สุดเศร้า อ๊อฟ ชนะพล เผยความรู้สึก หลังส่งดวงวิญญาณ เหม เพื่อนจะอยู่ในใจเสมอ

วันที่ 29 ก.ย. ที่ วัดลาดปลาเค้า อ๊อฟ ชนะพล สัตยา พระเอกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังมาร่วมพิธีฌาปนกิจและส่งดวงวิญญาณ “เหม ภูมิภาฑิต” เพื่อนสนิทเป็นครั้งสุดท้ายในวันนี้ว่า

คลิกติดตาม ข่าวบันเทิงฮอตๆ ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

“ผมมาร่วมงานทุกวัน เหมถือว่าเป็นเพื่อนรักของผมอีกหนึ่งคน มีหลายเหตุการณ์ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เหมเข้าวงการ เหมก็จะอยู่กับผมและรู้จักผมไม่ว่าจะเป็นเวลางานหรือเวลาส่วนตัวของเขา พวกเราจะมีกลุ่มที่เตะฟุตบอลด้วยกัน รวมถึงมีไลน์กลุ่มที่คุยกันตลอดทุกเรื่อง ทุกอาทิตย์จะต้องเจอกัน”

วันนี้มาส่งดวงวิญญาณของเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ได้บอกอะไรไหม?
“ผมบอกเขาตั้งแต่วันที่ได้มารดน้ำศพแล้ว เพราะไม่รู้คำตอบของเขาว่าทำไม ทุกคนก็จะมีคำถามว่าทำไมๆๆๆ ซึ่งปัญหาทุกอย่างเขาเป็นคนที่มีความคิดและสามารถแก้ปัญหาได้ตลอด ทุกคนพี่พี่ๆ น้องๆ ก็รักเขา แล้วก็คอยช่วยเหลือกันมาตลอด แต่ก็ยังมีคำถามว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจจะคิดสั้นปลิดชีวิตตัวเองแบบนี้”

ผมก็ได้บอกกับเขาว่า มีคนรักเหมเยอะนะ วันแรกที่รู้ว่าเหมเสียชีวิตทุกคนก็พยายามที่จะแสดงความรักผ่านในโลกโซเชียลฯ หรือว่าการโทร.หากันเพื่อสอบถามว่าข่าวนี้เป็นจริงหรือเปล่า ผมอยากให้เขารู้ว่าทุกคนรักเขามาก ถ้าเป็นไปได้นะอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนรับไม่ได้ แต่ความดีของเขายังคงอยู่ให้ทุกคนเห็นตลอดเวลา”

มีโอกาสได้คุยกับพ่อหรือครอบครัวเหมไหม?
“ครั้งแรกที่คุณพ่อได้เจอผม ซึ่งคุณพ่อกับคุณแม่เขาจะได้ยินตลอดว่ากลุ่มที่ไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมกัน กลุ่มที่ไปเล่นกีฬาด้วยกัน จะพูดให้คุณพ่อคุณแม่ฟังตลอด เรายังเคยไปช่วยโรงเรียนที่เหมเคยเรียนที่บ้านเขาเลย แต่คุณพ่อยิงประโยคที่ว่าสนิทกันขนาดนี้ไม่รู้หรอว่าทำไม ผมก็ยังมีคำถามว่ามันทำไมมันเกิดอะไรขึ้น

คุณพ่อยังคาใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน?
“ตรงนี้คุณพ่อเขาคงจะปล่อยวางไปแล้ว ซึ่งมันไม่มีอะไรที่จะเรียกได้กลับมาได้แล้ว มีแต่สิ่งดีๆ ที่เหมเขาได้ทิ้งไว้ก็เป็นความกตัญญูที่เหมได้สร้างให้กับครอบครัวตัวเอง เหมเขามีความรักความรับผิดชอบ มีคำว่าลูกที่ดีให้กับครอบครัวอยู่แล้ว แล้วก็เป็นที่รักของเพื่อนๆ เป็นที่ต้องการของสังคมเป็นที่ต้องการของวงการบันเทิง เขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก แฟนคลับทุกคนรักเขาเพื่อนๆ ทุกคนรักเขา ปัญหาที่มันเกิดขึ้นผมว่า คนมองข้ามไปตั้งแต่วันแรกแล้ว อาจจะมีคำถามว่าทำไมแต่หลังจากนั้นแล้วไม่อยากรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”

ที่บอกว่าคุยกันทุกเรื่องเขามีบอกอะไรบ้างไหมเขามีระบายให้ฟังบ้างไหม?
“อาจจะมีเรื่องงานบ้างเรื่องส่วนตัวบ้าง แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวผมขออนุญาตไม่พูดถึง แต่เขาก็มีเรื่องเครียดแหละ ด้วยอาการของเขาที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้า โดยส่วนตัวผมเองแล้วหรือในทีมหลายๆ คน เขาอาจจะไม่รู้ว่าเหมเป็นโรคซึมเศร้า แต่อาการที่เขาแสดงออกมามันแสดงออกได้ชัดว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้าแต่ว่าเขาไม่ได้พูดให้เพื่อนหรือพี่ในกลุ่มรู้สึกเครียดไปด้วยกับเขา”

อย่างตัวอ๊อฟเองรู้ไหมว่าเขาป่วย?
“ผมรู้สึกตะหงิดครับ แต่เขาไม่เคยพูดเลย ผมเชื่อว่าแม้แต่ในกลุ่มของผมหรือว่าพี่ๆ กลุ่มไหนที่เขาไปเจอ เขาจะมีเสียงหัวเราะเขาจะมีรอยยิ้ม เขาจะมีความสุขให้กับคนที่อยู่ใกล้เขา แล้วเขาก็มีความสุขที่จะมอบให้กับตัวเอง อาการตรงนั้นไม่เคยออกมาให้ทุกคนได้รู้สึกเลย”

เรารู้สึกตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ช่วงหลังๆ นี่แหละครับที่เขาไปปรึกษาหลายๆ คน ในปัญหาชีวิตของเขาซึ่งตรงนี้เราจะไม่ขอพูดถึง แต่มีการโทร.ส่วนตัวในแต่ละคน มันก็ผ่านเวลามานานแล้วแหละ แต่เขาก็แก้ปัญหาได้ทุกครั้ง ล่าสุดที่ได้คุยกันในสาย เมื่อวันที่ 9 เดือนนี้ แล้วในไลน์กรุ๊ปก็คุยกันทุกวันอยู่แล้ว”

หลังจากนี้จะมีโอกาสไปส่งเหมที่บ้านหรือว่าไปร่วมลอยอังคารไหม?
“เมื่อวาน(28ก.ย.)เป็นวันพระ ผมได้มีโอกาสบอกเขาแล้วว่าจะทำบุญให้เขา แล้วบังเอิญในวันเดียวกัน หลังจากที่ผมไปทำบุญให้เขาแล้ว ผมก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานอุปสมบทของพี่คอสตูมท่านหนึ่ง ดังนั้นผมก็เลยถือโอกาสอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ผมได้ทำมาให้กับเขา”

“ผมเชื่อว่าทุกคนไม่ต้องการรู้หรอกครับ ว่าปัญหามันเกิดเพราะอะไร ผมแค่รู้สึกว่าทุกคนรักเขา จดจำในสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งดีๆ ที่เขาได้สร้างขึ้นมา ทั้งผลงานที่ออนแอร์อยู่ตอนนี้ ทั้งรายการที่กำลังจะออกอากาศเร็วๆ นี้ เหมเขาทิ้งแต่เรื่องดีๆ ไว้ เขาไม่เคยแสดงออกให้ทุกคนรู้ว่าเขามีปัญหา ในกลุ่มแทบจะไม่ได้รู้เลย แต่ถ้าเขาได้พูดออกจากปากเขาเอง นั่นคือแสดงว่าเขาอยากจะระบาย ซึ่งมันก็มีบ้างอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติตามประสาเพื่อน”

เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเหม ทำให้เพื่อนๆ ดูแลกันมากกว่าเดิมไหม?
“เอาจริงๆ เราดูแลกันมาตลอดนะครับ ดูแลกันมาตลอดทุกเรื่องเหมือนครอบครัวเดียวกัน เรารักกันมาก แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น ซึ่งจริงๆ เราทุกคนคุยกันทุกอาทิตย์อยู่แล้วครับ”

“อย่างล่าสุดก่อนที่จะเกิดเรื่อง 1 วัน เหมก็ต้องมาร่วมเตะฟุตบอลการกุศลเพื่อช่วยเหลือเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลฯ แต่ว่าวันนั้นเหมไม่ได้มา ทุกคนก็ยังพูดถึงเหมอยู่เลย เพราะนิสัยส่วนตัวของเขาเขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว แต่ครั้งนั้นมันเหมือนเป็นการถามหากันมากกว่า คือเราไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมเหมถึงไม่มา แล้วก็ผ่านไป 1 วัน จนกระทั่งถึงเช้าอีกวันหนึ่ง ด้วยอาการเพลียของผม ผมก็ได้พักผ่อนและตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยง จากนั้นผมก็เปิดโซเชียลฯ ดู ตอนนั้นผมก็ยังนึกในใจอยู่เลยว่า…เหมไปไหน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรจริงจัง เพราะโดยปกติแล้วเวลาที่เหมเขามาไม่ได้หรือไม่ได้มา เขาก็จะส่งข้อความมาบอกถึงเหตุผลในกลุ่มแชต ซึ่งมันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง”

“แต่พอหลังจาก 5 โมงเย็น ก็มีน้องโทร.มาหาผมด้วยอาการที่เศร้าโศกและบอกว่า “พี่เหมไม่อยู่แล้วนะ” ตอนนั้นผมก็สงสัยแค่ว่า “ถ้าไม่อยู่แล้วเหมไปไหน” จากนั้นน้องเขาก็บอกว่า “พี่เหมเสียชีวิตแล้ว” ตอนนั้นผมตกใจและก็ช็อกมากครับ”

“จนกระทั่งผมได้ไปเห็นข่าวผ่านสื่อออนไลน์สื่อหนึ่งที่มีการแจ้งข่าวว่า…เหมได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย เอาตรงๆ ตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อนะ เพื่อนๆ ในกลุ่มก็ไม่มีใครเชื่อเลย ไม่มีใครรู้สึกว่ามันคือเรื่องจริง พวกเราทุกคนก็พยายามตามหาตัวเหม กระทั่งมีคนเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุเราถึงได้ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริง”

“พอเรารู้ว่าได้เสียเพื่อนคนนี้ไปแล้ว แต่ทุกวันนี้เราก็ยังรู้สึกว่าเขายังวนเวียนอยู่กับเราเหมือนเขาไม่ได้จากไปไหนเลย เรายังพูดถึงเขาอยู่ทุกวัน ตั้งแต่วันที่เขามีชีวิต จนวันนี้เขาก็ยังหลงเหลือความทรงจำดีๆ ไว้ให้กับพวกเรา เราทุกคนยังคงนึกถึงเขา ยังอยากเจอเขา รอยยิ้มของเขา เสียงหัวเราะของเขา เสียงทักทายของเขา มันยังก้องอยู่ในหู มันยังเป็นรอยยิ้มที่ผมต้องจดจำไปจนวันตาย”

นั่นคือความน่ารักของเขา?
“ใช่ครับ เขาเป็นคนดีคนหนึ่งที่ถ้าได้รู้จักก็จะรักเขา”

พอจะทราบกำหนดการลอยอังคารไหม?
“ยังไม่แน่ใจครับ ต้องรอดูก่อน ทุกคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้าในการสูญเสียครั้งใหญ่ ไม่มีใครรับได้ แต่ความจริงก็คือความจริง”

ในส่วนของเพื่อนๆจะไปไหม?
“เดี๋ยวต้องคุยกันครับ ว่าคุณพ่อเขาจะยังไงต่อ ว่าจะลอยที่บ้านมั้ย อันนี้เป็นสิทธิการตัดสินใจของครอบครัวเขา ส่วนเพื่อนๆ ก็อาจจะเป็นการเข้าร่วมทำบุญตรงนี้มากกว่า ”

ส่วนตัวเราเชื่อว่าทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วใช่ไหม?
“ผมว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ สีหน้าแววตาของคุณแม่และคุณพ่อรู้สึกสดใสขึ้น อย่างน้อยที่ท่านทั้งสองสัมผัสได้เลยก็คือ มีคนรักลูกชายเขาเยอะมาก มีแต่คนพูดถึงความดีเขา พูดถึงแต่ความเก่งในตัวเขา คุณพ่อคุณแม่ท่านจึงรู้สึกสดใสมากขึ้น ถึงแม้ลึกๆ เขาจะโศกเศร้าเสียใจอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีความภูมิใจในลูกชายคนนี้ ”

มีอะไรอยากจะบอกเขาไหม?
ผมว่าเขารับรู้ได้ เพราะว่าเราเจอกันบ่อยมาก เราคุยกันบ่อยมาก ถึงแม้ผมจะเคยมีคำถามว่าทำไม แต่ผมได้ทิ้งไปตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะผมอาจจะไม่ได้รู้คำตอบนั้น แต่ผมรักเขามาก เขาคือเพื่อนสนิทที่น่ารักคนหนึ่ง อยู่ด้วยแล้วมีรอยยิ้ม มีแต่เสียงหัวเราะ เขายังมอบความสนุกของกลุ่มเราไปถึงคนรอบข้างพวกเราด้วย”

ทุกคนรักเขา ทุกคนรักเหม เหมเป็นที่รักของทุกคน และเป็นบุคคลที่มีคุณภาพคนหนึ่งที่ทุกคนต้องจดจำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่ผลงานแรกที่ออกมา ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเหมคือคนดีคนหนึ่ง มีประโยชน์ต่อสังคมอีกคนหนึ่ง เชื่อได้ว่าไม่ว่าจะวงการไหน หรือคนที่รู้จักเหมทั่วๆ ไป เขาก็จะจดจำแต่ความดีของเหมครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน