‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

ไม่ได้แย่ง‘ผู้’แต่ต้องการ‘แม่’

นํามารีเมกอีกครั้งแต่ความแซ่บของเนื้อหาก็ยังไม่เปลี่ยนสำหรับละคร “สองนรี” ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร ทางช่อง 7 ผลงานของค่ายพอดีคำ ซึ่งนางเอกสาว ‘มิน-พีชญา’ ควบบทบาทฝาแฝดได้อย่างถึงพริกถึงขิง

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

ภายใต้ความแซ่บก็คือบทโทรทัศน์ที่มาจากฝีมือการเขียนของ ‘ลายน้ำ’ ที่เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของละครหลายเรื่อง อาทิ ลูกไม้หลากสี (เวอร์ชั่น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก-มิกค์ ทองระย้า), เรือนกาหลง, มือปราบเจ้าหัวใจ, ขมิ้นกับปูน, บ่วงสไบ

วันนี้ได้มีพุดคุยกับ ‘สนธยา สุชฎา’ เจ้าของนามปากกา ‘ลายน้ำ’ ที่ส่งให้ละคร “สองนรี” ติดเทรนด์ละครฮิตอยู่ในตอนนี้

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

ลายน้ำ – สนธยา สุชฎา

ตอนแรกที่รู้ว่าจะต้องมาเขียนบท สองนรี ทำการบ้านอย่างไรบ้าง?

สนธยา – “อ่านนิยายก่อนเลยว่าโครงสร้างเรื่องบทประพันธ์เป็นยังไง ต้องชมคุณพัดชาเจ้าของบทประพันธ์ เรื่องนี้ทำมา 20 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งกล้ามากที่สร้างตัวเอกมีปัญหาทางจิตเวช เรามองว่าจุดแข็งของสองนรีคือคาแร็กเตอร์ตัวนี้ คือเส้นเรื่องของหนึ่ง ทุกคนเห็นตรงกันว่าเล่าเรื่องผ่านหนึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

แล้วด้วยความที่เขาป่วยเป็นแบบนี้ เราจะนำพาเขาไปสู่อะไร หน้าที่เราก็คือจะทำยังไงให้เรื่องราวเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว มันตอบโจทย์คนในสังคมสมัยนี้ แล้วก็ไปคุยกับอาจารย์ทางสายจิตวิทยาของ ม.มหิดลและทางธรรมศาสตร์ เพื่อจะศึกษาโรคในบทประพันธ์ นิมโฟมาเนีย เพื่อจะได้เข้าใจตัวละคร แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้ชื่อนี้แล้ว ตัวละครหนึ่งปัจจุบันจริงๆ จะเข้าข่ายโรคบุคลิกภาพผิดปกติ”

ตีความ หนึ่ง เป็นอย่างไร?

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

สนธยา – “เราเลือกตีความ หนึ่ง เป็นผู้ป่วย ซึ่งนิยายดั้งเดิมเขาทำถูกแล้วที่ต้องเป็นสีขาวสีดำ เพราะถ้าเล่าแบบเรียลลิสติกในยุคนั้น คนดูช็อกได้ แต่ในพ.ศ.2562 คนดูไม่ต้องการตัวละคร สีแบบนั้น คนดูจะรักตัวละครที่มีสีเทา ฉะนั้นสิ่งที่เราปรับก็คือ…ตัวหนึ่ง

จริงๆ ไม่ได้ปรับเยอะ ยังยึดคาแร็กเตอร์จากบทประพันธ์ แต่แค่เพิ่มความน่ารักของเขาเข้าไป ตัวที่ปรับเยอะจริงๆ คือสอง เพราะเดิมสองคือแสนดี เป็นผู้ถูกกระทำผู้ยอม แต่ถ้าเรามาเล่านางเอกในมุมนี้คนดูจะถอยแล้ว เราก็เลยเลือกปรับสองให้เป็นผู้หญิงที่สตรอง แค่คิดดีทำดี ถ้าได้รับความไม่ดีเขาก็พร้อมปะทะ เราเลยทำให้คนจับต้องทั้งสองตัวละครนี้ได้”

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

ในบทประพันธ์ระบุเลยไหมว่าหนึ่งเป็นโรคนิมโฟมาเนีย?

สนธยา – “ใช่ครับ ยิ่งได้คุยกับนักจิตวิทยาทุกอย่างก็ตอบโจทย์หมดเลย เพราะโครงสร้างของแม่หนึ่งพื้นฐานคือโสเภณี อาจารย์ท่านบอกเลยว่าคนที่เป็นโสเภณีพื้นฐานสภาพในใจเขาบอบช้ำอยู่แล้ว มีความซึมเศร้าหรือลึกๆ ไม่ภูมิใจในตัวเองอยู่

ดังนั้นเมื่อลูกโตมากับคนแบบนี้หรือวิถีของปรียา (แม่) ไม่มีเวลา ทิ้งลูกไว้อยู่กับผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กที่ขาดความรักตั้งแต่ต้น ฉะนั้นทั้งเรื่องช่วงหลังเวลาดูในทวิตเตอร์มาถึงตอน 8 จะเริ่มมีคำว่าเฮ้ย! ไม่ใช่ละครแย่งผู้ แต่เป็นละครแย่งแม่ (หัวเราะ) สุดท้ายหัวใจหนึ่งจริงๆ คือต้องการแม่ แค่ใช้ผู้ชายเป็นเครื่องมือหมดเลย”

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

ภาพที่ออกมาต้องระมัดระวังด้วยไหมว่าจะให้ออกมาได้แค่ไหนยังไง?

สนธยา -“ตอนแรกเราก็จัดเต็ม (หัวเราะ) แต่อันนี้ต้องชื่นชมพี่เก๋ (มณีรัตน์ ประสงค์สันติ) กับผู้กำกับฯ คือมาช่วยกันมองว่าอันไหนเหมาะที่จะออกสื่อ เพราะว่ากลับมาที่หัวใจหลักของสถานีช่อง 7 มันยังความเป็นพื้นฐานกลุ่มคนดูที่กว้างมาก ทั้งเด็กยันผู้ใหญ่สูงอายุ

ฉะนั้นเราจะมาเล่าในความเป็นคนเมืองหรือคนรุ่นใหม่อย่างเดียวไม่ได้ เราต้องเล่าในมุมที่เขาจับต้องได้และนำพาไปได้ อันหนึ่งที่เราชอบมากคือพี่เก๋ใช้คำว่า…บางอย่างเราอย่าเล่าทั้งหมด ให้เราเล่าและละไว้ แล้วปล่อยให้คนดูจินตนาการเอง ดังนั้นในละครถึงไม่มีภาพประเภทที่มีเซ็กซ์หรืออะไรกับผู้ชายอื่นๆ แต่เราจะละไว้ในฐานที่เข้าใจ”

ฟีดแบ็กมาถึงตัวเราเป็นอย่างไรบ้าง?

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

สนธยา – “โดยรวมที่ตามจากสื่อหรือคนรอบตัวชอบกันนะครับ พื้นฐานละครคือมันสนุก แต่ตอนที่ทำก็มีความกลัว เพราะมันไม่ได้จี๊ดจ๊าดแย่งผัวแย่งเมีย แล้วก็เรื่องนี้เป็นการตัดต่อเล่าอารมณ์ลึกของตัวละครเป็นหลัก เราจะให้คนดูตามดูชีวิตหนึ่ง ซึ่งความยากคือการแสดง ต้องได้นักแสดงที่เก่งมาก เพราะถ้าฝีมือไม่ถึง คนดูไม่รัก แล้วก็พร้อมที่จะหนีได้เลย

แต่ถ้าคุณเล่นแล้วทำให้คนดูรัก คนพร้อมที่จะดู เพราะว่าทุกรีแอ๊กมินเก่งมาก ทุกการแสดงออกของเขามันสื่ออารมณ์หมด ทำให้คนดูรัก อยากดู สงสารเขา แล้วก็อีกส่วนต้องยกเครดิตให้กับผู้กำกับฯ เพราะมันเป็นการทำงานร่วมกับนักแสดง หรือแม้กระทั่งโปรดักชั่น ฉาก โลเกชั่น ซึ่งเรารู้สึกว่าทุกอย่างมันเคลียร์หมด สะอาดตา น่ามอง เลยเป็นองค์ประกอบรวมที่ให้งานไปจับใจคนดูได้”

ฝากคนดูว่ามีอะไรมากกว่าความแซ่บ?

‘สองนรี’เวอร์ชั่น2019

สนธยา -“เหมือนประโยคที่ตัวละคร พูดว่า…ดูละครอย่าสักเอาแต่แซ่บอย่างเดียว อันนี้เป็นความจงใจที่ไปใส่ไดอะล็อกแล้วมันถูกที่ถูกทาง (หัวเราะ) คืออยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะว่าละครทุกเรื่อง โดยพื้นฐานเราอยากให้คนดูสนุก แต่ภายใต้ความสนุกสิ่งที่เราอยากให้ก็คือให้เขาจับต้องอะไรบางอย่างได้ หรือตัวละครบางตัวที่มีผลต่อพฤติกรรม หรือให้เขาเห็นข้อดีข้อเสียในการใช้ชีวิต”

“อยากให้ติดตามตอนจบ เพราะมันมีหลายอย่างที่มีการปรับยังไงให้ร่วมสมัย แล้วก็ไม่ตรงกับนิยายและไม่ตรงกับเวอร์ชั่นที่ผ่านมา ถ้าอยากรู้เวอร์ชั่นนี้จบยังไงลองชมครับ”

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน