‘ไบค์แมน 2’คงความฮา ‘เต๋า’ให้ใจยอมเปลี่ยนลุกส์!

คอลัมน์ เสาร์สด

‘ไบค์แมน 2’ – หลังประสบความสำเร็จจาก “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” ในภาคแรกแล้ว เอ็มพิคเจอร์ส, เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ และ รฤก โปรดั๊กชั่น ก็ร่วมทุนสร้าง สานต่อความสนุกในภาค 2 กับภาพยนตร์เรื่อง “ไบค์แมน 2” ด้วยนักแสดงชุดเดิม

ได้แก่ ‘พีช’พชร จิราธิวัฒน์ (ศักรินทร์), ‘ฝน’ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล (จ๋าย), ‘เต๋า’สมชาย เข็มกลัด (ศักดา), เจนนิเฟอร์ คิ้ม (สุรีย์), ‘โอ๊ต’ปราโมทย์ ปาทาน (เอ), ค่อม ชวนชื่น (ลุงปรีชา), โรเบิร์ต สายควัน (หลง) ฯลฯ พร้อมด้วย ‘ตุ๋ย’พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับ คนเดิม โดยมี ‘ยอร์ช’ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ รับหน้าที่โปรดิวเซอร์

ทั้งนี้ผู้กำกับฯเผยว่า “พอทำภาค 2 ก็ต้อง หาให้เจอก่อนว่าอยากจะเล่าอยากคุยเรื่องอะไรกับคนดู เลยไปคุยกับพี่ยอร์ช-ฤกษ์ชัย ก็เลยมาเจอจุดนี้ อยากคุยเรื่องครอบครัวว่าคนในครอบครัวมีปัญหาอะไร ซึ่งไบค์แมนภาคแรกเป็นเรื่องการโกหกเพื่อให้ครอบครัวรู้สึกดีว่าตัวเองมีการงานดี เราเลยคิดว่ามันเป็นจักรวาลของการโกหกนั่นแหละ พอภาคที่ 2 ก็มีเรื่องโกหกที่จ๋าย(ฝน) โกหกพ่อ(เต๋า) ว่าตัวเองมีแฟนแล้ว เพื่อให้ไม่ถูกจับไปเจอคนอื่นที่พ่ออยากให้เจอ

พอโกหกก็กลายเป็นเรื่อง พ่ออยากเจอตัวแฟน จึงชวนศักรินทร์(พีช) ไปหา การโกหกนี้นำไปสู่ว่าทำไมถึงต้องโกหก เลยเจาะไปที่ครอบครัวของจ๋ายว่าที่โกหกเพราะพ่อดุมาก ชอบบังคับลูก อยากให้ลูกเป็นอย่างที่ต้องการ ซึ่งจ๋ายไม่ได้อยากเป็นอย่างนั้น แต่ไม่เคยคุยกับพ่อ เลยประเด็นที่ว่าบางทีปัญหาครอบครัวมาจากที่ไม่คุยกัน เรามักคุยกับคนอื่นทำดีกับคนอื่น แต่พอกับครอบครัวตัวเอง มักพูดแย่ๆ ใส่ โกหก ปิดบัง ทั้งที่เขาควรจะเป็นคนที่เราคุยและฟังด้วยมากที่สุด ก็เลยเป็นภาคสอง”

 

ภาค 2 เพิ่มอรรถรสมีบู๊ แอ๊กชั่นเข้ามา “ใช่ครับ เราพยายามทำให้เป็นแอ๊กชั่นคอมเมดี้ ถ้าสังเกตตั้งแต่ภาคแรกแอ๊กชั่นคอมเมดี้คือพระเอกพยายามหนีตัวที่พยายามเปิดโปง สังเกตดีๆ จะมีการไล่ล่าตลอดเวลา ภาคนี้ยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นแอ๊กชั่นที่ต้องออกไปช่วยชีวิตคน ไปแก้ปัญหาให้คน เพื่อมุขจะได้เปลี่ยนไปดูใหม่ขึ้น”

ควบคุมอารมณ์นักแสดงยังไง เพราะมีหลุดกันหลายฉากอยู่ “ที่จริงไม่ยาก ผมโชคดีมากที่ไบค์แมนนักแสดงทุกคนมีระเบียบวินัย อย่าง น้าค่อม นี่ นัดเที่ยงมาแปดโมงเช้า แล้วเขาไม่ได้มาเปล่า เขาอยากจะมาเล่น แล้วทุกคนทำการบ้านมาดี ทั้งพีช ฝน แม้กระทั่งพี่เต๋า(สมชาย) จะเป็นคนที่ทำการบ้าน

อ่านบทมาแล้วจะมีข้อเสนอแนะ เสื้อผ้ารายละเอียดเล็กน้อยเขาก็ยังทำการบ้านให้เรา อย่างตัวละครพ่อจ๋ายใส่อย่างนี้ดีกว่า เพราะเป็นคนอย่างนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีทีมงานชอบ แสดงว่าเขามีใจให้กับเรากับการทำงาน แล้วมันคุมไม่ยาก ตั้งใจมาทำงาน มีความสุขแล้วก็กลับไป ถือเป็นการทำงานที่แฮปปี้”

กับภาพจำ ‘พีช’ ขับวินมอเตอร์ไซค์ ภาคสองจะยังคงมีไหม ผู้กำกับกล่าวว่า “มีครับ ผมว่าหนักกว่าอีก ภาคแรกคนจำได้ว่าเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ภาคนี้โอเคเป็นหนุ่มแบงก์ แต่เขาก็ยังมีความเป็นไบค์แมนอยู่ในเรื่อง อันนี้เราอุบก่อน บอกไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องยังไง แต่สุดท้ายมอเตอร์ไซค์กับการบิดของเขา มันเป็นเรื่องจำเป็นในหนังอยู่ดี อันนี้เผลอๆ สำคัญกว่าภาคแรกด้วยซ้ำ ภาคแรกใช้แค่หาเลี้ยงชีพ ภาคสองเป็นการช่วยชีวิตคน”

ระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ประทับใจอะไรบ้าง “ผมประทับใจสองอย่างคือ ได้นักแสดงที่น่ารักที่ดี อย่างพี่เต๋า ตอนแรกผมเกร็งมาก ตอนที่ชวนเขามาเล่นจะชวนเขายังไง ทำเขาหัวล้านด้วย แต่พอคุยกันแล้วเขามาจริงๆ เราก็โห นี่คือ เต๋า-สมชาย รู้แล้วว่าทำไมเขาถึงเป็นที่รัก เพราะเขาเป็นคนที่พร้อมจะให้ใจในการทำงานทุกอย่าง เป็นคนที่เจ๋งคนหนึ่งในประเทศไทย

นี่คือสิ่งแรกที่ผมประทับใจในการทำหนังเรื่องนี้ว่าได้นักแสดงที่ดี สองมันเป็นความรู้สึกที่ดีที่เวลาเราเห็นคนดูหนังแล้วเขาเดิน หัวเราะ มีความสุขออกมา บางทีรู้สึกขนลุกว่าเราทำให้เขามีความสุขได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หนังประเภทอื่นให้ไม่ได้ มันฟินอ่ะ เวลาได้ยินเสียงหัวเราะในโรง แต่ถ้าเขาเงียบกริบกัน เราก็จะนอยด์ละ ทำไรพลาดไปเปล่า”

คอสตูมคาแร็กเตอร์หัวล้าน ของ ‘เต๋า-สมชาย’ มาจากใคร “ถ้าหัวล้านมาจากพี่ยอร์ชครับ เขาเป็นคนคิด เขารู้สึกว่าได้พี่เต๋า-สมชาย มาเล่นก็จริง แต่ทำไงให้รู้สึกว่ามันเด่น ให้รู้สึกว่าคนพูดถึง แต่อยู่ในคาแร็กเตอร์ด้วยนะ ไม่ใช่ว่าจะหัวล้านเพื่อตลกเท่านั้น แต่หัวล้านเพราะเขามีอายุ เป็นพ่อของลูก มีเรื่องเครียด เขาจะต้องดูแลกิจการที่เสี่ยงตาย คือมันมีเหตุผลที่เขาจะหัวล้าน”

คาดหวังยังไงกับ ไบค์แมน 2 เพราะภาคแรกกระแสตอบรับดีมาก ผู้กำกับฯกล่าวว่า “ลึกๆ แอบคาดหวังนะว่าจะดีจะเวิร์ก หวังลึกๆ ว่าคนจะชอบอย่างที่เราชอบ แต่เราก็ไม่กล้าคาดหวังหรอกครับ คืออะไรมันก็เกิดขึ้นได้ แต่ยังไงอยากให้ลองชมกัน”

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน