แพนเค้กรับพลังบวก พัฒนาตัวลับฝีมือให้คมขึ้น

คอลัมน์อาทิตย์ใส

โดย วีรนุช จันทำ

แพนเค้กห่างงานแสดงละครนานร่วม 4 ปี ล่าสุดนางเอกสาวแพนเค้กเขมนิจ จามิกรณ์ กลับมามีเรื่องราวดีๆ ร่ายฝีมือแสดงในละครพยัคฆ์ร้ายสาย()ลับ ทางช่อง True4U แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

วันนี้โอกาสดี นัดแนะสาวนิสัยดีมาพูดคุย

กลับมาเล่นละครในรอบกี่ปี สำหรับพยัคฆ์ร้ายสาย()ลับ”?

แพนเค้กน่าจะ 3-4 ปีได้ ก่อนหน้านี้มีศรีอโยธยาเป็นภาพยนตร์ซีรีส์เทิดพระเกียรติ แต่ถ้าเป็นละครเต็มๆ คือ พยัคฆ์ร้ายสาย()ลับ เอาจริงๆ ก็มีลืมความรู้สึกเปิดกล้องปิดกล้องแล้ว แต่พอได้กลับมาทำมันคือความสุข ด้วยบทบาทใหม่ในเรื่องนี้คือแอ๊กชั่นคอมเมดี้ ไม่เคยเล่นเลยในชีวิต 15 ปีในวงการ ถ้ามีโอกาสได้ทำก็อยากเตรียมตัวเองทั้งฝึกซ้อมหลายๆ ด้านเพื่อให้การถ่ายทำสมบูรณ์มากที่สุด

● ท้าทายกับคาแร็กเตอร์ใหม่?

แพนเค้ก – “ค่ะ มันก็ยาก โชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเวิร์กช็อปกับหม่อมน้อย(หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) พยายามนำสิ่งที่เรียนมาปรับใช้การทำงานในบทบาทใหม่ๆ ซึ่งมีทั้งแอ๊กชั่น การเตรียมตัวเรื่องบท และการร่วมงานกับนักแสดงที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน ต้องปรับตัว มีความท้าทาย ซึ่งเรื่องนี้แพนรับบท พิงค์ เป็นสายลับมาสืบหาข้อมูลจาก เคน (ฮั่นอิสริยะ) ซึ่งเราดันไปหลงรักเขาจริงๆ จะมีความยากซับซ้อน

● คนชมว่าสวยบู๊เก่ง ไปฝึกเรียนบู๊อย่างไรบ้าง?

แพนเค้ก – “มีเรียนต่อยมวย ก่อนการถ่ายทำ มีเวิร์กช็อป ซึ่งมีทั้งครูสตันต์ ครูสอนยิงปืน มาช่วยแนะนำดูเรื่องท่าทางให้ สำหรับตัวเองให้คะแนนก็ยังทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็คิดว่าเกินคาดกว่าที่เคยทำ ทุกวันนี้อาจจะมีเรื่องมุมกล้องหลายๆ อย่างช่วย ก็พยายามให้ออกมาโอเค อย่างใส่ชุดแดงเกาะอกรองเท้าส้นสูงบู๊กัน ยังถามพี่กอล์ฟ (ธัญญ์วาริน) ผู้กำกับฯ ว่าเอาจริงเหรอ แล้วอยู่ใต้ท้องเรือด้วยอากาศสถานที่ทุกอย่าง แต่พอมันออกมาให้ภาพใหม่ๆ ซึ่งไม่ใช่กางเกงยีนส์รองเท้าบู๊ต เรื่องนี้ก็ต้องให้มุมมองของผู้กำกับฯ ผู้จัด ที่มองขาดในภาพต่างๆ

● ร่วมงานกับ ฮั่นอิสริยะ เป็นครั้งแรก?

แพนเค้ก – “ค่ะ ตอนแรกยังนึกภาพไม่ออกว่าเขาจะเล่นเป็นคาแร็กเตอร์ในเรื่องเป็นสี่ตัวยังไง พอเห็นพี่ฮั่นเล่นบอกเลยต้องเป็นเขาจริงๆ เป็นนางโชว์ ซึ่งพี่ฮั่นทำได้ดี เรื่องเต้นโปรเฟสชั่นนอลอยู่แล้ว เขาสามารถทำความเข้าใจกับแต่ละคาแร็กเตอร์ได้ลงตัว ก็ช่วยซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน การทำละครหรือซีรีส์ทีมเวิร์กเป็นสิ่งสำคัญมาก ก็ดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมงานกันค่ะ

● คาดหวังแค่ไหนกับงานละครในรอบหลายปี?

แพนเค้ก – “เรียกว่าถ้าทำงานแล้วมีความสุขก็คิดว่าคนดูน่าจะมีความสุข เราคงไม่ได้คาดหวังว่าต้องเปรี้ยงปร้าง แต่คนได้ดูผลงานเราในบทบาทใหม่ๆ ที่เราได้ใส่ใจแรงกายและทำอย่างเต็มที่จริงๆ

● นอกจากเรื่องนี้ มีผลงานอะไรอีกบ้าง?

แพนเค้ก – “ตอนนี้มีของทรูซีเจ เรื่อง Voice เป็นซีรีส์เกาหลีนำมาทำเวอร์ชั่นไทย อาจมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพบ้านเมือง วัฒนธรรมต่างๆ แต่เนื้อเรื่องคล้ายกับเวอร์ชั่นเกาหลี เป็นเรื่องของตำรวจเหมือนเป็นสายคอลเซ็นเตอร์รับเรื่องเวลาเกิดอุบัติเหตุ มีเคสต่างๆ ช่วงโกลเด้นไทม์ เป็นนาทีสำคัญที่ช่วยเหลือคน เหมือนแข่งกับเวลา เรื่องนี้เล่นกับพี่แอนดริว เกร้กสัน ส่วนมากในเรื่องจะอยู่ในศูนย์บัญชาการรับสาย เป็นแนวสืบสวนสอบสวน มีออกไปข้างนอกบ้าง แต่เราจะไม่บู๊เท่าพี่แอนดริว ซึ่งเรื่องนี้จะคนละคาแร็กเตอร์ ค่อนข้างเป็นดราม่าจริงจัง หาฉากยิ้มแทบไม่มี มีปมอยู่ในใจ เป็นอีกแนวซึ่งแพนว่าไม่ค่อยได้เห็นในบ้านเราบ่อยนัก มีอีกเรื่องศรีอโยธยาซีซั่น 2 กำลังจะออนแอร์เร็วๆ นี้ และมีรายการ The Xclusive – ดิเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งแพนเป็นพิธีกร เป็นงานใหม่ๆ เป็นการเปิดโลกมากขึ้น

● มีงานกับทรูเรื่อยๆ อนาคตไปต่อกับค่ายทรูเหมือนเดิม?

แพนเค้ก – “ใช่ค่ะ เซ็นสัญญาใหม่อีก 3 ปี ขึ้นรอบใหม่แล้ว จากตอนแรกเซ็น 3 ปี ตอนนี้ขึ้นปีที่ 4 เรายังอยู่กับทรู อยากให้คนรู้จักมากขึ้น จริงๆ เราก็อยู่ทุกที่นะ แต่ในเรื่องละคร ซีรีส์ ก็เจอกันได้ที่ช่องทรู โดยส่วนตัวเรามีกิจกรรมของเรา อยู่แล้ว เรื่องการเดินแบบงานกิจกรรมอื่นๆ

● ช่วงนี้ได้เห็นบทบาทการเป็นนางแบบมากขึ้น หลายคนมองว่ากลับมาทวงตำแหน่งควีนส์ออฟรันเวย์?

แพนเค้ก – “ตกใจเหมือนกัน จริงๆ เป็นสิ่งที่รักและทำมาตลอด เรามีโอกาสได้กลับมาทำเป็นชิ้นงานที่ดีทั้งในและต่างประเทศ อย่างไปกับพี่ฌอน โพเอม ชุดที่ท้าทาย รันเวย์ที่ยาวมาก สถานที่ที่สวยมาก ก็พยายามพรีเซนต์ตามโจทย์ให้เต็มที่ที่สุด ณ โมเมนต์นั้น แพนว่าด้วยฟีลลิ่งด้วยอินเนอร์ด้วยบรรยากาศทุกอย่างส่งให้ไปพร้อมกับชุด กับการ พรีเซนต์ตอนนั้น ก็เลยกลายเป็นสิ่งที่คนเริ่มหันกลับมามองในสิ่งที่เราทำมากขึ้น หลังจากนั้นก็มีอีกหลายๆ งาน ไม่ว่าจะเป็นการสะบัดกระโปรง ซึ่งจริงๆ ไม่ได้มีการเตี๊ยมหรือซ้อม แพนทำเป็นปกติโดยทำความรู้จักกับชุดก่อนว่าจะทำอะไรได้บ้าง พอถึงเวทีแล้วบางทีมันไม่ได้เป็นอย่างที่ซ้อม ทุกงานมีอะไรที่ท้าทายที่เราเองไม่ใช่ว่าเดินอย่างเดียว เราต้องเดินด้วยพลังอินเนอร์เป็นความเข้าใจจริงๆ

● รู้สึกยังไงที่คนยกตำแหน่งควีนส์ออฟรันเวย์?

แพนเค้ก – “อันนี้ยิ่งใหญ่มาก เรียกว่าเราทำเต็มที่ในงานของเราดีกว่า ไม่อยากให้คาดหวังในทุกๆ งาน เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร บางทีเราได้ใส่ชุดที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะทำได้เพอร์เฟ็กต์ทุกอัน แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ แล้วจะมีฟีดแบ็กจากหลายคนที่บอกว่าดูตั้งแต่ประกวดไทยซูเปอร์โมเดลเลยเป็นสิบกว่าปีก็ตามดูตลอด เหมือนเราก็ยังอยู่ในใจเขา ถือว่าเก็บสิ่งนี้มาเป็นกำลังใจดีกว่า เราจะได้พัฒนาในทุกชิ้นงานให้ดียิ่งขึ้นไป

● ทำงานได้หลากหลายรูปแบบหลายหน้าที่ มีแนวคิดในการทำงานอย่างไร?

แพนเค้ก – “สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอก จริงๆ ชีวิตไม่ได้เพอร์เฟ็กต์เลย ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนที่เห็น ไม่ได้แปลว่าเราเฟก แต่เราทุกคนต่างมีบทบาทการทำงาน คืออะไรที่มีความสุขเราก็ทำ ถ้าได้ทำสิ่งที่เรารักเราจะทำได้อย่างเต็มที่ แล้วก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาทำสิ่งเหล่านี้อีกหรือเปล่า เป็นสิ่งที่บอกตัวเองเสมอ มันก็มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ไหวไม่ได้ มันเป็นอุปสรรคที่เรารู้สึกในใจบ้าง แต่แพนคิดว่าถ้าเรายังคงได้ทำในสิ่งที่เราเลือกแล้วก็น่าจะเป็นเส้นทางที่เรามีความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นเดินหน้าทำมันเต็มที่ นี่คือหน้าที่ของเรา คือสิ่งที่เราเลือก ก็พยายามจะทำให้ตัวเองมีความสุขด้วยวิธีคิด ด้วยมุมมองด้วยพลังดีๆ หรือคนรอบข้างค่ะ

● จะเห็นแพนเป็นคนมีพลังเหลือล้นในการทำงานอยู่ตลอด ยิ้มแย้มเสมอ มีบ้างไหมที่รู้สึกว่าอยากอยู่เฉยๆ เหนื่อย?

แพนเค้ก – “บ่อยมาก เป็นมุมที่รู้สึกว่าขออยู่นิ่งๆ ได้มั้ย ขอให้เวลาตัวเองคิด ตัดสินใจ บางทีแพนยังกลับมาคิดว่าเราทำอะไรรอบตัวเยอะแยะไปหมด จนบางทีลืมกลับมามองตัวเองว่าจริงๆ อยากทำอะไร เราวิ่งทำเรื่องโน้นเรื่องนี้ มันเหมือนพอเดินเร็วตลอดเวลามันไม่ได้กลับมาหยุดมองว่า จริงๆ ความต้องการหรือความสุขของเราจริงๆ อยู่ตรงไหน ก็มีบ้างที่ต้องสโลว์ลงให้ได้มองอะไรต่างๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก็พยายามหาพลังมาเติมให้ตัวเองเสมอ

จริงๆ ครอบครัวคือพลังอยู่แล้ว แต่บางทีที่มีบางจุดบ้างที่กลับมานึกว่าอยากชาร์จพลังตัวเองเหมือนกัน รู้สึกล้าบ้าง พยายามจะเติมให้บาลานซ์ คิดว่าอยากทำอะไรก็ทำ อยากเรียนอะไรเพิ่มเติมก็เรียน เช่นเรียนเวิร์กช็อปกับหม่อมน้อยถือเป็นจุดเปลี่ยนเรื่องวิธีคิด มุมมอง และการทำงาน เป็นการดึงจิตวิญญาณออกมาและได้รู้จักตัวตนจริงๆ เป็นจุดที่กลับมานั่งนึกบ้างว่าเราจะทำอะไรในวันนี้ บางทีเราทำให้คนอื่นซะจนไม่ใช่ว่าไม่ได้หรือไม่ดี แต่บางทีเราต้องทำให้บาลานซ์กัน

● อยู่วงการมา 15 ปี มีสิ่งไหนที่ยังไม่ได้ทำแล้วอยากทำ?

แพนเค้ก – “เรียกว่าอยากพัฒนามากขึ้นดีกว่า อยากได้รับโอกาสดีๆ ที่จะได้ทำอะไรเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่ว่าต้องทำอะไรเยอะมากกว่านี้ แต่บางทีแต่ละชิ้นงานมันมีความท้าทายและมีโอกาสดีๆ ที่ต่างกัน ถ้าเราได้พัฒนาสิ่งเหล่านี้ต่อเนื่องมันก็เหมือนอาวุธที่คมขึ้น เราจะได้เติมสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ ค่อยๆ พัฒนาสิ่งที่เราทำได้ต่อเนื่องไป

● ตอนนี้เรียนปริญญาเอกกับพี่หมีใกล้จบหรือยัง?

แพนเค้ก – “เรียกว่าไม่ไกลแต่ก็ไม่ใกล้ (หัวเราะ) อยู่ระหว่างทาง ช่วยๆ กัน พยายามให้เร็วที่สุด แพนกับพี่หมีเรียนปริญญาเอกพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ม.รามคำแหง เป็นอีกหนึ่งแขนงที่มองว่ามีความจำเป็นและสำคัญมากในการพัฒนาคน พัฒนาในวิธีคิดต่างๆ หรือการทำงานกับคน ซึ่งเราอาจจะทำธุรกิจเพิ่มขึ้น มันคือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้

● หลังเรียนจบวางแผนอนาคตคู่ยังไง?

แพนเค้ก – “ไม่ได้แพลนอะไรกันเลย เรามีความสุข ณ วันนี้ เป็นช่วงเวลาที่ยังปรับตัวทำความเข้าใจและเรียนรู้ คนอาจบอกจะปรับกันไปถึงไหนหรือจะทำความเข้าใจอะไรกันอีก แต่แพนรู้สึกว่า ณ วันนี้เรายังเอ็นจอยในสิ่งที่ทำ คิดว่าพี่หมีก็คงเป็นแบบนั้นเช่นกัน เราแฮปปี้ที่ได้อยู่ดูแลกันในแบบนี้ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเมื่อไหร่ แต่ ณ วันนี้เราแฮปปี้ในแบบนี้ที่จะได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ

● ปรึกษากันเรื่องสเต็ปชีวิตของกันและกัน?

แพนเค้ก – “มีบ้าง ในวันนี้เรามีเรื่องราวใกล้ตัวที่ค่อนข้างต้องทำความเข้าใจและปรับใจตัวเราเสมอ และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน มันคือสิ่งสำคัญมากๆ ให้พลังบวกแก่กันในทุกๆ วันมันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เลยคิดว่าเราค่อยๆ ประคองกันไป เลี้ยงหลาน มีสมาชิกใหม่ในครอบครัว หลานสองคนแล้ว ก็มีเรื่องราวใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่ใช่เราไม่ได้ตัดสินใจเรื่องตัวเอง แต่คิดว่าคงเมื่อถึงเวลา

● การคบกันมานาน ถูกจับตาว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน?

แพนเค้ก – “ทุกคนมีเรื่องราวมีวิธีการดำเนินชีวิตแตกต่างกัน ฉะนั้นคงไม่มีใครรู้ดีที่สุดเท่าเราแน่นอน ต้องขอบคุณทุกเสียงที่เป็นกำลังใจหรือเป็นคำถามดีๆ เป็นคำชื่นชมต่างๆ ที่มีเข้ามา

‘แพนเค้ก’

● เป็นป้าของหลานสองคน อยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างไหม?

แพนเค้ก เราชอบเด็กนะ เอ็นจอยเวลาอยู่กับหลาน แต่มานึกถึงแม่ที่เลี้ยงลูกมาสามคน เรากับพี่น้องตอนนั้นเป็นช่วงชุลมุนตีกันสุดพลัง ตอนนี้พอมีหลานอีกก็อยากนิ่งๆ สนุกกับตัวเอง กับคนที่เรารัก อยากเดินทาง ทำอะไรโดยไม่กังวล เพราะที่บ้านมีลูกสองตัวอยู่แล้ว ลูกหมาหวงซะยิ่งกว่าลูกคน แพนรู้สึกว่าเราก็ดูแลในสิ่งที่เรารับผิดชอบอยู่ตอนนี้ให้ดีที่สุดก่อนดีกว่า ไหนจะเรื่องการทำงานอีก เลยคิดว่าสบายๆ แบบนี้ดีกว่า อยู่ให้ได้แบบเป็นตัวเรา สวยตามวัย แข็งแรงเฮลตี้สาวยุคใหม่

อ่านข่าวที่กี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน