ่มฮอต เจมส์ มาร์ ได้ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวโครงการ “รวมใจไทย สืบสาน พระปณิธานหมอเจ้าฟ้า” ถึงเรื่องฉากเลิฟซีนมุดมุ้งขอนอนแนบชิดกายญาญ่า พร้อมทั้งพูดว่าถึงกระแสการตอบรับละครในทวิตเตอร์ดี แต่ค่าตัวก็ยังคงเท่าเดิมจริงๆ

เมื่อคืนกับฉากเลิฟซีน?
“ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แล้วก็ชื่นชอบฉาก แล้วก็ละครเมื่อคืนนี้ จริงๆละครเมื่อคืนนี้บอกเลยมีจุดพีกหลายๆอย่างมาก มีทั้งฝั่งซ้องปีบ มีทั้งฝั่งนายแคว้น ก็คือเหมือนอารมณ์ว่าใครทำกรรมไรไว้ก็จะได้รับกรรมนั้นไปครับ แต่ว่าหมอกับกาสะลองได้หนีกันมาจนกระทั่งได้มีความสุขแต่งงานกัน ก็ดีที่ทุกคนชอบ ฉากที่เรานำเสนอครับ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าฉากเลิฟซีนจะค่อนข้างอาร์ตๆนิดนึง ก็ดีใจที่ทุกคนชื่นชอบนะครับ แต่หลังจากนี้ก็ต้องไปดูว่าจะมีความสุขได้นานขนาดไหน”

อย่างเมื่อคืนมีฟีดแบกดีแค่ไหน?
“ก็โอเคนะ ไม่มีใครว่าอะไร ไม่มีใครขัดอะไร ไม่มีใครเหมือนแบบดูแล้ว ใช่เหรอ ก็โอเคแล้ว ส่วนตัวได้ดูวันถ่ายละครครับ ก็ได้เห็นฟีคแบกในทวิตเตอร์ ก็ดีใจที่ทุกคนชอบ แล้วก็เห็นแล้วก็รู้สึกว่า พูดง่ายๆ ซีน ก็เป็นที่ชื่นชอบ เราก็ดีใจไปกับตัวละคร ก็ถือว่าหน้าที่ของเรา ประสบความสำเร็จครับ”

มีอะไรพีกอย่างในมุ้งอีกไหม?
“ไม่มีแล้วอ่ะ ไม่มีแล้ว เอ๊ะ หรือเปล่า โอเค พีกอะมีแน่นอน แต่มันจะพีกแบบในมุ้งหรือเปล่า อีกเรื่องนึงครับผม(ยิ้ม) ออกตัวไว้ก่อนว่ามีพีกแน่นอน เพราะว่าเรื่องราวมันยังไม่จบครับผม แต่ถามว่ามีพีกไหม โอ้โห อีกเยอะครับ แต่ว่าจะเป็นแบบเดียวกันหรือเปล่า จะเป็นแบบในมุ้งหรือเปล่า ต้องไปดูครับผม”

เจมส์ มาร์

เป็นเรื่องธรรมดาของคนรักกัน

พี่สันต์ ผู้กำกับบอกว่าอยากให้ได้ฉากเลิฟซีนเป็นแบบไหน?
“ก็ แบบที่ออกมานั่นแหละ(หัวเราะ) คือพี่สันต์เขาบอกว่า โอเคแหละ ด้วยเนื้อเรื่องคือมันหนีกันมาขนาดนั้น รักกันมาขนาดนั้น มันก็เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เขารักกัน เหมือนกับแบบว่าพอแต่งงานกันแล้ว ใช่มั้ย ก็เข้าหอก็ว่ากันไป ทีนี้พี่สันต์เขาก็จะดีไซน์มุมกล้อง แสง มันจะดูนัวๆ มันจะดูแบบ พูดง่ายๆคือสาดไฟเข้าไปเยอะมากเลยครับ แล้วก็มีมุมท็อป มีมุมข้างอะไรอย่างนี้ มีอินเสิร์ตมือ อย่างที่บอกครับมันเป็นศิลปะของการละคร แล้วอันนี้ก็จะเป็นแนว ของแนวที่พี่สันต์เขาบรีฟไว้อย่างนี้ โอเคเราต้องขออนุญาตก่อน เราต้องเซฟฉากซึ่งกันและกันครับ”

เจมส์ มาร์

ศิลปะการแสดง

เจมส์ มาร์

หนีกันมา

เขินไหม เข้าฉาก?
“เขินอยู่แล้วครับ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราในฐานะนักแสดง ณ ตอนนั้นเราเป็นหมอทรัพย์ เรารู้สึกเขินอยู่แล้วล่ะ โอเค ถ้าถามว่า เรารู้สึกยังไงที่เราเล่นเราเล่นฉากนี้กับญาญ่า ก็ขอบคุณที่ญาญ่าเต็มที่ แล้วก็ไว้วางใจเรา ในการเล่นฉากนี้ แล้วเราก็ดีใจที่ได้ทำมันออกมาเต็มที่ แล้วก็ตามที่ผู้กำกับต้องการครับ แล้วก็ที่ผู้จัดต้องการครับ”

เจมส์ มาร์

เขิน ญาญ่า

มีการคุย?
“มีครับ เรื่องแบบนี้เราต้องคุยกัน คุยกันทุกคนอยู่แล้วครับ ที่เราทุกคนเข้าฉากกันแบบนี้ด้วย แต่ละคนก็จะมีจังหวะที่ไม่เหมือนกันอย่างเนี่ย เราก็จะต้องคุยกันว่าเดี๋ยวถ้าเป็นอย่างนี้ เราจะอย่างนี้ อย่างนี้นะ อะไรประมาณนี้ครับ”

