15 ปี‘ไผ่ พงศธร’ความพอดีคือสูตรสำเร็จ

คอลัมน์ จับกระแสลูกทุ่ง

15 ปี‘ไผ่ พงศธร’ – อัลบั้มใหม่ที่แฟนตัวยงได้เก็บสะสมจะได้เห็นกันอีกทีก็ปีหน้า แต่ลูกทุ่งรูปหล่อตาคมไผ่ พงศธรก็ทยอยปล่อยเพลงใหม่ๆ ออกมาให้ฟังกันอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดที่ได้ฟังกันอยู่ตอนนี้ก็คือไปฮักกันสาและมันเป็นย่อนหยังส่วนเพลงใหม่ที่จ่อคิวจะได้ฟังกัน 19 ..นี้ คือเพลงอ้ายเก่งกระด้อ

วันนี้หนุ่มไผ่มีคิวว่างมานั่งคุยกับแฟนๆ ที่บ่นคิดถึง

กับอัลบั้มใหม่จะมีเมื่อไหร่

ไผ่ – “อัลบั้มจะทำปีหน้าแล้วครับ กำลังหาคอนเซ็ปต์อยู่ เพลงเราออกมาเรื่อยๆ เป็นเพลงที่เราอยากร้องมาก อยากนำเสนอในแบบที่เรายังไม่เคยร้อง

15 ปี‘ไผ่ พงศธร’ความพอดีคือสูตรสำเร็จ

ล่าสุดเป็นเพลงอะไร

ไผ่ – “มี 2 เพลงคือ เพลง ไปฮักกันสา และ มันเป็นย่อนหยัง กับเพลง ไปฮักกันสา มันเป็นความรู้สึกของคน ประมาณว่าถ้าจะทำให้ฉันเห็นขนาดนี้ก็ไปเถอะ ไปรักกันที่อื่นดีกว่าไหม คอนเซ็ปต์ของเพลงนี้ มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมเรา ความรักมีหลายมุม ไม่ใช่ว่ารักสมหวัง และไม่สมหวัง

ส่วนเพลง มันเป็นย่อนหยัง เนื้อหาคือเขาอกหักมาตั้งนานแล้ว เขาเพียงอยากจะถามว่ามันคืออะไร ทำไมเราต้องเลิกกัน ทำไมคุณต้องมีคนใหม่ บอกได้ไหม เพราะตอนที่คุณไปคุณเลิกแล้วก็ไปเลย ไม่ได้บอกอะไรผม ในเอ็มวีผมไม่อยากให้เรื่องราวในเนื้อเพลงมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผู้หญิงและผู้ชายอย่างเดียว มันมีเรื่องของโชคชะตากำหนดมาให้ผู้หญิงคนนี้เป็นโรคมะเร็ง

15 ปี‘ไผ่ พงศธร’ความพอดีคือสูตรสำเร็จ 15 ปี‘ไผ่ พงศธร’ความพอดีคือสูตรสำเร็จ

ด้วยความที่เขารักผู้ชายคนนี้มาก เขาก็คิดว่าถ้าวันนึงฉันจากไปแล้ว คุณจะมาเสียใจกับฉันทำไม คุณควรไปเจอผู้หญิงที่ดีกว่า เอาอย่างนี้ฉันจะทำแผนซ้อนแผน ให้คุณมาเจอภาพที่ไม่ควรเจอ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เลิกกันไป ทั้งสองคนนี้รักกัน แต่เขาไม่สามารถไปด้วยกันได้ เพราะมีคำว่าชะตากั้นอยู่

จนสุดท้ายเพื่อนผู้หญิงทนไม่ไหวเลยตัดสินใจไปบอกความจริง ผู้ชายคนนั้นก็มาถามว่าทำไมไม่บอกความจริงกับพี่ ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือเขาจะดูแลให้ถึงที่สุด จน ผู้หญิงคนนี้ตาย

ผมอยากสื่อว่ามันเป็นย่อนหยัง ไม่ได้สื่อเรื่องของรักไม่สมหวังเพราะว่าสภาวะทางสังคม ฐานะ หรือหน้าตา แต่เป็นเพราะสิ่งที่ข้างบนลิขิตมา มันให้แง่คิดว่า ตอนนี้คุณเลิกทะเลาะกันได้ไหม คุณรู้มั้ยชีวิตเหมือนเทียนที่จุดขึ้นมาแล้ว มันมีแต่สั้นลง และไม่รู้ว่าจะดับวันไหน คุณจงดีต่อกัน

แนวดนตรีเป็นอย่างไร

ไผ่ – “เป็นสมัยใหม่ จะมีอินดี้เข้ามาผสม ทุกวันนี้ผมว่ามันจะแยกเฉพาะดนตรีสมัยใหม่ สมัยเก่าไม่ได้แล้ว ผมว่าดนตรีมันเป็นศิลปะ มันไม่มีขอบเขต มันไม่มีสูตรตายตัว ว่าเพลงนี้ทำดนตรีขึ้นมาใหม่คิดใหม่ แล้วมันจะติดเทรนด์ มันแค่ลอง ว่าลองให้ฟังแบบนี้ดีไหม แบบนี้ชอบไหม

ฟีดแบ็กเป็นอย่างไร

ไผ่ – “โอเค ดีใจที่ตัวเองได้มีส่วนถ่ายทอดทั้งเสียงและเรื่องราวที่เราอยากให้เป็น ช่วยให้คนได้มีกำลังใจดีๆ ให้คนได้รักกัน เมื่อรักแล้วคุณต้องให้เกียรติกันด้วย ให้อภัยกัน

ทุกครั้งที่ปล่อยเพลงออกมาเราคาดหวังไหม

ไผ่ – “แต่ก่อนคิดว่าถ้าเกิดเพลงเราเขาไม่ฟัง มันก็เครียด ครูเพลงมาเห็นก็บอกว่าไม่เป็นไรอย่าไปคิดอย่างนั้น คนเราร้องเพลง ก็เหมือนปรุงอาหาร ปรุงไปแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้วว่าเขาจะกินหรือไม่กิน มันไม่ได้อยู่ที่เรา เราทำเพลงดีที่สุดแล้ว คุณตั้งใจทำงานให้เต็มที่ แค่หวังว่าคนที่ฟังเพลงเราแล้วเขาจะได้อะไรจากเพลงเรา ทำให้เขายิ้มได้ ทำให้เขามีกำลังใจ อย่างเพลง เป็นย่อนหยัง พอเขาเปิดฟัง เขาก็ต้องคิดว่าคงไม่ได้มีแค่กูมั้งที่อกหัก สู้เว้ย นี่คือสิ่งที่คนทำงานหวัง แต่เรื่องผลพลอยได้ ถ้าเพลงดังเราก็มีงานเพิ่ม

15 ปี‘ไผ่ พงศธร’ความพอดีคือสูตรสำเร็จ

ด้วยยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เรามีการตั้งรับ หรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ไผ่ – “ในมุมมองของผมนะ คนคนเดิมมันเปลี่ยนไม่ได้ จะให้เป็นแต่วัยรุ่นก็ไม่ได้ คนแก่แล้ว ต้องถามว่าเราจะเพิ่มอะไรลงไปมากกว่า ร้องเหมือนเดิม ดีไซน์อาจจะเปลี่ยนบ้าง แต่น้ำเสียงของคนเราจะเหมือนเดิม เพียงแค่ว่าเราจะใส่กิมมิกให้มีรสชาติ เราจะเปลี่ยนตามกระแสมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะอันนี้คือเรา เราทำสิ่งที่เป็นเรา เพียงแค่เราเพิ่มอื่นๆ เข้าไป เพราะคนที่ฟังเรา เขาก็ฟังเรามาตั้งนานแล้ว เขาฟังที่เราเป็นเรา

15 ปีในวงการของไผ่พงศธร เรียกว่าถึงจุดที่ประสบความสำเร็จหรือยัง

ไผ่ – “ความสำเร็จ คืออะไรยังไม่รู้จริงๆ นะ แต่เท่าที่ทราบคือ 15 ปีนี้เรามีงานทำ มั่นคงไหมก็ไม่เชิงนะ วันนี้ ประสบความสำเร็จไหม ไม่รู้ แต่ที่รู้สึกดีคือเรามีครูบาอาจารย์ มีบริษัทที่ดูแลเหมือนลูก มีเพื่อน มีทีมงาน ทุกคนที่ทำงานกันตั้งแต่ต้น ทุกวันนี้ก็ยังเห็นหน้ากันอยู่ ทำงานด้วยกันตลอด

กระบวนการเพลงไม่ใช่มีแค่นักร้อง คนแต่งเพลง แต่มีหลายขั้นตอน มีทีมงานเยอะมาก กว่าจะได้ 1 เพลงมันใช้เวลาเป็นปีครับกว่าจะมาเป็นอัลบั้ม แล้วพอออกมาก็มาเจอเทปปลอม ซีดีปลอมเต็มไปหมด สูตรสำเร็จของชีวิตมันไม่มีอยู่จริง ความพอดีต่างหากที่เรียกว่าสูตรสำเร็จที่แท้จริง อยู่ที่ความพึงพอใจ ถ้าพอดีก็จะพอใจ

เป้าหมายต่อไป ได้ตั้งเป้าไว้ไหม

ไผ่ – “เมื่อก่อนเคยคิดนะว่าจะทำธุรกิจ แต่เราไม่ได้อยากเดินทาง แล้วเราปฏิเสธความชอบ ของเราไม่ได้ คือการร้องเพลงนี่แหละ บางทีก็ มีคิดไปปลูกต้นไม้ ทำเกษตรที่บ้าน แต่ก็ไปไม่ได้ คิดถึงแฟนเพลง คิดถึงงานเดิมคือร้องเพลงนี่แหละ คนที่รักการร้องเพลงนะ อย่างน้อยขอได้จับไมค์นี่แหละมันมีความสุข ก็คิดว่าทำงานก็เหมือนไปเที่ยวแล้วกัน ส่วนเรื่องธุรกิจก็เลยไม่ได้คิดเลย แต่ก็มีคิดว่าอยากทำงานเบื้องหลังนะ อยากกำกับฯ อยากทำหนัง อยากปั้นนักร้อง

พลเทพ สารภิรมย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน