‘ชบาแก้ว’ทำเพลงฉีกกฎเซ็กซี่

‘แอมมี่’สาวมาดกวน‘ก็มาดิค้าบ’

คอลัมน์ จับกระแสลูกทุ่ง

อนงค์ จันทร

‘ชบาแก้ว’ทำเพลงฉีกกฎเซ็กซี่ – ค่าย NEN360 Music Thailand จับมือเซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ เปิดตัว 8 เพลงโปรเจ็กต์ลูกทุ่งไอดอล ซึ่งประเดิมด้วย 2 สาวลูกทุ่งไอดอล ‘แอมมี่’ กับเพลง “ก็มาดิค้าบ” และ ‘ชบาแก้ว’ กับเพลง “ชุดนอนไม่ได้นอน” โดยได้ปล่อยเอ็มวีออกมาแล้ว และวันนี้ 2 สาวมานั่งคุยถึงผลงานชิ้นแรกที่จัดเต็มทั้งตัวเพลงและเอ็มวี

◆ ได้มีเพลงของตัวเองแล้วหลังประกวด

แอมมี่ – “อย่างที่รู้กันว่าเรามาจากรายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไอดอล มีผู้ประกวดจากทั่วประเทศ แล้วก็คัดมา 100 คน แล้วก็คัดออกเรื่อยๆ เหลือ 20 คน แล้วก็แบ่งกลุ่มกัน ซึ่งหนูกับชบาแก้วเราได้อยู่กลุ่มเดียวกัน สุดท้ายก็ตัดออกมา 8 คนสุดท้าย แต่ละคนก็มีเพลงของตัวเอง แล้วก็ต้องมาแข่งกันอีก ซึ่งชบาแก้วตอนนั้นคะแนนเขามากสุด เขาก็เป็นคนที่ต้องเลือกคู่เพื่อที่จะร้องกับเขา”

ชบาแก้ว – “เราเลือกแอมมี่ เพราะคิดว่าเคมีน่าจะเข้ากัน และก็สนิทที่สุด เราก็ผ่านเข้ารอบจนเหลือ 4 คนสุดท้าย ที่จะมีมินิคอนเสิร์ตกันเอง รอบสุดท้ายเป็นคะแนนโหวตจากมหาชน ซึ่งแอมมี่ก็ได้แชมป์ นี่คือที่มาที่เราสองคนมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง และเอ็มวี”

◆ เพลงของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

ชบาแก้ว – “ของหนูเพลงชุดนอนไม่ได้นอน พี่เณร (ศุภชัย นิลวรรณ) เข้ามาช่วยดูเรื่องเพลงให้ เขาก็มี 2 เพลงมาให้หนูเลือกว่าเราชอบแบบไหน ให้ไปฟังมาก่อน แล้วเราไปชอบอีกเพลง เราไม่คิดเลยว่าเราจะได้เพลงชุดนอนไม่ได้นอน เพราะพอฟังแล้วทุกคนจะนึกถึงภาพพี่จ๊ะ พี่ใบเตย แต่พอหันกลับมามองที่ตัวเองคิดว่าฉันคงทำไม่ได้ถึงจุดนั้น ด้วยหุ่นของเราด้วย แต่พอพี่เณรสรุปมาแล้วว่า ชบาเพลงชุดนอนไม่ได้นอน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่หุ่นเซ็กซี่ก็ได้ เราอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบก็ได้ เราอาจจะเป็นผู้หญิงอ้วนที่มั่นใจ มโนไป มั่นใจว่าฉันใส่ชุดนอนตัวนี้แล้วฉันเซ็กซี่ที่สุดในโลก ซึ่งมันก็เข้ากับคาแร็กเตอร์หนู”

◆ ตอนที่ได้เพลงนี้รู้สึกอย่างไร

ชบาแก้ว – “มีแว้บแรกที่คิดว่า อ้าวแล้ว พี่เณรถามทำไม หนูก็มองย้อนกลับไปว่า ถ้าสมมติได้อีกเพลงนึงหนูอาจจะไม่ได้มายืนอยู่จุดนี้ก็ได้ ดุลพินิจของผู้ใหญ่เขาจะมองเห็นเราได้มากกว่าที่เรามองเห็นตัวเอง พอร้องก็ชอบเลย เพราะทุกอย่างมันลงตัว ด้วยตัวเอ็มวีที่แสดงให้เห็นชัดเจน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงสวย ฉันเป็นผู้หญิงสายมโน ฉันอยาก มีแฟนหล่อๆ แล้วแฟนฉันไม่ชอบชุดธรรมดา ไม่อยากให้นอนแบบชุดธรรมดา อยากให้ใส่ชุดเซ็กซี่บ้าง เราก็จัดให้ พอใส่เสร็จแล้วก็ไม่ได้นอน เพราะว่านั่งคุยกัน (หัวเราะ) เป็นแนวคอมเมดี้”

◆ ยากไหม

ชบาแก้ว – “หนูเป็นคนที่อยากจะเต้นอะไรก็เต้น มันก็เลยเหมือนพอมาถ่ายเอ็มวีท่าเต้นมันต้องมีสเต็ปมากขึ้น และก็ต้องเป๊ะ เราก็เลยมองว่าจุดนี้ยากสำหรับหนูที่สุด แต่อีกสิ่งที่ยากอีกอย่างคือการเป็นนางเอกเอ็มวี ใฝ่ฝันมานานแล้ว (หัวเราะ)”

◆ ดนตรีในเพลงนี้เป็นอย่างไร

ชบาแก้ว – “ชอบค่ะ เป็นลูกทุ่งสมัยใหม่ และเชิญชวนให้คนออกมาเต้น มันสนุก วันสงกรานต์ก็สามารถเปิดในรถแห่ไปเลยค่ะ”

◆ กระแสที่ได้รับเป็นอย่างไร

ชบาแก้ว – “เกินคาดค่ะ เราจะเกร็งหน่อยว่าเราจะทำได้มั้ย เพราะว่าเราเล่นเอ็มวีเองด้วย อย่างที่รู้ว่าปัจจุบันนี้ผู้ชายส่วนน้อยมากที่จะชอบสาวไซซ์อย่างเรา ส่วนใหญ่เขาจะชอบแบบเดินมาหน้าอกมาก่อนแบบนั้น (หัวเราะ) อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นคนติดตามเยอะก็ดีใจค่ะ อยากให้ยอดคนดูขึ้นไปเรื่อยๆ”

◆ มาที่เพลงของแอมมี่บ้าง

แอมมี่ – “เพลงก็มาดิค้าบ เป็นแนวห้าวๆ นิดนึง สไตล์หนูเลย ตอนแรกก็มีได้เลือกเหมือนกัน 2 เพลง แต่ว่าจริงๆ น้องแอมเป็นคนใต้ เลยเสนอเขาไปว่าอยากร้องเพลงใต้ แต่เขาบอกว่าภาพหนูจะใต้เลยไม่ได้นะลูก หนูก็ฟังที่พี่เขาพูด เขาก็อธิบายว่าจริงๆ แอมเป็นคนแบบนี้ พี่เณรเขาดูหนูตั้งแต่แรกเลย ตั้งแต่หนูเป็นนักร้องร้านอาหารแถวพระราม 3 ได้เคยเจอพี่เณรแล้ว พี่เณรได้เห็นเราบนเวทีแล้ว แกก็รู้แล้วว่าลุกส์เราเป็นอย่างไร เขาก็เลยถามว่าสรุปหนูชอบเพลงอะไร

หนูเลยบอกว่าพี่เลือกเลยค่ะ หนูว่าพี่มองหนูออกมากกว่าหนูมองตัวเอง พี่เณรเลยบอกว่า นั้นเป็นเพลงก็มาดิค้าบ ตอนแรกเขาให้เลือก 2 เพลง คือเพลงก็มาดิค้าบ กับเพลงชุดนอนไม่ได้นอน ซึ่งเพลงชุดนอนไม่ได้นอน พอพูดถึงเพลงนี้ภาพมันจะตัดไปเห็นพี่ ใบเตย กับพี่จ๊ะ เพราะว่าลุกส์หนูที่ผ่านมาก็ใช่เล่นเหมือนกัน ออกเซ็กซี่ (หัวเราะ) ถ้ารู้จักตัวตนหนูนี้ต้องเพลงก็มาดิค้าบ เป็นหนูเลย ห้าวๆ เป็นเด็กบ้านๆ โก๊ะๆ แอบเซ็กซี่นิดนึง”

◆ ใส่ความเป็นเราอะไรไปในเพลงนี้บ้าง

แอมมี่ – “ความร่าเริง กวนๆ เพราะว่าเพลงออกแนวขี้เล่น เพราะว่าเพลงนี้มันมาจากแฮชแท็กของวัยรุ่น มันจะมีความกวนอยู่ แล้วในเพลงก็มีคำแฮชแท็กเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นคำว่า ไม่พูดเยอะเจ็บคอ เรียกว่าคำแฮชแท็กอยู่ในเพลงนี้หมดเลย”

◆ การทำงานยากไหม

แอมมี่ – “ยากตรงที่ร้องโอะ โอ๊ะ โอ โอ๊ะ โอย… โอ๊ะ โอ โอะ โอ๊ย มันเป็นท่อนที่ออกเซ็กซี่ เพราะว่าช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เพลงครางชื่ออ้ายแน คือเนื้อเพลงท่อน โอะ โอ๊ะ โอ โอ๊ะ โอย… โอ๊ะ โอ โอะ โอ๊ย ไม่ได้ร้องแบบนี้นะ มันร้องโอยๆ ครางเลยอ่ะ หนูทำออกมาไม่ได้ แอมก็คุยกับพี่โปรดิวเซอร์ พี่เขาก็บอกว่าฟังแล้วมันขัดๆ เขาเลยบอกว่าให้แอมเสนอ เราก็ร้องเล่นๆ ให้เขาฟัง เขาก็เปลี่ยนให้เป็นแบบเนื้อเพลงตอนนี้ แต่ว่าในเพลงนี้จะแอบมีลูกทุ่งนิดหน่อย เป็นลูกทุ่งอีดีเอ็ม มีความเซ็กซี่เหมือนเดิม เรียกว่าเป็นเด็กบ้านๆ ที่เซ็กซี่ได้”

◆ ดนตรีล่ะ

แอมมี่ – “ดนตรีสมัยใหม่มาก เป็นลูกทุ่ง อีดีเอ็ม เป็นตื๊ด เรื่องเต้นชอบอยู่แล้วค่ะ”

◆ กระแสที่เข้ามาเป็นอย่างไรบ้าง

แอมมี่ – “เกินคาดค่ะ เพราะว่าปล่อยมาวันแรกแตะไปที่ 5 หมื่นวิว ซึ่งไม่คิดว่าจะมีคนสนับสนุน และรอดูเราขนาดนี้ เหมือนคน เขาคอยดูเอ็มวี ด้วยว่าเพลงมัน ปล่อยมาแล้วในรายการ พอเอ็มวีมาก็พุ่งเลย”

◆ เป็นซิงเกิลแรกของเราด้วย

แอมมี่ – “ใช่ค่ะ เรียกว่า ทุกอย่างมันมาเป๊ะเอาในวินาทีนี้หมดเลย ไม่ว่าหนูจะได้รับรางวัล ได้ถ้วยพระราชทาน ได้ชื่อ ได้มีเพลงและเอ็มวี ในตอนที่หนูอายุ 24 ปี รู้สึกว่าโอ้โห หนูดีใจตรงที่หนูทำให้แม่เห็นความสำเร็จได้เร็ว หนูก็เหมือนหัวเรือหลักของครอบครัว หนูก็ดีใจที่เราทำตามความฝันที่เราอยากจะเป็นได้เร็ว หนูกลัวว่าถ้าแก่ตัวไปก็คงยากกันนิดนึง”

◆ วางแผนยังไงกันต่อไป

แอมมี่ – “พวกเราสองคนก็เดินหน้าโปรโมต เดินหน้าทำงานต่อไป และมอบรอยยิ้มและความสนุกให้กับทุกคนค่ะ”