ช่อง 3 ยกเครื่องรายการข่าวใหม่หมด หวังเพิ่มเรตติ้ง ทำรายได้

ช่อง 3-วันที่ 30 ก.ย. นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) มาแถลงข่าวการเปิดตัว “ ข่าว 3 โฉมใหม่ ข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้ ” ทั้งยังพาชมสตูดิโอ ที่มีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกันนี้ผู้บริหารหนุ่ม ยังให้สัมภาษณ์ถึงการปรับโครงสร้างรายการข่าวใหม่ทั้งหมด

ช่อง 3

นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)

ถามถึงเรื่องการปรับเปลี่ยนสตูดิโอข่าว
“เราใช้ทีมงานเก่าของเราหมดเลย สิ่งที่เราเสียดายคือเราอยากให้เห็นภาพบีฟอร์ อาฟเตอร์ เราปรับทั้งหมดตรงนี้ ข้างหลังเราจะเน้นตัวสกรีนมากขึ้น จะเห็นว่าภาพที่เป็นวีอาร์มามีบทบาทมากขึ้น สิ่งที่จะเห็นมากขึ้น คือกราฟิกที่อธิบายที่มาของข่าว ให้มันเข้าใจง่าย และจับต้องได้ง่ายขึ้น วันที่ 1 ต.ค. เราจะได้เห็นลูกเล่นของการปรับเปลี่ยนสตูดิโอมากขึ้น”

การปรับเปลี่ยนตรงนี้ เม็ดเงินของโฆษณาเข้ามาเพิ่มขึ้นไหม
“เราคาดหวังในเรื่องตรงนี้ แต่เบื้องต้นอยากจะทำให้รายการข่าวของเรามีความชัดเจน มีความโดดเด่น เป็นการปรับโฉมใหม่ ตอนที่ผมเข้ามารายการข่าวของช่อง 3 เป็นอันดับหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ พื้นฐานมีดีอยู่แล้ว แต่ที่ต้องปรับคือเพิ่มความเข้มข้น และความชัดเจน นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องการให้ข่าวของช่อง 3 เป็นข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้”

ช่อง 3

รวมตัวผู้ประกาศข่าว

เราจะมีเม็ดเงิน ไปลงในสัดส่วนของข่าวประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ในภาพรวม เพราะว่าหลายช่องขยับมาในทิศทางเดียวกัน
“ถ้าย้อนกลับไปดู เม็ดเงินของข่าว เคยขึ้นไปถึง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ของรายได้ ระยะสั้น สิ่งที่ผมขอเน้นก่อน เอาเรื่องของเรตติ้งให้ดีกว่า โดยธรรมชาติ เม็ดเงินจะตามมาอยู่แล้ว”

ตอนนี้เม็ดเงินของรายการลดลงมาเยอะไหม
“ลดลงมา ไม่ได้เยอะมาก ถ้าเปรียบเทียบกับตอนที่เราทำได้ดี คาดหวังว่าอนาคตจะกลับไปเท่าเดิม”

ออนไลน์มีกี่ช่องทาง
“มีเฟซบุ๊ก ยูทูบ และเว็บไซต์ของช่อง 3 และทวิตเตอร์ด้วย สิ่งที่เป็นจุดแข็งของช่องคือผู้ประกาศข่าว เรามีผู้ประกาศข่าว 50 ชีวิต ที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน เป็นจุดขาย เป็นสิ่งหนึ่งที่เรามี และคนอื่นไม่มี”

ช่อง 3

ครอบครัวข่าว

ทีมข่าวทั้งทีมมีกี่คน
“ทีมข่าวของเรามี 200 กว่าชีวิต ผมคิดว่าไม่ต้องเพิ่มทีมข่าวเข้ามา เพราะผมคิดว่าเท่าที่มีก็เยอะอยู่แล้ว มันคือกระบวนการทำงาน จะเห็นว่าช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมาข่าวของเราเร็วขึ้น ลงท้องถิ่นเร็วมากขึ้น ผมเชื่อว่านี้คือข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้ เป็นสิ่งที่ผู้ชมของช่อง 3 อยากจะเห็น”

ในไตรมาส 4 จะมีการปรับทุกรายการที่เป็นรายการข่าวใช่ไหม
“ใช่ครับ ตอนนี้เราปรับไป 3 รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เรื่องเด่นเย็นนี้ และข่าว 3 มิติ เหตุผลที่เราเริ่มจาก 3 รายการนี้ เพราะว่าเป็นข่าวที่เรตติ้งดี กระแสทำได้ดีอยู่แล้ว ประเด็นที่สอง สตูดิโอนี้ที่เราปรับก่อน เพราะเป็นสตูดิโอที่ 3 รายการนี้ใช้ด้วย เลยทำได้เร็วขึ้น ในไตรมาส 4 เราไปปรับสตูดิโออื่น และรายการข่าวอื่นที่เหลือด้วย”

ช่อง 3

เรื่องเด่นเย็นนี้

เรตติ้งสูงที่สุดสำหรับรายการข่าว คือรายการไหน
“ตอนนี้เป็นรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ และเรื่องเด่นเย็นนี้ เรตติ้งจำไม่ได้”

รายการข่าวเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของชั่วโมง
“ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าต้องเพิ่มไหม ผมว่าไม่ต้องเพิ่ม เพราะว่ารายการข่าวของเรามีทุกช่วงเวลา เกมของเราพึ่งรายการข่าวที่เรามีอยู่แล้ว เพิ่มความเข้มข้นและจุดเด่นของแต่ล่ะรายการ ให้มีความชัดเจน ไม่ว่าจะในแง่ของผู้ประกาศ สิ่งหนึ่งที่เราเน้น คือผู้ประกาศ”

แต่ล่ะรายการมีการซอยเวลาให้สั้นลงด้วย
“ที่ซอยให้สั้นลง ในเฟดแรกที่เราปรับผังรายการ เรายกรายการที่มาจากช่อง 13 และช่อง 28 ด้วย สำหรับช่อง 28 รายการที่เรายกมาคือ รายการ โหนกระแส และข่าวนอกลู่ เราเลือกรายการที่ผู้ชมทางช่อง 28 ชมอยู่แล้ว มาชมต่อได้ที่ช่อง 33”

ช่อง 3

เที่ยงวันทันเหตุการณ์

หลังจากมีการประกอบองค์กรข่าว ตอนนี้โต๊ะข่าวมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร
“เมื่อ 2 เดือนกว่า เรามีการปรับขนาดขององค์กร และโครงสร้างขององค์กรใหม่ ให้ทันเหตุการณ์มากขึ้น ทุกวันนี้เราทะลุทะลวง ตอนนี้จากโต๊ะข่าวที่เคยมี 9 โต๊ะ เรารวมมาเหลือโต๊ะเดียวครับ”

รายการโหนกระแส กับรายการ ข่าวนอกลู่ พอมาอยู่อยู่ช่อง 33 ค่าโฆษณาเพิ่มไหม
“ปรับขึ้นแน่นอน เพราะว่ามาขึ้นอยู่ช่อง 33 แต่ไม่แน่ใจว่าปรับเป็นเท่าไหร่”

แบบนี้เราต้องปรับค่าโฆษณาของรายการข่าวทั้งหมดไหม
“ยังไม่ถึงเวลา ต้องให้เห็นภาพที่ชัดเจน และเรตติ้ง เมื่อเรตติ้งมา เม็ดเงินก็ตามมา ถามว่าจากการปรับครั้งนี้เรตติ้งจะขึ้นเท่าไหร่ ผมมีเป้าหมายอยู่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับรายการ และช่วงเวลา อย่างรายการที่สำคัญ ก็อยากเห็น 1.52 ขึ้นไป อยากเหตุผลค่อนข้างเร็ว ผมว่าน่าจะ 2 ไตรมาส เพราะเราเริ่มปรับตั้งแต่เดือนที่แล้ว เริ่มเห็นผลที่ดี ได้รับเสียงชมจากผู้ชมค่อนข้างเยอะ

ตอนนี้ผมเข้ามาดูเรื่องข่าวตั้งแต่เช้า ดูสิ่งที่เราจะปรับ สิ่งที่เราจะเพิ่มความเข้มข้น และตัวรายการ และรูปแบบออนไลน์เราจะทำอะไรบ้าง ขบวนการทำงานจะมีความคล่องตัวมากขึ้นด้วย”

ช่อง 3

เรื่องเล่าเช้านี้

ผอ.ฝ่ายข่าวเป็นใคร
“ยังไม่มีครับ ผมรักษาการอยู่ จริงๆ แล้วต้องมี ผมเข้ามารักษาก่อนในช่วงนี้ อีกอย่างช่วงนี้เป็นช่วงการปรับผังของเรา ผมว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ผมกับทีมงานเราทำงานกันอย่างใกล้ชิดครับ”

มีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ คาดหวังไตรมาส 4 ได้ไหม
“โห…จริงๆ แล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรายการข่าวผมไม่กดดันทีมข่าวขนาดนั้น แต่ก็ยังเป็นเป้าหมายเราอยู่แต่เราจะพยายามกลับมาให้เห็นภาพมากที่สุด ภาพรวมถือว่าไม่ง่าย เพราะในครึ่งปีหลังตลาดค่อนข้างโหดอยู่ทั้งภาคเศรษฐกิจน้ำท่วมเศรษฐกิจโลกอีกครึ่งปีหลังเหนื่อยกันอยู่”

ทั้งที่มีการลดช่องดิจิตอลลงไปแล้ว
“จริงๆ แล้วลดช่องดิจิตอล ต้องบอกว่าช่องที่สำคัญก็ยังอยู่หมด แล้วเม็ดเงินก็ไม่ได้กระจุกอยู่ที่ 15 ช่องนะอยู่ที่ 10 ช่องเป็นหลัก การคืนช่องมาไม่ได้เปลี่ยนสภาวะการแข่งขัน จริงๆ แล้วแอบเพิ่มการแข่งขันซะด้วยซ้ำ วันนี้การตัดสินที่จะอยู่กันต่ออีก 10 ปีเลยนะฮะทุกคนก็ต้องแข่งขันกันเต็มที่อยู่แล้ว”

แต่ด้วยที่ความของเราลดไป 2 ช่องความเข้มข้นของเราจะเยอะกว่าไหม
“ก่อนหน้านี้อย่างที่ผมเคยเรียน การที่เราเลือกและทุ่มกับช่อง 33 เพราะแน่นอนเป็นช่องหลักของเราอยู่แล้ว”

ช่อง 3

แฟลชนิวส์

เงินที่จะได้จาก กสทช. พรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร
“อันนี้คอยพรุ่งนี้นะ พรุ่งนี้ไปเอง ประมาณบ่ายโมง”

ที่พยายามเขย่ารายการข่าว จากช่อง 13 และ 28 มารวมเป็นช่อง 33 สิ่งที่จะทำต่อไปคืออะไร
“จะเป็นรายการที่เหลือ ทั้งวาไรตี้และละครด้วย คงปรับช่วงต้นปีหน้าเพราะตรงนี้มันเป็นรายการที่ที่ใช้เวลา”

สัดส่วนของละครจะมีรายได้ไหม
“ณ วันนี้ ต้องบอกว่ารายได้ของเราไปกระจุกอยู่ที่ละครซะส่วนใหญ่ วันนี้สิ่งที่เราพยายามทำก็คือกระจายแหล่งรายได้ของเรา บนทุกๆรายการ ทุกพื้นที่ที่เรามีทั้งหมด และไม่ใช่แค่ช่องทางบนทีวี แต่บนช่องทางอื่นด้วย จริงๆ ถ้าเอาให้สวยต้องมองธุรกิจใหม่ทั้งออนไลน์

สิ่งที่เราพยายามทำเรื่องไอทีกับศิลปิน คือธุรกิจใหม่จะเห็นภาพอย่างน้อยๆ อย่างที่ผมคุยว่าตั้งไว้ว่าเห็นสัก 10 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะมีภาพกับธุรกิจของเรา ในภาพรวมปีนี้ยังไม่เห็นหรอกครับเพราะมันยังอยู่ในจุดเริ่มต้น”

ละครมีสัดส่วนประมาณเท่าไหร่
“ผมว่าในแง่ของรายได้อยู่ที่เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์”

เรื่องของละครลดลงไหม เพราะว่าเรตติ้งน้อยกว่าช่องอื่น
“จริงๆ ผมว่าช่วงนี้เม็ดเงินทั้งตลาดก็ลดลงจริงๆ ผลมันไม่ได้มาจากเรตติ้ง แต่เป็นเพราะเศรษฐกิจมากกว่า”

เราก็ยืนยันว่ายังมีเรตติ้งที่น่าจะพอใจ
“มีเรตติ้งที่จะเห็นภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ละครเพลิงรักเพลิงแค้นก็เริ่มมาดี หลังจากนี้ก็จะไปปล้ำกับลิขิตรักข้ามดวงดาวให้เรตติ้งขึ้น

ไม่พลาดข่าวฮอตแวดวงมายา
แค่กดเป็นเพื่อนไลน์ ข่าวสด@บันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ก่อนนั้นมีปัญหาเรื่องพนักงานที่ออกไปมีการประท้วง มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ตรงนี้เคลียร์อย่างไร
“จริงๆแล้วต้องเรียนถ้าคุยกับพนักงานทีมข่าวทั้งหมดผมว่าคนที่อยู่ต่อก็อยู่และทุ่มเท ส่วนที่มีกระแส ต้องเรียนว่าจำนวนคนไม่ได้เยอะ แต่แค่อาจจะดูเหมือนมีกระแส คนที่นิ่งก็คือคนที่อยู่กับเราต่อ จริงๆ แล้วในจังหวะนี้ผมอยากจะขอขอบคุณทีมข่าวว่าการปรับปรุงทั้งหมด มันไม่ใช่แค่ตัวฉาก แต่ไส้ในด้วย

การที่เราคุยเรื่องกลยุทธ์ระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง ทั้งหมดที่เราปรับมาเวลาไม่ได้เยอะ เลยเร่งกันเต็มที่ แล้วผมว่าถ้าไม่มีสปิริตของทีมข่าววันนี้เราคงแถลงข่าวไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าอันนี้มันคือผลงานของทีมข่าว ที่จะทำให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากทีมที่เรามีอยู่ปัจจุบัน”

การรวมโต๊ะข่าวแบ่งการทำงานกันอย่างไร ในแง่ของเรื่องข่าว
“จริงๆ แล้วบางคนเขารับหลายหมวดหมู่ก็จะมีความเชี่ยวชาญ ก็คือไอเดียจะมาจากทุกๆคน เพราะฉะนั้นเราไม่ได้บอกว่าพึ่งความเชี่ยวชาญของโปรดิวเซอร์อย่างเดียว เป็นการคุยกันมากกว่า ว่าทำยังไงจะให้รายการออกมาโดดเด่นมากขึ้น การคุยกัน การปรับปรุงเกิดขึ้นจากทีมงานทั้งหมด ผมมองว่ามันเป็นการทำงานที่คล่องตัวมากขึ้น”

ถามถึงการวัดเรตติ้งทั้งข่าวและละคร
“จริงๆ แล้วที่สำคัญมันอยู่ที่ความต้องการของผู้บริโภค เหตุผลที่เราเน้นข่าวสังคม อาชญากรรมหรือบันเทิง เป็นเพราะด้วยฐานลูกค้าของผู้ชมช่อง 3 มันเป็น 3 ข่าว ที่เข้าถึงผ่านผู้ชมของเรา แล้วต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่มันอยู่ในกระแสของชีวิตประจำวัน นั่นคือสิ่งที่คนจะได้จากเรา

วันนี้บทบาทของทีวียังมีอยู่ ตรงที่เราต้องเป็นกระบอกเสียง เป็นข่าวที่เชื่อถือได้ เราจะไม่เอาข่าวที่ไม่ได้ตรวจเช็คมาก่อนเอามาพูดในรายการ อย่างเช้าตรู่จะมีรายการของทนายสงกรานต์ ที่จะเข้ามาช่วยประชาชน

วันนี้ผมเชื่อว่ามีผู้ชมอีกเยอะ ที่บางครั้งไม่รู้ แต่ไม่รู้จะไปหาใคร ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง วิ่งมาหาเราได้เลย ถึงจุดหนึ่งที่เราคุยกันว่านอกเหนือจากรายการแล้ว ตอนนี้คุยกันอยู่ ว่ารายสัปดาห์เราจะเปิดออฟฟิศไว้เลยให้มาที่ช่อง 3 ได้เลย มาคุยกับทีมงานของทนายสงกรานต์ ที่จะเป็นการปรึกษาเรื่องของคดี

เหตุผลที่เราเน้นรายการข่าว เป็นรายการที่เราทำได้ดี อย่างที่ผมเรียนถ้าเราดูเรตติ้งปัจจุบัน เราทำได้ดี มันมีโอกาสที่เราจะทำได้ดีกว่านี้ ทั้งบนทีวีและช่องทางออนไลน์ ผมว่าข่าวเป็นหมวดหมู่ที่สำคัญของเรา เรามีไอเดียอีกเยอะ อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นคอยติดตามดูว่าเราจะปรับอะไรอีก”

ถามเรื่องออนไลน์จะทำรายได้ ได้อย่างไร
“เรตติ้งมันยังเน้นไปที่ทีวี แต่ว่าในโลกออนไลน์ ผมอยากให้เราไปที่จดจำของผู้ชม ผู้บริโภค ช่องทางออนไลน์ สิ่งที่เราจะเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มหนึ่ง ที่อายุเด็กกว่าผู้ชมทีวี เพราะฉะนั้นรูปแบบการนำเสนอการทำข่าว เป็นการตัดต่อใหม่ด้วยซ้ำ ต้องตอบโจทย์ของคนที่อยู่ในโลกออนไลน์ เรื่องของการโฆษณาคงไม่ได้เข้ามาพร้อมกัน แต่เอารายการก่อน ส่วนเรื่องเรตติ้งอนาคตทีวีจะต้องวัดไปพร้อมกับออนไลน์”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน