แพท ณปภา หลั่งน้ำตาเล่าเรื่องแม่ ครั้งหนึ่งเคยคิดว่า พิ้งกี้ คือลูกตัวเอง

แพทเล่านาทีคุณแม่ติดต่อมา

แพทเล่านาทีคุณแม่ติดต่อมา

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครสุดๆ สำหรับดาราสาว แพท ณปภา ตันตระกูล หลังเพิ่งได้รู้ความจริงเมื่อไม่นานมานี้ ว่าคุณแม่ที่ดูแลอยู่ด้วยกันนั้น แท้จริงแล้วคือคุณย่า ส่วนคุณพ่อที่เคยฟ้องร้องขอค่าเลี้ยงดูและเสียชีวิตไปแล้วคือคุณปู่ ส่วนพี่ชายที่ตัวเองเรียกมาตั้งแต่เด็ก กลับเป็นคุณพ่อแท้ๆ และไม่รู้ว่าคุณแม่จริงๆ คือใคร กระทั่งไปออกรายการตีสิบเดย์ เพื่อตามหาคุณแม่ จนได้รับการติดต่อมา และเคยเห็นหน้าแม่ผ่านแค่เพียงรูปถ่ายเท่านั้น กระทั่งล่าสุดดาราสาวทราบข่าวร้าย ว่าคุณแม่แท้ๆ ได้จากไปอย่างกะทันหัน

ล่าสุด แพท เปิดใจให้สัมภาษณ์แบบ Exclusive ในรายการตีสิบเดย์ เล่าเรื่องราววินาทีตั้งแต่แม่โทรติดต่อมา เมื่อครั้งเปิดใจเล่าเรื่องราวครอบครัวผ่านรายการตีสิบเดย์ จนกระทั่งวันที่แม่สิ้นลมหายใจ

ตั้งแต่ออกอากาศไปคุณแม่จริงๆ ติดต่อมาไหม?
“ติดต่อมาเพราะรายการตีสิบเดย์ของเราเลย ต้องบอกก่อนเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แพทเพิ่งรู้เหมือนกัน เขาเคยมาที่บ้านแต่ว่าไม่เจอแพท แล้วก็กลับไป แพทเองก็ยังไม่รู้ พี่เลี้ยงที่บ้านบอกว่ามีคนมา เขาบอกว่าเป็นแม่คุณแพท แต่พี่เลี้ยงเองก็บอกไปว่าไม่น่าใช่ เพราะแม่คุณแพทนอนอยู่นี่ จะใช่ได้ยังไง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้เราเลย เราก็ไม่ได้ติดต่อกลับไป หายกันไปเลย

และจากที่เราออกรายการไป อันนี้คุณแม่เล่าให้ฟัง คุณแม่วนิดา สายใจ หรือคุณแม่แอ๋ว เขาก็บอกว่าเหมือนเพื่อนคุณแม่ อาจจะเป็นญาติๆ มาบอกว่าลูกตามหาอยู่ ลูกอยากเจอ เพราะว่าแพทพูดในรายการ ว่าถ้าอยากเจอกันให้ติดต่อแพทมาเลย คุณแม่ได้รับข่าวสารก็โทรเข้ามาที่เบอร์ผู้จัดการแพท เพราะว่ามันมีอยู่ในไอจี แม่ไม่มีเบอร์แพท ไม่มีเบอร์ทางฝั่งแพทเลย”

“แล้ววันนั้นผู้จัดการอยู่กับแพทพอดี ผู้จัดการก็ทำหน้างงมาก เขาบอกว่าเป็นแม่แกอะแพท ตอนนั้นทุกคนก็คืองง ว่าใช่หรือเปล่า เป็นเพราะเราออกรายการตีสิบแล้วมีคนมาแอบอ้างหรือเปล่า เห็นว่าเราตามหาแม่ เห็นว่าเราออกรายการปุ๊บมันจะประจวบเหมาะอะไรปั๊บ โทรศัพท์มาแล้วบอกนี่แม่เอง เราก็เริ่มถามข้อมูล เขาติดต่อมาหลังจากรายการออกอากาศประมาณอาทิตย์นึง เราก็เลยเช็กถามก่อนเลย ว่า พ่อ ปู่ย่า เราชื่ออะไร แล้วไปเจอกันอะไรยังไง เขาก็บอกถูกหมดเลย เราก็เลยกลับมาถามพ่อ พ่อก็บอกว่าอาจจะใช่นะ จนสุดท้ายคุณแม่ส่งรูปมาให้ แล้วบอกเราว่าให้เราเอารูปนี้ไปให้พ่อดูสิว่าใช่มั้ย พ่อก็บอกว่าใช่เลย”

นั่นคือครั้งแรกที่แพทได้เห็นหน้าของแม่ ทางรูปที่ส่งมาในมือถือ หลังจากนั้นมาก็มีคุยกันบ้าง หลังๆ ก็ติดต่อมาบ้าง หายไปบ้าง เลยคุยกันว่าเราจะได้เจอกันมั้ย ปรากฏว่าคุณแม่เขาอยู่พัทยา เหมือนไม่สะดวกที่จะเจอเรา แกน่าจะติดอะไรสักอย่างนึงอยู่หรือเปล่า คือแพทก็ไม่กล้าถาม แม่ก็เล่าให้ฟังว่า สิ่งหนึ่งที่แม่ไม่ได้ติดตามข่าวของแพท และก็ไม่มั่นใจว่าคนนี้ใช่ลูกหรือเปล่า เนื่องจากว่าเราห่างกันตั้งแต่แพทเกิดมาได้ 2 อาทิตย์ ยังไม่ถึงเดือน แพทเลยจำอะไรไม่ได้เลยว่ามันเกิดอะไร ทำไมถึงแยกกัน ตลอดยี่สิบปีเรารู้แค่ว่าคุณปู่ คุณย่า คือพ่อแม่ พ่อคือพี่”

“ช่วงจังหวะที่แม่แยกกับคุณพ่อ ภายในปีนึงคุณแม่ก็ไปมีครอบครัวใหม่ ในระหว่างทางคุณแม่เองก็เริ่มมีความไม่มั่นใจ คุณแม่ยังแอบคิดเลยว่าหรือลูกเราจะคือพิ้งกี้ เขาอาจจะไม่ได้รู้จักชื่อ เพราะว่าพิ้งกี้หน้าแขกกว่าแพท เพราะว่าคุณปู่เป็นลูกครึ่งปากีสถาน ซึ่งแม่แอ๋วทราบแค่ว่าจะต้องมีเชื้อแขกๆ หน่อย”

“เหมือนเขาห่างจากเราไปนานจนไม่ได้รับรูปอัพเดต แต่รู้ว่าลูกเป็นดารา แต่ไม่รู้ว่าคนไหน เลยคิดว่าต้องเป็นพิ้งกี้หรือเปล่า หน้าคมๆ ปรากฏว่าไม่ใช่ วันที่ได้คุย แพทก็ถามแม่ว่า แม่รู้มั้ยว่าลูกแม่เป็นดารานะ แม่บอกว่ารู้ แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง ซึ่งคุยกันทั้งหมดนี้เมื่อตอนรายการตีสิบออกอากาศไป คือก่อนหน้านั้นเขารู้แล้วว่าเป็นแพท แต่แม่เล่าย้อนไป เคยคิดว่าเป็นพิ้งกี้”

“แพทเลยถามแม่ไปว่าทำไมแม่ถึงไม่รู้ เขาก็บอกว่าห่างจากเราไป เขาไม่ได้เห็นพัฒนาการของลูกตัวเองว่าโตมาหน้าตาเป็นยังไง เขาเลยจินตนาการไม่ถูก และที่เขาไม่ได้ติดตามข่าว คือมีช่วงนึงเขามีน้อง ไปมีครอบครัวใหม่ ไปอยู่เมืองนอกด้วย ทำให้ไม่ได้ติดตามละคร หรือข่าวสาร และพ่อกับแม่คือขาดสะบั้น ไม่มีเบอร์ติดต่อกันเลย ทางแพทก็ถูกหล่อหลอมว่าปู่ย่าคือพ่อแม่ ปกปิดกัน เลยไม่รู้ความจริง มันก็เลยเป็นที่มา เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะว่าพ่อมาออกทีวี ทางบ้านฝั่งคุณแม่ก็เลยมั่นใจว่าคนนี้แหละ ใช่แน่นอน เพราะพ่อเองไม่เคยออกสื่อที่ไหน รู้กันแต่ในครอบครัว แม่เคยมาที่บ้านครั้งนึง ไม่ได้เจอใครเลย เจอแต่พี่เลี้ยง พี่เลี้ยงเองก็ไม่รู้เรื่อง”

กลั้นน้ำตาไม่อยู่

กลั้นน้ำตาไม่อยู่

ตั้งแต่ออกรายการไป ได้ติดต่อกันแล้ว ไม่ได้นัดเจอกันเลยเหรอ?
“แพทก็ถามนะว่าจะให้แพทไปหาที่ไหน แม่บอกว่า แม่สะดวกแล้วแม่จะบอกนะ เราก็เลยเข้าใจได้ว่าอาจจะไม่สะดวก ด้วยอะไรซักอย่างเราก็ไม่เซ้าซี้ เลยบอกว่างั้นถ้าแม่มีอะไรแม่ก็ติดต่อมานะ จะให้ช่วยตรงไหน หรือมีเรื่องอะไร ให้โทรมาได้ตลอดเวลา ซึ่งระยะเวลานั้นเราก็เห็นแกมาๆ หายๆ ส่งรูปมาบ้าง คุยกันทางไลน์ เพิ่งมารู้ว่าที่แม่ส่งเป็นรูปเก่าๆ ไม่ใช่รูปปัจจุบัน ณ วันที่แม่เสีย เพราะว่าสุดท้ายเนี่ยแพทมารู้ทุกอย่างก็คือวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม คือวันที่ช็อกไปเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่แพทได้คุยกับแม่ คือเห็นหน้าแม่จากในรูป แพทยังไม่เคยเจอตัวคุณแม่จริงๆ แบบนั่งคุย ได้ยินแค่เสียงผ่านทางโทรศัพท์

“จนวันศุกร์ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น แล้วก็เป็นเสียงคุณยาย เสียงเป็นผู้หญิงมีอายุ บอกให้แพทไปดูใจแม่ ตอนแรกก็คิดว่า อ้าว! ใครเล่นอะไรอีกป่าว แม่ไหนอะ ล่าสุดที่คุยแม่ก็ไม่เห็นบอกว่าป่วยเป็นอะไร พอวางสายเสร็จปุ๊บ ทีนี้ก็มีผู้ชายมีอายุโทรมาอีก บอกว่าตัวเองเป็นตาของแพทนะ แล้วตอนนี้อะแม่เรียกหา อยากให้แพทมาดูใจแม่ ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ก่อนหน้านี้แม่ไม่เห็นบอกเลยว่าป่วย ทำไมวันนี้ถึงเรียกให้เราไปดูใจ คุยไปคุยมา สรุปว่าคนแรกที่โทรมาคือคุณยายเล็ก คือน้องของคุณยาย คนต่อมาก็คือตาเปี๊ยก คือพ่อของแม่ คือตาอะคิดว่าแพทต้องมีความงงและไม่เชื่อ ตาเลยบอกว่าไปบอกพ่อเอ็ง พ่อเอ็งจำตาได้อยู่แล้วว่าตาชื่อเปี๊ยก บ้านอยู่ที่นี่ๆ”

“แพทเลยรีบโทรหาคุณพ่อ ถามว่าตาเปี๊ยกคือใคร ตอนนั้นงงมาก งานก็ต้องทำ ช็อกก็ต้องช็อก แพทก็บอกพ่อไป ว่าเขาโทรมาให้แพทไปดูใจ แม่เรียกหา วันนั้นก็แบบสับสนมาก งานก็ยกเลิกไม่ได้ ตอนนั้นกำลังจะเข้าถ่ายรายการ ซึ่งแพทไม่สามารถแคนเซิลอะไรได้แล้ว มันกะทันหัน ไม่รู้จะให้ใครมาเสียบ แพทก็เลยบอกจะรีบไปให้เร็วที่สุด”

“ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าแม่ป่วย ยังงว่าไปดูใจเรื่องอะไร คุณตาบอกว่าให้มาที่บ้านนะ แม่อยู่ที่บ้าน ซักพักพอแพทเสร็จงานคุณตาก็โทรกลับมาอีก แต่คราวนี้โทรกลับมาบอกให้แพทไปวัดเลย เพราะแม่เสียแล้ว รอไม่ไหวแล้ว ห่างกันประมาณ 3-4 ชั่วโมง ตั้งแต่นาทีที่ได้รับโทรศัพท์ แม่เสียประมาณ 11 โมง คือมันเร็วมาก จากที่ให้ไปดูใจ ตอนนี้ไม่ต้องดูแล้ว ไปวัดเลย คือแม่เสียแล้วเหรอ”

“พอไปที่วัดได้เจอญาติฝ่ายแม่ แพทถึงได้รู้เรื่องราวว่าแม่เป็นอะไร คือแม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกมา 2 ปีแล้ว และได้รับการรักษามาตลอดสองปี โดยที่เราไม่รู้เรื่อง ตอนคุยกันแม่ก็ไม่ยอมบอก และก็ยังไม่ให้เจอด้วย แพทเลยเดาว่า ที่แม่ยังไม่พร้อมเจอก็คงเพราะเหตุนี้ แพทว่าคุณแม่คิดถึงแพทตลอด เพราะคุณตาคุณยายก็บอกว่า เขาคิดถึงเอ็งตลอด แต่เขาไม่อยากให้แพทรู้ว่าเขาป่วย ไม่อยากให้แพทรับรู้ และช่วงหลังแกเดินไม่ค่อยไหว แต่แม่ก็เลือกที่จะไม่บอก คุณตาเล่าว่าวินาทีที่แม่ใกล้จะเสีย คุณแม่นอนคุยทั้งคืน แล้วแกก็พูดขึ้นมาว่าตามแพทให้หน่อย เบอร์อยู่ในโทรศัพท์”

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“พอไปเจอคือมันตื่นเต้นไปหมด แพทไม่เคยเจอญาติฝั่งแม่เลย คุณตาเดินเข้ามาหา มาแนะนำตัว ตอนนั้นมันทั้งเสียใจ ตื่นเต้น แล้วที่ช็อกคือ แพทมีน้องชาย เป็นน้องชายคนละพ่อ ซึ่งน้องก็ตื่นเต้นมาก น้องบอกว่าแค่รู้ว่ามีพี่สาวก็ช็อกแล้ว แต่นี่มีพี่สาวเป็นดาราอีก และน้องก็จะหน้าเหมือนแม่เยอะกว่าแพท แพทได้หน้าผาก กับรูปปากห้อยจากแม่มา ตอนนี้ส่งต่อไปถึงเรซซิ่ง แพทได้ผิวจากแม่

วันนั้นก็คุยกันถึงอดีต กว่าจะมาเป็น แพท ณปภา ในวันนี้เขาไฝว้กันมาเยอะมาก แม่ทำให้แพทเข้าใจมากขึ้นว่าแม่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเราไป แต่มันเป็นปัญหาระหว่างสองครอบครัว ตายาย กับ ปู่ย่า วันนั้นวันเดียวมันเซอร์ไพรส์ไปหมดทุกอย่าง แพทถึงได้รู้ว่าเกิดการแย่งชิงแพทไปเลี้ยงกัน เป็นสงครามภายในครอบครัว สุดท้ายมาตกลงกันว่าพ่อจะเอา แม่ก็เลยแยกย้ายเป็นการตกลงกัน แม่ไม่เคยมีเจตนาทิ้งเด็กผู้หญิงคนนี้แต่อย่างใด และวันนั้นก็เป็นครั้งแรกที่แพทเห็นหน้าแม่ที่อยู่ในโลง นาทีที่เห็นคือ แม่สวยมาก นั่นคือภาพจำที่ดีมาก แม่ทาปากแดง คือเหมือนเขาแค่หลับไป แพทอุ้มเรซซิ่งให้มาดูยาย แพทถามว่าคุณยายสวยมั้ย เรซซิ่งบอก คุณยายสวย”

ร้องไห้ไม่หยุด

ร้องไห้ไม่หยุด

“แพทจับร่างแม่ แพทจับหน้าผากแม่ ความเย็นมันติดมาจนถึงบ้าน สัมผัสนั้นมันติดมือแพทไม่หายไปไหน วันที่แพทเผาแม่ แพทมองร่างไร้วิญญาณของแม่ที่สวยมากๆ มันที่สุดแล้ว แพทหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกัน” ดาราสาวกล่าว

ยังมีเรื่องราวเจาะลึกถึงความรู้สึกอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทำให้ แพท ณปภา ต้องหลั่งน้ำตา ติดตามเรื่องราวน่าประทับใจของสายสัมพันธ์ทางสายเลือด ที่แม้ไม่ได้ผูกพันแต่สัมผัสถึงกันได้ ในรายการตีสิบเดย์ ออกอากาศเต็มๆ วันที่ 17 สิงหาคม 2562 เวลาบ่ายสามโมง ทางช่อง 3HD หมายเลข 33

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน