“ได้แล้วค่ะ แต่จริงๆ ยังไม่อยากบอก เพราะกลัวมีการคลาดเคลื่อน” ว่าที่เจ้าสาว “แก้ม”กวินตรา โพธิจักร เผยถึงฤกษ์วิวาห์กับแฟนหนุ่ม “หนุ่ม”รชต ชัยจันทร์ อดีตนักฟุตบอล
แย็บถามว่าฤกษ์นี้ไปดูด้วยกัน แล้วผู้ใหญ่รับทราบใช่ไหม แก้มตอบรับ “ใช่ค่ะ”
อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ครั้งก่อนบอกว่าน่าจะแต่งปลายปีนี้ “ใช่ค่ะ วันที่ 24 ธ.ค.นี้ พอดีเป็นวันเกิดแก้มด้วย ไม่ได้ไปดูฤกษ์ว่าปีนี้จะมีเกณฑ์ได้แต่งงานไหม แต่เราอยากได้วันนี้ เลยเอาวันนี้ไปให้พระดูว่าเราสองคนแต่งงานกันได้ไหม”
นี่ก็ครึ่งปีแล้วนะ “ใช่ค่ะ ตอนนี้แก้มยังไม่รู้สึกว่าต้องเตรียมอะไร ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนตอนที่เขาขอแต่งงาน ทางเขาเร่งกว่าแก้มอีก แต่ด้วยคอนเซ็ปต์งานที่เราวางไว้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ อยากเชิญคนที่เราเคารพนับถือจริงๆ เพราะคู่เราก็คบกันมานานแล้ว การแต่งงานเป็นแค่การประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว”
ธีมงานคิดไว้หรือยัง “แก้มอยากได้เรียบง่ายที่สุด จ้างออร์แกไนซ์ แต่แก้มจะบอกเขาว่าเราอยากได้แบบไหน ชุดเจ้าสาวเป็นสิ่งเดียวที่แก้มขอว่าอยากให้พี่คนนี้ตัดให้ เพราะเขาดูแลเรื่องชุดให้แก้มตั้งแต่เข้าวงการ แล้วเป็นคนเดียวที่แก้มเชื่อใจไว้ใจ เพราะตอนที่แก้มไปยืมชุดที่ไหนก็ไม่มีใครให้ ด้วยความที่เรายังไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย แต่พอมาหาพี่โอม ฟินาเล่ฯ เขาเปิดใจต้อนรับ แก้มเลยเข้าไปคุย เขารู้สไตล์ของเราด้วย”
งานจะจัด 2 วันหรือวันเดียว ว่าที่เจ้าสาวเผยว่า “จัดกรุงเทพฯ ครั้งนึง และที่หนองคายอีก 1 วัน คือจัดเช้าเย็น 2 รอบ เป็นการแก้เคล็ดด้วย เพราะไปดูฤกษ์มา พระบอกว่าจะได้แต่ง 2 รอบ เลยถือเป็นการแก้เคล็ด คือแต่งที่กรุงเทพฯ ก่อน แล้วปีหน้าดูฤกษ์แต่งที่ต่างจังหวัดอีกรอบ แก้มไม่ซีเรียสกับการแต่งงาน แต่ซีเรียสกับการใช้ชีวิตคู่มากกว่า”
“ส่วนสถานที่จัดงาน ที่มองไว้ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไม่ใช่โรงแรมเลย อยากได้สถานที่ที่แบบว่าเดินไปไหนก็รู้จักหมด ไม่อยากเดินไปตามโต๊ะ คือที่กรุงเทพฯ ดูไว้แล้ว 3 ที่ แต่ยังไม่ได้ตกลงว่าเอาที่ไหน ส่วนที่หนองคายยังไม่ได้จองค่ะ ส่วนเรือนหอไม่ได้ซีเรียส เพราะมีที่ต่างจังหวัด ไม่ได้มีเรือนหอที่กรุงเทพฯ”
จะไม่ใช่แค่แฟนแล้ว ตอนนี้ต้องปรับอะไรกันบ้าง “ไม่ต้องปรับค่ะ รู้จักกันมานาน แล้วโชคดีที่แก้มเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรก็จะแสดงออกและพูดเลย เขาก็จะรู้ว่าเราชอบไม่ชอบอะไร เราค่อนข้างคุยกันเยอะ เขาเป็นคนไม่พูด ติดเล่น แต่ถ้าไม่พอใจจริงเขาจะเงียบ รอให้เราใจเย็นแล้วค่อยมาคุย เพราะรู้ว่าถ้าพูดตอนนั้นต้องทะเลาะกันแน่นอน จนบางครั้งแก้มลืมไปแล้วเขาถึงมาพูด (หัวเราะ)”
