รอมแพง เผยตัวละครน่าสนใจใน พรหมลิขิต รับกดดันเขียนเรื่องต่อ บุพเพฯ

เพิ่งคว้ารางวัลซีรีส์สุดฮิตระดับอินเตอร์ “Special Award for Foreign Drama” ที่ ประเทศญี่ปุ่น สำหรับนักเขียนคนเก่ง รอมแพง เจ้าของนิยาย “บุพเพสันนิวาส” ที่โด่งดังสุดๆ และล่าสุดกับนิยายเรื่องใหม่ภาคต่อบุพเพฯ ที่แฟนๆ เฝ้ารอคอยอย่าง “พรหมลิขิต”

คลิกติดตาม ข่าวบันเทิงฮอตๆ ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้เจ้าตัวเตรียมมาร่วมงานเสวนา “จากออเจ้า เข้าสู่ พรหมลิขิต” ที่ ทางซีเอ็ดได้จัดขึ้น แต่ก่อนจะถึงงานเสาวนา มีบทสัมภาษณ์สุดพิเศษ คำถามจากแฟนออเจ้าถึง “รอมแพง” ให้แฟนๆ ได้ลุ้นกันว่า “พรหมลิขิต” จะสนุกน่าติดตามแค่ไหน!!

การเขียนเรื่องต่อจาก “บุพเพสันนิวาส” สู่ “พรหมลิขิต” ยากและกดดันไหม?
“ถือว่ายากพอสมควรจากเนื้อหาในเรื่อง แต่ก็สามารถเขียนได้ เพราะเราได้สร้างคาแร็กเตอร์ตัวละครที่ชัดเจนไว้ก่อนแล้ว มีภูมิหลัง ตลอดจนความคิดอ่านของตัวละคร แค่รอให้สถานการณ์เกิดขึ้น แล้วนำพาให้ตัวละครดำเนินไปตามสถานการณ์นั้น สำหรับความกดดันในช่วงแรกๆ ยังไม่มี แต่พอเวลาผ่านไปก็มีความกดดันบ้าง เพราะมีการเร่งการทำงานเข้ามา แต่ก็ได้พยายามทำออกมาให้ดีที่สุดค่ะ

“เกศสุรางค์” ในพรหมลิขิต บทบาทใหม่จะมีสีสันเหมือนหรือแตกต่างจากบุพเพฯ?
“สำหรับตัวเกศสุรางค์นั้น คาแร็กเตอร์ยังคงเหมือนเดิมค่ะ มีความสดใสเสมอ ประหนึ่งอยู่ทุ่งลาเวนเดอร์ แม้จะมีบทบาทใหม่ในหน้าที่ของแม่ แต่ก็จะเป็นแม่ที่สนุกสนาน และเป็นเพื่อนกับลูกได้”

ชอบตัวละครตัวไหนที่สุด?
“พระ-นางของเรื่องก็ชอบค่ะ แต่ที่ชอบตัวละครที่สร้างสีสันคือสองยายหลาน “ยายปุยและแม่กลิ่น” แม้จะเป็นตัวร้ายแต่ก็มีความน่ารัก สำหรับยายปุยก็จะมีนิสัยน่ารัก ปากร้ายใจดี ส่วนแม่กลิ่นก็มีความเป็นชาวบ้าน จะมีความขัดแย้งในตัวเอง จนบ้างครั้งก็จะไม่เข้าใจว่าทำไม่ตัวเองถึงไม่ชอบพุดตาน และอีกตัวละครที่ชอบก็คือ “พุดตาน” ค่ะ”

“พุดตาน” มีความสำคัญอย่างไรใน “พรหมลิขิต”?
“สำหรับ “พุดตาน” จะเป็นตัวหลักที่จะดำเนินเรื่อง ที่จะเข้าไปเปลี่ยนชีวิตของตัวละครอื่นในเรื่อง ตลอดจนตัวเอง ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีมีสีสันและน่าติดตามค่ะ”

ถ้าให้เป็นตัวละครสักตัวในเรื่องนี้ อยากเป็นตัวไหน?
อยากเป็น “เกศสุรางค์” เพราะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุข โดยมีส่วนผสมความเป็นตัวเองเข้าไปในตัวของเกศสุรางค์ หรือแม้กระทั่งพุดตานก็ตาม ยังความเป็นตัวของตัวเองเข้าไปด้วยค่ะ”

กว่าจะมาถึงวันนี้ของ “พรหมลิขิต” มีอะไรจะบอกแฟนที่ติดตามไหม?
“ทั้งสองเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น “บุพเพสันนิวาส” หรือ “พรหมลิขิต” ได้ตั้งใจเขียนขึ้นมา เพื่อให้ผู้อ่านได้สัมผัสประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือในบทประพันธ์ ตลอดจนความคิดอ่าน รสนิยม ที่แตกต่างกันไป พร้อมรับอรรถรสจากการอ่านเรื่องนี้ โดยเฉพาะ “พรหมลิขิต” ถือเป็นส่วนต่อขยายจากบุพเพฯ”

“ถ้าเทียบความสนุกในการพลิกไปหน้าประวัติศาสตร์นั้น บุพเพฯ จะมีความเข้มข้นในไทม์ไลน์ของประวัติศาสต์มากกว่า ส่วน พรหมลิขิต จะเน้นความต่อเนื่องที่มาจาก บุพเพฯ สุดท้ายนี้อยากให้แฟนนักอ่านทุกคนติดตามอ่านพรหมลิขิต และสนุกสนานไปกับเรื่องนี้นะคะ”

สำหรับงานเสวนา “จากออเจ้า เข้าสู่ พรหมลิขิต” ในงาน Book Festiwow วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายนนี้ เวลา 13.00-14.00 น. ที่ ฮอลล์ ชั้น 4 เซ็นทรัล พลาซา พระราม 2

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน