เอกชัย ไม่ป้อง หนังเดียว ลูกศิษย์ ผิดว่าไปตามผิด เตรียมลงใต้กราบขอโทษพระ
วันที่ 27 ต.ค. เอกชัย ศรีวิชัย จัดพิธีบวงสรวงหลังเรื่อง “มนต์รัก ดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ” ที่ หมู่บ้านวราบดินทร์ วงเเหวน ลำลูกกา เมื่อจบพิธีพี่ใหญ่ของศิลปินภาคใต้ เอกชัย ได้ให้สัมภาษณ์ถึง หนังเดียว เด็กปั้นของตนเอง อัดคลิปด่าพระ จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตในจังหวัดสงขลา
พี่ใหญ่ศิลปินภาคใต้
วันที่ 27 ต.ค. เอกชัย ศรีวิชัย จัดพิธีบวงสรวงหลังเรื่อง “มนต์รัก ดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ” ที่ หมู่บ้านวราบดินทร์ วงเเหวน ลำลูกกา เมื่อจบพิธีพี่ใหญ่ของศิลปินภาคใต้ เอกชัย ได้ให้สัมภาษณ์ถึง หนังเดียว เด็กปั้นของตนเอง อัดคลิปด่าพระ จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตในจังหวัดสงขลา
ถามถึงเรื่อง น้องเดียวหนังตะลุง ที่มีปัญหากับพระ
“เวลาไมค์มาจ่อที่เรา ไม่มีเรื่องเราเลย มีแต่เรื่องคนอื่นทั้งนั้นเลย จริงๆ เพิ่งโพสต์เฟซบุ๊กไปเมื่อวาน แล้วก็อธิบายใจความ ความหมายไปในเพจของ บุญรอบ ศรีวิชัย ไปอ่านดูได้ โดยสรุปรวม คือตัวเราเองเห็นคลิปตั้งแต่วันแรกแล้ว ก็ไม่สบายใจตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าก็ได้พูดคุย แต่ว่าช่วงนั้นเขากำลังร้อนมาก กำลังของขึ้น พูดเท่าไหร่ก็ไม่ยอม จนกระทั่งล่าสุดนี้ เราได้กระหน่ำพระมารดาไป 3-4 คำ ถึงจะได้เบาลงมาครับ เราก็คุยกับเขาส่วนตัวนั้นแหละ คุยตั้งแต่วันแรกแล้ว”
มันเกิดความเข้าใจผิดตรงไหนอย่างไร
“เรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่ถูกเลย ลูกศิษย์ทุกคน เด็กใต้ทุกคนที่เราสอนมา เราสอนให้รู้จักผิดชอบชั่วดี แต่ว่าเราไม่สามารถบอกให้เขาทำในสิ่งไหน ที่ว่าผิดนะ เฮ้ย อย่าทำ แต่เมื่อมันทำไปแล้วก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ทำ บางทีคนเวลาโมโหก็ขาดสติ
ซึ่งทุกอย่างเราก็บอกว่า เดียวน้าเอกเจอมาหมดแล้วลูก โดนทุกรูปแบบแล้ว โดนมาหนักแล้ว ก็พยายามที่จะบอกว่าต้องใจเย็นๆ คือจริงๆ อยากตบคนข้างๆเขา คือเดียวไม่ได้รู้เรื่องหรอก ถ้าคนไม่มาบอก ไอ้คนมาบอกน่าฉีกปาก มันน่าโมโห”
กราบขอโทษ
เรื่องราวได้เป็นไปตามที่พระออกมาชี้แจงไหม
“เราไม่รู้ เพราะว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ แค่มีคนมาบอกว่าพระพูดแบบนี้ แต่พระจะพูดแบบไหน พูดยังไงก็ต้องปล่อย เราเป็นศิลปิน เราต้องฟังอย่างเดียว แล้วต้องทำหน้าที่ของเราอย่างเดียว เพียงแต่ว่า การรับฟังแล้วสะท้อนกลับลงไป ผมว่าวิธีการคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางทีเขาอาจจะเซนซิทีฟแล้วอาจจะต้องการสมาธิ เพราะหนังตะลุงมันต้องใช้สมาธิสูงมากเหมือนกันนะ แล้วบางทีมีอะไรมากระทบจิตใจ ก็อาจจะขึ้นง่าย”
เราได้ถามเขาไหมว่าด้วยเหตุผลอะไร ถึงปี๊ดขนาดนั้น
“เขาอธิบายว่ามีคนมาว่าเขาแบบนี้ แล้วเขาก็โมโห คำถามก็เป็นคำถามเดียวกับที่พวกเราถามพี่เอกนี่แหละ เราก็ถามเขาแบบนี้ ทำไมมันต้องโกรธขนาดนั้น ได้รับคำตอบว่าเขาโมโห คำว่าโมโหมันกว้าง สูงต่ำไม่รู้ว่าเพดานไหน แต่ในเบื้องต้นก็พูดกับเขาทุกวิถีทาง ว่าหนูต้องออกมาขอโทษกับสังคม ออกมาขอโทษคนรอบข้าง ยังมีบอกว่าแต่ผมไม่ขอโทษพระองค์นั้นนะ เราก็ เออ แล้วแต่มึงก็แล้วกัน ซึ่งเขาก็ขอโทษไปแล้ว”
ตอนที่เราโทรไปหาเขา เขาเครียดไหม
“เราว่าเขาเครียดมาก คืออธิบายยาก เพราะเวลาคุยกัน เราคุยกันแค่ทางโทรศัพท์ เราไม่ได้เจอหน้ากัน พยายามที่จะบอกเขาว่าหนูอย่าทำแบบนี้เลย มันไม่ดี พยายามจะบอกให้ในทิศทางที่ถูกนั้นแหละ”
จะแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง เพราะทางพระก็ร่อนหนังสือว่าไม่ให้จ้างเดียวแล้ว
“ไม่มีปัญหาหรอก ถ้าวันหนึ่งเราไปนอบน้อมต่อท่าน เพราะหนังสือที่ไป เป็นหนังสือขอความร่วมมือของเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเรามองว่าเดี๋ยวเราก็น่าจะลงไปเองด้วย ไม่ใช่ลงไปเป็นกาวใจ แค่เราจะลงไปขอโทษด้วยตัวเอง”
เรื่องเงินที่บอกว่าจ้าง 8 หมื่นบาทจริงไหม
“ไม่นะ เพราะว่าหนังตะลุง ราคามันก็อยู่ไล่ๆกันแหละ มันไม่ได้เป็นตัวกำหนดหรอก ว่าเงิน 8 หมื่นแล้วด่า ผมมองว่าคนที่สื่อสารมากกว่า ตัวที่เป็นแม่ค้าเนี่ย น่าฉีกปากมาก เราไม่รู้ แต่เรามองว่าก็คงจะไม่ใช่ราคาเดิม ก็คงเยอะกว่าเดิม มันถึงเคืองกันขนาดนี้”
พร้อมหน้า
มันกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัฒนธรรมหนังตะลุงไหม
“ทุกอย่างมันกระทบหมดแหละครับ ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มันกระทบหมด”
ได้ถามน้องเดียวไหม ว่างานยังมีอยู่ไหม หลังจากที่เกิดเรื่อง
“ไม่ถาม เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา ในส่วนหนึ่งอยากจะบอกว่า อยากให้เขารู้และสัมผัสด้วยตัวของเขาเอง ในเมื่อไหร่เราสอนแล้วก็บอกไปทุกๆเรื่องแล้ว แนะแนวไปแล้วว่าเป็นแบบนี้ๆ ถ้าเขายังดื้อที่จะทำ ก็ให้เขาไป”
ยังไงเราก็ต้องออกโรงเคลียร์เองใช่ไหม
“ไม่เชิง เราไม่ได้ออกโรงเคลียร์ เราแค่ออกมาปราม ว่าอย่างงี้มันไม่ถูกนะลูก จริงๆนักร้องใต้ทุกคนแหละ เวลามีปัญหาต้องเป็นเรานี่แหละ คอยมาบอกว่าอย่างนั้นมันไม่ถูก จริงๆไม่ได้เก่ง แต่ตัวเองประสบการณ์มี เคยโดนมาหนักแล้วหลายๆอย่าง ไม่อยากจะให้ลูกๆโดน แล้วก็ทำผิด
คือศิลปินมันจะมีอยู่แค่นี้ เดี๋ยวก็เรื่องญาติ เรื่องพ่อ เรื่องแม่ เรื่องลูก คือเราสงบสติอารมณ์ไม่อยู่ มันก็จะเจอแบบนี้ ตัวเราเองก็ไม่ได้บรรลุ แต่ปัจจุบันเราอารมณ์เย็นลง ไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่อยากให้เด็กๆมาเจอปัญหาแบบนี้ จริงๆทุกปัญหามันหลีกเลี่ยงได้หมดเลย
ถ้าบุคคลคนนั้นไม่มาพูด เดียวก็ไม่ได้ยิน เพราะตามันมองไม่เห็นอยู่แล้ว แล้วถ้าได้ยินแล้วตัวเองรู้จักยับยั้งชั่งใจ ก็จะไม่เกิดปัญหา แต่เวลานี้ผมเชื่อว่าจากที่เด็กอยู่กับผมมาตั้งแต่ 8-9 ขวบ เราไม่ค่อยได้เห็นความก้าวร้าวในตัวของเขา จิตใต้สำนึก สามัญสำนึกเขาเป็นเด็กที่ดีคนหนึ่ง อยากจะให้แฟนคลับทุกคนมองถึงความสุข ที่เราเสพสุขจากเขา ได้หัวเราะจากเสียงของเขา ได้ดูลีลาการเล่นหนังตะลุงของเขา วันนี้เขาผิดไปแล้ว ก็ให้โอกาสเขาอีกหน่อยหนึ่ง เพื่อจะให้เขาได้เป็นผู้สืบสานงานวัฒนธรรมต่อเนื่องต่อไป แต่ผมเชื่อว่า เหตุการณ์คงจะไม่เกิดขึ้นแล้ว เขาก็น่าจะเข็ดทั้งชีวิตนี้แล้วแหละ”
ที่เราบอกว่าลงไปพูดคุย จะไปตอนไหน
“เวลาเราไปได้ เราก็ต้องไปอยู่แล้ว โดยปกติเรามีเวลาก็ไปเจอผู้หลักผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพระผู้ใหญ่ ปกติเราก็ไปกราบท่านอยู่แล้ว แต่เที่ยวนี้ก็คงไปกราบท่านอะแหละ”
พระท่านนี้เราก็รู้จักใช่ไหม
“รู้จักกับท่านเจ้าอาวาสวัดนาทวี เป็นอาอาจารย์เราอยู่แล้ว แต่ว่าวัดที่เขาไปมีเรื่อง เราไม่รู้จัก แต่ว่าพระแต่องค์ เขาพูด ก็สอนเราหมดแหละ ให้นิ่ง แต่คนไม่นิ่งคือคนของเรา”
ยืนยันว่าเรื่องไม่ได้เกิดจากเงิน 8 หมื่นใช่ไหม
“เราว่ามันไม่น่าจะเกี่ยว มันเป็นเรื่องของคำพูดมากกว่า แต่เราไม่รู้ว่าเขารับงานคืนละเท่าไหร่นะ แต่ปกติเรตมันก็ไม่เหมือนกันหรอก เขาเดียววงเขาใหญ่มาก เป็นวงดนตรีย่อมๆเลย”
ไม่ถือว่าแพงเกินไปใช่
“งานเขามีไปถึงปี 66 แล้ว คือมันอยู่ที่พอใจ คนจ้างเขาก็พอใจ แล้วมันก็ไม่ได้ค้ากำไรอะไรมากมาย เอาอย่างนี้ เรามาคิดถึงวันนี้ว่า เรารับงานขนาดนั้น ขนาดนี้ เราก็ไปถามดาราเซเลปใหญ่ๆดู ว่าแต่ละคนรับงานยังไง รับเงินยังไง คือเปรียบเทียบแล้ว ทุกคนสะสมชื่อเสียงมา มันใช้เวลากันมานานมาก เพราะฉะนั้นแล้วเราก็เลยมองว่า ราคามันอยู่ที่ความพอใจของเจ้าภาพ”
