RAMBO : LAST BLOOD แรมโบ้ 5 นักรบคนสุดท้าย
คอลัมน์ หนังเด่น
โดย กฤษฎา
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชื่นชอบ ชิงชัง หรือรู้สึกเฉยๆ กับ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ข้อเท็จจริงหนึ่งซึ่งต้องยอมรับก็คือ ขณะถ่ายทำหนังแรมโบ้เรื่องนี้เมื่อปีที่แล้วสตอลโลนอายุ 72 ปี
ที่สำคัญ ตัวเลข 72 ไม่ใช่อายุของดาราผู้รับบทแบบ “คุณปู่อยู่บ้านพักคนชรา” แต่เป็น “อดีตนักรบผู้เปิดศึกกับกลุ่มอาชญากรรม”
ในระดับบุคคล การที่คนอายุ 72 ยังทำงานในกองถ่ายหนังได้เวลาเป็น 2 เดือน นับเป็นเรื่องพิเศษ และย่อมแสดงว่าต้องมีแรงขับ แรงกาย แรงใจ และสติที่สมบูรณ์พร้อม
ในระดับธุรกิจและอุตสาหกรรม การที่ดาราอายุ 70 กว่าแสดงนำเป็น “พระเอก” เป็นอีกหลักฐานที่ยืนยันถึงอายุการทำงานในอาชีพอันยาวนานของดาราฮอลลีวู้ด
กรณีสตอลโลน คือ 43 ปี นับตั้งแต่มีชื่อเสียงจาก Rocky เมื่อปี 1976
อีกเรื่องที่สมควรนำมากล่าวถึงก็คือ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เป็นคนเขียนบท Rocky (เสร็จภายใน 4 วัน) จากนั้นนำไปเสนอขายนายทุน พร้อมเงื่อนไขว่าต้องแสดงนำด้วย หลังข้อเสนอได้รับการตอบรับความสำเร็จก็ตามมา พร้อมการพลิกผันจากนักแสดงโนเนมเป็นดาราดัง
นอกจากหนังชุดนี้แล้ว อีกชุดที่เป็นเครื่องหมายของสตอลโลน ก็คือหนังชุดที่แรมโบ้เป็นตัวละครเอก
First Blood (หรือหนังแรมโบ้ภาคแรก) ออกฉายปี 1982 ใช้ทุนสร้าง 15 ล้านดอลลาร์ ทำรายได้ 125 ล้าน
Rambo : First Blood Part II ออกฉายในอีก 3 ปีต่อมา ทุนสร้าง 25 ล้านดอลลาร์ รายได้ 300 ล้าน
Rambo III เพิ่มทุนสร้างเป็นราวๆ 60 ล้านดอลลาร์ (ซึ่งสูงสุด ณ ขณะนั้น-1988) แต่รายได้ลดลงเหลือแค่ 189 ล้านดอลลาร์
เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง 3 ภาคออกฉายในยุค 80 ที่ราคาค่าบัตรต่ำกว่าปัจจุบันหลายเท่า และโรงมัลติ เพล็กซ์ (หรือเมกาเพล็กซ์) ยังไม่เติบโตเต็มที่ รายได้รวมระดับ 600 ล้านดอลลาร์นับว่ามหาศาล
Rambo (Rambo IV) ทิ้งช่วงห่างภาค 3 ถึง 20 ปี ก่อนที่จะเว้นอีก 11 ปี เมื่อมาถึงภาค 5 คือภาคล่าสุด
ในแง่เนื้อหาหนังอาจถูกมองด้านลบว่าเชิดชูลัทธิเชื้อชาตินิยม และประทับตราผู้ร้ายเหมารวมให้เม็กซิโก แต่อีกด้านก็นำเสนอเนื้อหาแบบ “ครอบครัวคือสิ่งสุดสำคัญ” ซึ่งเนื้อหาว่าด้วยครอบครัวนี้อาจมองได้ว่าหนังยังมีสาระ ไม่ได้มีแค่ความรุนแรง
เมื่อกล่าวถึงความรุนแรง ถ้ามีเครื่องวัดเข็มน่าจะชี้ถึงขีดปลายสุด ตัวอย่างที่ทำให้เข็มชี้มีอาทิ มีดกรีดหน้า มีดกรีดอกแล้วควักหัวใจออกมา ตัดศีรษะแล้วทิ้งบนถนน โดนของมีคมจนหน้าเละ
เรียกได้ว่ารุนแรงระดับที่มี คนบรรยายว่า เหมือนเป็นหนังสยองขวัญแนวสังหารโหด
ตรงนี้อาจมองได้ว่าขนาดตัวละครหนุ่มสาวที่ไม่ได้ทำผิดอะไร ยังถูกฆาตกรโรคจิตเชือด ดังนั้น การที่แก๊งค้ามนุษย์ที่มองผู้หญิงว่าไม่ใช่คน ถูกลงโทษโหดเช่นนั้นนับว่าสมควรแล้ว
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คนดูผู้จะเพลิดเพลินกับแรมโบ้และงานของเขาต้องมีภูมิต้านทาน และรู้ตัวดีว่าคอแข็งเพียงพอ
