อรอนงค์ โต้ หนีบวชหลังหย่า เดินหน้าเพื่ิอลูก อดีตสามีถูกด่า ต้องรับได้ เขาเลือกเอง

วันที่ 25 ส.ค. ที่อินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น5 โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ อดีตนางสาวไทย พร้อมลูกชายทัั้งสองคน มาร่วมงานรอบสื่อมวลชน ภาพยนตร์เรื่อง Playmobil The Movie Party หลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ เผยถึงสภาพจิตใจหลังหย่ากับสามี พร้อมทั้งปฏิเสธข่าวลือรักษาแผลใจด้วยการออกบวช

อรอนงค์

พาลูกชายทั้งสองคนออกงาน

 

 

สภาพจิตใจตอนนี้ หลังผ่านช่วงวิกฤตมา เป็นอย่างไรบ้าง?

“ก็โอเคนะคะ แล้วตอนนี้ก็ไปไหนมาไหนกับลูกๆมากยิ่งขึ้น แล้วลูกก็เริ่มเป็นงาน เริ่มออกงานกับคุณแม่ได้ นี่ก็ถือว่าเป็นครั้งที่สองที่ไปงานด้วย แล้วล่าสุดเมื่อวานก็มีออกรายการ เขาออกสื่อมากขึ้น ที่สำคัญเลยก็เป็นกำลังใจให้แม่ได้เต็มร้อย พึ่งพากันได้”

ก่อนหน้านี้ที่เราจะแถลงข่าวแยกทางกับสามี ก็มีข่าวว่าเราไปซ่อมใจ โดยการไปบวชมา?

“โอ๊ย ไม่มีเลยค่ะ ไม่ได้ไปเลย เพราะว่าจริงๆแล้วเป็นคนที่เข้าวัดเข้าวาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และหลังจากที่เซ็นใบหย่าก็ไม่ได้ไปปฎิบัติธรรมที่ไหนเลย มีงานตลอดเลยค่ะ แล้วก็งานที่ผ่านๆก่อนหน้านี้ก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้วิทยุธรรมะ ซึ่งมันทำก่อนหน้านี้อยู่แล้วค่ะ แต่ว่าการเอาหลักธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวันเราก็ยึดถือของเรามาตลอดอยู่แล้วค่ะ”

เคยอยากไปบวชไหม จิตใจจะได้สงบขึ้น?

“เอ่อ…พระท่านสอนไว้ว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถบวชได้ถ้าใจเราบวชค่ะ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องไปวัด เราอยู่ที่บ้านก็สามารถทำเองได้ ก่อนนอนสวดมนต์ไหว้พระ แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ดีๆ แล้วนึกถึงว่าวันนี้เราทำอะไรผิดไหม ถ้าทำอะไรผิดก็ขออโหสิกรรมสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่อง อันนี้มันเป็นสิ่งที่เราสามารถทำเองได้ที่บ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องไปพึ่งใคร ไม่ต้องไปถึงที่วัดด้วย

เคยคิดว่าจะไปปฎิบัติธรรมไหม?

“ยังค่ะ เพราะทำบุญทำทาน พวกนี้เราทำอยู่แล้ว ในไลน์เราก็มีกลุ่มที่ช่วยทำบุญ บางทีวัดไหนเขามีหล่อพระ เราก็จะทำบุญ แล้วก็มีถวายเพล คือเราก็จะทำบุญอยู่แล้วค่ะ”

แต่หลังจากที่ได้แถลงข่าวไปคราวนั้น ก็มีคนส่งกำลังใจมาให้เต็มเลย?

“ใช่ จริงๆต้องบอกก่อนว่า เวลาออกสื่อทุกครั้ง ต้องขอบพระคุณประชาชนค่ะ ที่ส่งกำลังใจมาให้ ทุกวันนี้ก็ยังมีส่งมา ขอบพระคุณมากๆ รวมไปถึงพี่ๆน้องๆในวงการ เวลาไปถ่ายละคร ไปทำงาน ทุกคนก็ยังให้กำลังใจ ก็กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง”

พอโสดแล้วก็ดูสวยสะพรั่งขึ้นเลย?

เราไม่ได้จมอยู่กับความเหงา ความเศร้า ความผิดหวังค่ะ เราก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้า แล้วเราก็มีอนาคตของลูกรออยู่ แล้วอนาคตของเราเองด้วย การทำงานที่เราได้รับมอบหมาย เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ

อรอนงค์

โสดแล้วสวยเซ็กซี่

ลูกๆมีชมไหมว่าคุณแม่สวยขึ้น?

“ไม่ค่ะ ลูกก็บอกโอเค แม่โอเคแล้ว(หัวเราะ)”

เขาหวงแม่ไหม?