 

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกกับการแสดงฉากเลิฟซีน แต่ฉากในมุ้งครั้งนี้ก็ยังรู้สึกเกร็ง?
ก็ มันเกร็งอยู่แล้วครับ คือให้ใครมาเล่นฉากนี้ ให้เล่นอีก 10 ที ผมว่าเขาก็ต้องรู้สึกเกร็งบ้างแหละ เพราะว่ามันเป็นฉากสำคัญของเรื่องด้วย มันไม่ใช่แค่เราคิดว่ามันคือเลิฟซีน คือมันมีอะไรมากกว่าคำว่าเลิฟซีน มันเป็นเรื่องของความรัก ความรู้สึก ความทุ่มเท ทุกอย่างที่เราผ่านพ้นมาในละคร มันต้องมารวมในฉากนี้ มันก็ต้องตื่นเต้น เกรงเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับผม”

ช่วงนี้ออกงานเยอะขึ้นมากเลย?
“ก็เรื่อยๆครับผม เพราะว่าตอนนี้คือส่วนหนึ่งละครออนแอร์แล้วเราโปรโมตละครเยอะด้วย ก็มีโอกาสได้ออกงานได้เจอแฟนๆ แล้วก็ได้เจอพี่ๆด้วยครับก็ถือว่าโชคดี แล้วก็ดีใจครับ”

7 วันคือ คิวแน่น?
“ไม่แน่นขนาดนี้ครับ ไม่แน่นขนาดนั้นครับ คือเราก็ต้องถ่ายละครด้วยแล้วก็มีเวลาพักผ่อนอยู่แล้วครับผม อย่างวันนี้เดี๋ยวเสร็จก็คงดูละครแล้วครับ(หัวเราะ)”

มีการแบ่งเวลายังไงกับการถ่ายละคร?
“อันนั้นแบ่งชัดเจนอยู่แล้วครับ คิวละคร จันทร์ พุธ ศุกร์ ยกตัวอย่างก็ส่วนใหญ่คิวละครก็จะเป็นหลัก แต่ทีนี้ถ้าเขาไม่ถ่ายเขาก็จะบอกเราก่อน ไม่พัก ก็ทำงานได้เช่นเดียวกันหรือว่าจะไปไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ก็คือ ทำให้ชัดเจนครับ ส่วนใหญ่ละครก็คือละคร หรือว่างานอีเวนต์อีกก็จะเป็นวันที่ไม่มีคิวละครครับผม ก็จะเป็นวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์”

อย่างแต่ละงานเราไม่มีสกรีน?
“ส่วนตัวผมไม่ได้สกรีนอยู่แล้วครับ ส่วนใหญ่ก็ให้ทางทีมงาน แล้วก็ผู้จัดการเขา เขาเลือกตั้งแต่แรกก็ให้เขารับ ดูตามความเหมาะสมพี่เอกับพี่อ๋าก็จะดูผมเรื่อยๆอยู่แล้วครับ เราก็มีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด แล้วก็เอนจอยไปกับมันครับ เอนจอยคือทำทุกๆอย่าง

ค่าตัวมีเท่าตัวหรือเพิ่ม?
“เท่าเดิมครับ เท่าเดิมครับ ก็คือจริงๆเรื่องค่าตัวผมเองก็ เขาเรียกว่าไงแต่ละงานมันก็มีเรตของมันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราทำอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน คือค่าตัวคนเรามันไม่ได้ มันขึ้นๆลงๆแล้วตามเหตุการณ์ของงาน มันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว แต่ว่าผมก็เท่าเดิมครับ ผมไม่ได้อะไรมาก เราก็ทำงานแบบนี้ก็แฮปปี้แล้วครับ”

จากกระแสละคร ต้องมีเพิ่มขึ้นหรือเปล่า?
เพิ่มขึ้นกลัวว่าเขาจะไม่จ้างนะพี่(หัวเราะ) นี่ก็โอเคแล้วครับอย่างที่บอกคือ แต่ละงานมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว บางท่านอาจจะบอกว่าค่าตัวเปลี่ยนหรือเปล่า จริงๆมันอยู่ที่การทำงานมากกว่า งานอีเวนต์นั้นมันต้องทำงานมากน้อยแค่ไหนตามเวลา มันก็เพิ่ม ลดเป็นธรรมดาซึ่งทุกคนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ ก็ไม่ต้องห่วงครับผมยังเท่าเดิมครับผม(หัวเราะ)

งานพรีเซ็นเตอร์ตอนนี้มี?
“ก็มีเรื่อยๆครับ ก็คือมีพรีเซ็นเตอร์ของเมื่อปีที่แล้วอยู่แล้วครับ แล้วก็ถ้าเรื่องพรีเซ็นเตอร์ใหม่ๆก็ต้องไปถามทางพี่เอ ว่ามีอะไรยังไงบ้าง ก็ต้องรอทางบริษัทนั้นๆเขาประกาศอีกทีครับ ยังบอกไม่ได้ว่ามีอะไรใหม่ๆ แต่ว่าของเดิมๆ พรีเซ็นเตอร์เดิมๆที่เรามีอยู่แล้วก็ยังมีครับ เราก็เต็มที่กับงานอยู่ครับ”

ขอบคุณรูปภาพ :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน