‘หยาด’ปลดล็อกตัวเอง ก้าวสู่การเป็นนักแสดงอิสระ

คอลัมน์ ข่าวสดอาทิตย์ใส

‘หยาด’ปลดล็อกตัวเอง – ออกมาสัมผัสโลกกว้างโดยไม่มีพันธนาการผูกมัด หลังจากที่เป็นนักแสดงภายใต้การดูแลของช่อง 3 มาตลอด 17 ปี สำหรับนักแสดงสาว ‘หยาด’ หยาดทิพย์ ราชปาล โดยประเดิมงานแรกด้วยละคร “แรงเทียน” ทางช่อง GMM25 กับบทร้าย ‘แพท’ หรือ ‘รัตติกร’ ปะทะบทบาทกับดาราสาวรุ่นพี่ ‘พลอย’ เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และพระเอกหนุ่ม ‘นิว’ วงศกร ปรมัตถากร

วันนี้จังหวะดีได้พูดคุยกับนางร้ายหน้าคมกันยาวๆ ถึงบทบาทการแสดง รวมถึงเรื่องราวของหัวใจ

เป็นไงบ้างกับการทำงานร่วมกับช่อง GMM25 ในละคร ‘แรงเทียน’ ครั้งแรก?

หยาด – “ก็ดีค่ะ สนุกดี การถ่ายทำเป็นไปได้ด้วยดี ราบรื่น นักแสดงแต่ละคนที่ได้ร่วมงานกันคือเข้ากันได้ดีหมด บทที่หยาดเล่นก็แซ่บตั้งแต่ตอนแรกเลย ดูแล้วลุ้น สนุก สะเทือนใจ”

คาแร็กเตอร์ที่ได้รับในเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?

หยาด – “เรื่องนี้หยาดรับบทรัตติกร หรือแพท น้องสาวของพระเอกคือพี่นิว-วงศกร เรื่องนี้หยาดจะร้ายมาก เป็นคนที่ร้ายแบบโวยวายเหมือนคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาก อยากได้อะไรต้องได้ แล้วทำทุกอย่างให้ได้มา เป็นคนที่มีแต่คนตามใจ แล้วเป็นคนอารมณ์รุนแรงมาก ค่อนข้างที่แบบว่าใครก็เอาไม่อยู่ แต่เขาจะเป็นคนรักใครรักจริง เป็นเด็กมีปัญหามีปม และน่าสงสารค่ะ”

บทร้ายครั้งนี้ยากจากการแสดงที่ผ่านมาอย่างไร?

หยาด – “เรียกว่าเป็นความท้าทายดีกว่าค่ะ เป็นบทที่หยาดยังไม่เคยเล่น เป็นคนที่แย่งของคนอื่นแล้วก็จะมีความโรคจิต เป็นความท้าทายที่ว่าจะเล่นออกมายังไงให้แตกต่าง เล่นออกมาให้คนดูเชื่อว่าตัวละครมีปัญหาทางด้าน อารมณ์จริงๆ เล่นยากค่ะ ซึ่งมันท้าทายหยาดมากๆ ก็เลยรับเล่น เพราะเราจะได้โตขึ้นและพิสูจน์ความสามารถตามวัยของเราด้วย พอเริ่มถ่ายปุ๊บตั้งแต่วันแรกที่เปิดกล้อง พอกลับบ้านไปคือหยาดน็อกตั้งแต่ขึ้นรถเลยค่ะ เพราะใช้พลังงานเยอะมาก ต้องเล่นเป็นคนที่มีสองบุคลิกสองขั้วอย่างชัดเจน รักแรง เกลียดแรง เป็นคนไม่ปกติ ทั้งหวีดทั้งเหวี่ยง เราใช้อารมณ์ค่อนข้างเยอะ ทุกฉากที่ออกมาคือเต็มมากๆ”

ได้เล่นบทร้ายปะทะกับ ‘พลอย-เฌอมาลย์’?

หยาด – “ค่ะ กับพี่พลอยเคยเล่นด้วยกันมาสองเรื่องแล้วค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาม สองเรื่องที่ผ่านมาหยาดถูกกระทำ ไม่มีปากไม่มีเสียง ร้องไห้อย่างเดียว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราทำเขาก่อน เล่นกับพี่พลอยไม่มีปัญหาอะไร เพราะ พี่พลอยเป็นคนเก่งอยู่แล้ว รับ-ส่งอารมณ์กันแบบเต็มที่ สนุกดี ได้กลับมาเจอคนที่คุ้นเคยทำงานด้วยกัน เข้าฉากกับพี่พลอยเป็นอะไรที่ตีกันดุเดือดมาก มั่นใจเลยว่าคนดูต้องแบ่งทีมเลยว่าจะเชียร์ทีมไหน”

ที่คนฮือฮาคือการเข้าฉากเลิฟซีนกับณัฏฐ์ เทพหัสดินฯ ที่ดูเผ็ดมาก?

หยาด – “ค่ะ กับพี่ณัฏฐ์ก็เป็นครั้งแรกที่เจอและทำงานด้วยกัน ส่วนพี่นิว-วงศกร ก็ครั้งแรกเหมือนกัน พี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก ทำงานกันได้ดี คือเราไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ ก่อนจะเล่นฉากเลิฟซีน นักแสดงแต่ละคนก็ต้องมีการขออนุญาตกันก่อนอยู่แล้วค่ะ เราก็ตั้งใจถ่ายทำให้เทกเดียวผ่าน ก็จูบจริงค่ะ”

คาดหวังอย่างไรบ้าง?

หยาด – “เรื่องนี้คือหยาดคิดว่าคนดูน่าจะชอบนะ เพราะมันเหมือนกับว่าแต่ละคนมีคาแร็กเตอร์ที่มีเหตุผลส่วนตัวที่ต้องทำแบบนี้จริงๆ แล้วคนที่ดูเรื่องนี้ก็จะได้แนวความคิด เรื่องราวความรักหลากหลายรูปแบบ หลากหลายเหตุผล และการเลี้ยงดูลูก แบบเวลาโตขึ้นมาการเลี้ยงมันส่งผลกระทบว่าลูกจะเป็นคนยังไง ซึ่งมันเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวว่าแต่ละครอบครัวถ้ามันมีแต่ละอย่างที่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ มันก็จะเป็นไปในทางที่มีความสุขอีกแบบหนึ่งค่ะ”

พอมารับงานเอง เป็นนักแสดงอิสระ ไม่มีสังกัด รู้สึกอย่างไรบ้าง?

หยาด – “ก็แล้วแต่มุมมองของคนค่ะ อย่างหยาดรู้สึกว่าออกมาเป็นฟรีแลนซ์เพราะเราอยากร่วมงานกับหลายๆ ที่ แล้วก็มีประสบการณ์มากขึ้นกับหลายที่ค่ะ ตอนนี้หยาดก็เล่นได้กับทุกที่ จะมีผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนรับงานให้ค่ะ”

ทุกวันนี้มีช่องอื่นๆ ติดต่อมามากน้อยแค่ไหน?

หยาด – “ก็มีหลายๆ ช่อง หลายๆ ที่ค่ะ กำลังดูบทอยู่ แต่ตอนนี้ที่มีก็มีเรื่องที่ถ่ายทำของช่อง 3 (เขาวานให้หนูเป็นสายลับ) คือหยาดไม่ได้มีปัญหากับทางช่อง 3 นะคะ ถึงจะหมดสัญญาแล้วเรายังรับงานกับทางช่อง 3 ได้ปกติค่ะ แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่งของช่อง 8 (เรือนสายสวาท) ค่ะ”

เป็นคนหนึ่งที่แต่งอะไรก็ดูดี หลายคนอยากรู้ว่าสไตล์การแต่งตัวจริงๆ ของ ‘หยาดทิพย์’ เป็นแบบไหน?

หยาด – “จริงๆ เป็นคนแต่งตัวง่ายมากเลย อยากจะหยิบอะไรที่แบบใส่แค่ชิ้นเดียว หรือไม่ก็สองชิ้น คือเสื้อ กางเกงยีนส์ คือหยาดเป็นคนที่ไม่ค่อยเตรียมอะไรไว้ก่อน ถ้าแบบทำงานจะเต็มที่ แต่ถ้าแบบชีวิตประจำวัน วันปกติก็จะใส่เป็นเสื้อตัวหนึ่งสวยๆ กางเกงยีนส์ หรือไม่ก็เป็นเดรสตัวเดียว เอาแบบที่เร็วง่าย แต่ก็คือสวยนะ ส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยชอบแต่งตัวเซ็กซี่เท่าไหร่ และก็ไม่ชอบแต่งตัวหวานๆ ไม่ชอบใส่กระโปรงที่สีอะไรหวานๆ เราจะมีสไตล์ที่เราชอบ คือแบบเร็วๆ ง่ายๆ ไม่ได้ว่าต้องเซ็กซี่หรือไม่เซ็กซี่ เราก็ใส่บิกินีไปเที่ยวทะเลเป็นประจำอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้อ่านคอมเมนต์นะคิดว่ามันแล้วแต่มุมมองของคน แต่เรามองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราก็ไม่ได้ใส่อะไรที่วาบหวิวเกินไป”

นอกเหนือจากอาชีพนักแสดงมีทำอย่างอื่นไหม?

หยาด – “หยาดมีธุรกิจส่วนตัว เป็นร้านจัดดอกไม้ ซึ่งเป็นงานที่ไม่ได้กระทบกับงานแสดง หยาดเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็กและงานแสดงเป็นอะไรที่เราชอบ เป็นความสุขของเรา ก็อยากทำมันไปเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนร้านดอกไม้ที่ทำเป็นสิ่งที่เราชอบมานานมากแล้ว เป็นแบบงานอดิเรก เป็นสิ่งชอบจนเรามาทำมันเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา มีความสุขสนุกไปด้วย เหมือนได้เล่นละคร ชื่อร้าน TESS De Florist ตั้งอยู่ในโครงการ 9.53 คอมมูนิตี้ มอลล์ ทองหล่อ ซอย 9 เป็นร้านที่เราตั้งใจทำขึ้นมาเกี่ยวกับดอกไม้ทุกอย่างเลย ก็แชร์ๆ กันไประหว่างงานแสดงและการทำร้านดอกไม้”

เวลาว่างเรามีไลฟ์สไตล์ชอบทำอะไรบ้าง?

หยาด – “เวลาว่างชอบอ่านหนังสือ เล่นโยคะ จริงๆ น้ำหนักไม่ได้ลดเลยแต่ช่วงนี้นอนน้อยเพราะถ่ายละครสองเรื่อง แล้วก็เรื่องร้านอีก คือทำงาน 7 วันเต็ม แล้วก็มีนี่แหละจัดดอกไม้ที่ตอนนี้ทำเป็นจริงเป็นจัง ร้านก็ไปได้ดี เป็นร้านแรกของเราด้วยที่ลงหุ้นกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่สนิท เราชอบอะไรคล้ายๆ กัน ก็เลยมาทำด้วยกัน ตอนนี้ทำงาน 7 วันไม่หยุดเลย ก็พยายามนอน ถ้าว่างก็จะนอนให้ได้เยอะที่สุดค่ะ”

ความรักเป็นเรื่องที่ดี ทำชีวิตสดใส

ปิดฉากรักกับนักธุรกิจหนุ่มหล่อ ‘โจ-แม่สาย’ แบบที่เรียกว่าไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ สำหรับดาราสาว ‘หยาด-หยาดทิพย์’ พอแย็บถามถึงประสบการณ์ความรักเดิม จากอดีตจนถึงวันนี้มองความรักเป็นอย่างไร และความรักสอนอะไรบ้าง หยาดเปิดมุมมองเล่าให้ฟังว่า “หยาดไม่ค่อยได้มองอะไรเยอะแยะมากมาย หยาดมองแค่ว่าเจอคนที่ใช่ก็อยู่ด้วยกันได้ เจอคนที่ไม่ใช่ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ยังไม่ได้อยากแต่งงาน คือเราทำงานเยอะแล้ว เรามองว่าการมีความรักเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ชีวิตเราสดใส แต่ไม่ได้มองว่าอะไรเป็นประสบการณ์ค่ะ ก็แค่เราเจอคนที่ไม่ใช่แค่นั้นเอง เรามองคนที่อยู่ด้วยกันได้แค่นั้น”

“หยาดว่าคนเราถ้าแบบมันอยู่ด้วยกันได้มันไม่ต้องทะเลาะกันบ่อยๆ ไม่มีเรื่องนั้นไม่มีเรื่องนี้ก็อยู่ด้วยกันได้ ส่วนจะเป็นคนในวงการหรือนอกวงการมันไม่เกี่ยวนะ ส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยได้คุยกับใครในวงการ เพราะว่าคนในวงการมันรู้จักกันหมดแล้ว เพราะเราก็ทำงานมานาน”

ถามว่าตอนนี้มีใครเข้ามาในใจหรือยัง ดาราสาวกล่าวว่า “ก็มีคุยบ้างค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรแบบเยอะแยะ”

สวยๆ อย่างนี้หลายคนเข้าใจว่าต้องมีหนุ่มๆ เข้าแถวขายขนมจีบเยอะแน่ๆ เลย แต่เจ้าตัวปฏิเสธ “ความจริงไม่เยอะนะ มันเป็นธรรมดาของคนที่ไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน หยาดก็อยากขอคนที่เรารู้สึกว่าเขามีความเป็นผู้ใหญ่ เพราะเราก็โตแล้ว มีความตั้งใจทำงาน เป็นคนที่อบอุ่นหน่อย”

หลังจากที่โสดดูเป็นคนติดเพื่อน “จะมีแฟนหรือไม่มีแฟนหยาดก็จะอยู่กับเพื่อนตลอดอยู่แล้วค่ะ เพราะเราเป็นคนเพื่อนเยอะ เพื่อนเยอะมาก แล้วเพื่อนกลุ่มเราสนิทกันมากๆ เลย ถ้ามีเวลาก็จะไปจัดทริป กับเพื่อน เป็นเวลาที่ดีค่ะ และต่อให้มีแฟน คือแฟนต้องเข้าไปอยู่ในกลุ่มเรา เราไม่ได้ออกไปอยู่กับกลุ่มอื่นนะ”

เราอยากจะแต่งงานมีครอบครัวอายุสักเท่าไหร่ “ไม่เคยคิดเลยอ่ะ คิดแค่ว่าถ้าวันหนึ่งได้แต่งก็ดี ถ้าไม่ได้แต่งก็ไม่เป็นไร ไม่อยากใส่ชุดเจ้าสาวอ่ะ ใส่จนเบื่อแล้ว (หัวเราะ) หมายถึงใส่ถ่ายแบบ ก็ไม่เหงานะคะ มีหมาตั้ง 7 ตัว ถามว่ารีบมั้ย ก็ถ้ามีแฟนก็ดีค่ะ (ยิ้ม) แต่ยังไม่ได้อยากมีสามีเร็วๆ นี้”

ยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว แต่สาวหยาดก็มีเด็กที่อยู่ในความดูแล ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “เป็นน้องที่หยาดอุปการะเลี้ยงค่ะ เขาอายุ 10 กว่าขวบแล้ว เรียนมัธยมแล้ว ชื่อน้องนินค่ะ เราก็แค่อุปการะเขา ให้เขาได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียน จะเจอกันประมาณ 2-3 ครั้ง จากหลายปีที่ผ่านมา เพราะบ้านเขาอยู่ต่างจังหวัด จะได้เจอก็แค่เวลาที่มูลนิธิจัดโปรแกรมให้เขาได้มีโอกาสมาทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ”

เรียกว่าสวยแล้วจิตใจยังดีอีกด้วย