“ไม่ค่ะ ก็เป็นปกติ เพราะว่าแม่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ลูกต้องเป็นห่วง”

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

วันที่แถลงข่าวออกไป แล้วมันต้องมีข่าวเราอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์หน้าทีวี ความรู้สึกของลูกๆเป็นอย่างไรบ้าง?

“คุยกับลูกทุกวันค่ะ พอแม่มีข่าวมีอะไร แต่ลูกๆก็โอเคเข้าใจ อาจจะเป็นเพราะว่าเราอยู่ในเบื้องหน้า คนก็ติดตามข่าวสาร แต่ลูกก็เขาใจว่า มันก็เป็นวิถีชีวิตของคนๆหนึ่ง ที่มีแต่งงานมีเลิกรา ลูกก็เข้าใจ แต่ว่าในความเข้าใจของเด็ก เราก็ต้องพยายามคอยดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ ไม่ให้เขาคิดเองเออเอง พอมีอะไรก็จะถามลูกตลอด ว่าวันนี้ไปโรงเรียนแล้วยังมีเพื่อนถามอีกไหม จะคุยกับลูกทุกวัน แล้วยิ่งมีสื่อมีอะไรออกมา ยิ่งคุยกับลูกตลอด ล่าสุดที่มีรายการทีวี เผอิญมันออกเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ไง ก็ยังไม่รู้ฟีดแบ็ก แต่ถ้าลูกไปโรงเรียนวันจันทร์-อังคาร แล้วจะเป็นยังไงบ้าง ของเด็กเราว่ามันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แล้วเราเคยทำงานเกี่ยวกับเด็กมาแล้ว ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญ อรว่าตอนนี้เราต้องมีการจัดที่ละมุนละม่อน ต้องคุยกับลูก เราก็กังวลตรงนี้เหมือนกัน เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเด็กแต่ละคนเขาได้ข้อมูลมายังไงบ้าง แต่เราก็เอาข้อมูลของลูกเราให้แน่นที่สุด ว่าลูกเราจะไม่เป็นไรและลูกโอเค

อรอนงค์

พาลูกๆทำบุญ

บอกลูกใช่ไหมว่าถ้าได้ยินอะไรไม่ดี ให้มาเล่าให้เราฟัง?

“ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้ก็สบายใจแล้ว”

ตอนนี้ก็มีงานเยอะมาก ทำงาน 7 วันเลยไหม?

“มีเรื่อยๆ ไม่ถึงกับเยอะมากนะคะ ก็ถ่ายละครตามปกติค่ะ 3 เรื่อง 4 เรื่องก็ว่าไปค่ะ”

ถือว่าตอนนี้กลับมารับงานเต็มตัวแล้ว?

“จริงๆ มันรับงานก่อนที่เราจะหย่าอีก เป็นงานต่อเนื่อง แต่ว่าพอมีข่าวเรื่องนี้มาปุ๊บ ก็อาจจะได้หลายๆกำลังใจ แล้วก็มีผู้ใหญ่ที่ยังคอยให้การสนับสนุนดูแลมากยิ่งขึ้น ก็ยังรับงานได้อีกเรื่อยๆค่ะ เป็นบทแม่พระเอกนางเอก คือถ้าเป็นนางเอกอาจจะรับได้น้อย แต่พอเป็นแม่ปุ๊บก็รับได้หลายเรื่องค่ะ”

อรอนงค์

ลูกชายกับคุณพ่อ

หลักจากที่แถลงข่าวไป ยังได้เจอกับอดีตสามีไหม?

“พูดคุยผ่านไลน์ค่ะ อย่างเช่นถ้าพรุ่งนี้เราถ่ายละคร เราก็จะบอกเขาว่ารับช่วงให้หน่อยประมาณนี้ค่ะ ก็จะคุยกันเรื่องของลูกจริงๆ ไม่มีนอกเหนือเรื่องอื่นๆเลย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง นั่นก็คือพ่อและแม่ ส่วนเรื่องอย่างอื่น เราไม่ได้ก้าวก่ายกันเลยค่ะ

ทางฝั่งเขามีฟีดแบ็กอะไรกลับมาบ้างไหม?

“อย่างที่บอกว่าไม่ได้คุยอะไรกันเลยค่ะ ก็เลยไม่ทราบว่าฟีดแบ็กเขาเป็นยังไงบ้าง”

เป็นห่วงเขาไหม เพราะฟีดแบ็กที่เขาได้รับก็ค่อนข้างรุนแรง?

“เราว่าเขาต้องรับได้นะ เพราะว่าเขาเป็นคนเลือก (หัวเราะ)”

 

ขอบคุณรูปจาก ornanong_panyawong

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน