ล้วงความลับ! ผู้กำกับ ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค เผยที่มา ทำยังไงถึงได้ ชมพู่ อารยา มาเป็น เจ๊น้ำ
ล้วงความลับ! – เรียกว่าเป็นเซอร์ไพรส์และกระแสฮือฮาตั้งแต่เปิดตัว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” นางเอกซูเปอร์สตาร์ มาเป็นหนึ่งในนักแสดงนำ “ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค” ภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่องล่าสุดจากค่ายจีดีเอช
คลิกติดตาม ข่าวบันเทิงฮอตๆ ได้ที่นี่
แต่ที่ดับเบิ้ลเซอร์ไพรส์ไปอีก เมื่อทีเซอร์เปิดตัวนางเอกดังในบทบาท เจ๊น้ำ แม่ค้าผัดข้าวริมถนน ต่อปากต่อคำลูกค้าชนิดถึงพริกถึงขิง กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน จนเป็นที่มาของความสงสัย ว่าอะไรที่ทำให้ผู้สร้างกล้าที่จะชวน “ชมพู่ อารยา” มารับบทอันห่างไกลตัวเช่นนี้!
ล่าสุด “ข่าวสดออนไลน์” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “เติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม” ผู้กำกับ “ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค” ถึงความกล้า ความบ้า และความเสี่ยง พร้อมล้วงความลับ! ที่ทำให้ได้ซูเปอร์สตาร์ตัวแม่ “ชมพู่ อารยา” มาร่วมงานสมความตั้งใจ
เติ้ล-กิตติภัค ทองอ่วม ผู้กำกับฯ
ทำไมต้องเป็น ชมพู่ อารยา รับบท เคที่ และ เจ๊น้ำ ในหนัง?
“ก่อนอื่นใดคือตั้งธงไว้แล้วว่าคนที่จะมาเล่นเป็น 2 ตัวละครนี้ต้องเป็นซูเปอร์สตาร์ แน่นอนในบ้านเรามีองค์แม่อยู่ไม่กี่คนที่นึกออก แต่ที่นี้เราดูที่ตัว เคที่ ก่อนว่าใครที่จะมีบารมีเป็นตัวนี้ได้ โดยที่คนดูดูแล้วไม่ต้องตั้งคำถามว่านี่คือซูเปอร์สตาร์ตัวจริง แต่ที่นี้สำคัญเลยใครที่เล่นเป็นเจ๊น้ำ บทเจ๊น้ำมันไม่ใช่แค่ว่ามาผัดข้าวขำๆ ยังสวยอยู่ แล้วมาแอ๊กติ้ง เจ๊น้ำสำหรับเรามันคือคนจริง หมายถึงว่าคนที่มีชีวิตแบบนั้น อยู่ริมถนน วันๆ ผัดข้าว รับมือกับลูกค้านั่นโน่นนี่”
“เรารู้สึกว่าคาแร็กเตอร์มันสนุก ตอนแรกยังไม่ได้ระบุว่าจะมีอาชีพอะไร ยังไม่ได้เป็นคนผัดข้าว แต่คิดว่าแค่ว่าอะไรที่มันจะฉีกและทำให้เขาได้แสดงอะไรมากมาย กลายเป็นว่าแม่ค้าผัดข้าวนี้แหละลงตัวสุด คาแร็กเตอร์มันดูมีสีสันด้วย”
“สิ่งที่เราเขียนไปในบทคือบียอนด์ฟรอนเทียร์ เรียกว่าเป็นภาพที่ลงไปในขุมนรกที่ซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งเขาจะเป็นได้ เราก็คิดว่ามันมีไม่มากหรอกคนที่เขาจะยอมทำแบบนี้ เอาตามแง่ความเป็นจริง มันเสี่ยงเหมือนกันกับบารมีที่เขาสร้างมา แล้วต้องมาเล่นอะไรอย่างนี้ ซึ่งมันวัดดวงมาก ถ้าไม่เวิร์กขึ้นมาก็มีสิทธิ์ทำเขาพังเหมือนกัน”
“หลังจากทำบทเสร็จแล้วผู้ใหญ่อ่านบททุกคนสนุกและตลก แต่คอมเมนต์คือไปในทางเดียวกันเลยว่า…ใครจะยอมเล่น กังวลจนกระทั่งว่าหรือต้องเปลี่ยนบท ปรับมั้ยให้ตัว เคที่ ที่เป็นซูเปอร์สตาร์ไม่ได้ต้องเป็นตัวแม่สวยงามขนาดนั้น อาจจะเป็นทางอื่น แต่เรารู้สึกว่ามันสนุกแล้ว ไม่อยากปรับเลย เดี๋ยวลองไปถามก่อน ในหัวเราก็ปึ้งมาว่า “ชมพู่ อารยา” มั้ย อยากลองนาง”
“ความที่เราตามงานของชมพู่อยู่แล้ว แต่ช่วงนั้นเขาไปเดินพรมแดงพอดี แล้วเรารู้สึกว่าออร่าของเขาคือ เคที่ มากๆ แต่ที่นี้คือแล้วชมพู่เนี่ยนะจะมาเป็นเจ๊น้ำ ย้อนกลับไปที่ว่าเราเคยดูงานเขามาตลอด ฟีลลิ่งสัญชาตญาณข้างในคือเขามีความเถื่อนในตัวบางอย่าง มีความห่าม ช้งเช้งได้ เลยรู้สึกว่าอยากเสี่ยง ตัดสินใจโทร.หา “พลอย หอวัง” เราสนิทกัน แล้วเขาอยู่ในสังกัดผู้จัดการเดียวกันคือคุณหวานเจี๊ยบ ถามก่อนว่าชมพู่ยังรับงานแสดงอยู่มั้ย พลอยก็บอกว่ามันก็น่าจะมีสิทธิ์นะพี่”
“จากนั้นพลอยก็ไปคุยกับคุณหวานเจี๊ยบให้ เสร็จปุ๊บคุณหวานเจี๊ยบก็ขับรถไปหาชมพู่เลย แล้วมันเป็นโชคชะตามาก คุณหวานเจี๊ยบมาเล่าให้ฟังว่า รู้มั้ยตอนอยู่ที่คานส์ชมพู่แพลนไว้แล้วว่า ถ้ากลับมาเมืองไทยก็จะให้หวานเจี๊ยบหาอะไรให้เขาเล่นอันหนึ่ง แล้วเราเป็นคนที่ติดต่อเขาไปทันทีหลังจากที่เขากลับมาเลย”
เอาจริงๆ มูเตลูที่ไหนมาไหม?
“มูค่ะ(หัวเราะ) มูจริงๆ ที่องค์พระพิฆเนศทั้งด้านหน้าและด้านบนของบริษัทฯ ก่อนหน้าเวลาไหว้คือจะขอให้ได้คนที่ดีที่สุดมาอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่วันที่จะไปคุยกับชมพู่ที่คอนโดฯ พี่เก้ง(จิระ)กับป้ากบ พีอาร์ บอกว่าให้เราระบุไปเลยถ้าอยากได้เขามาเล่น(หัวเราะ) นั่นคือครั้งแรกเลยที่พูดว่า “ขอให้ ชมพู่ อารยา อัลเบอร์ตา ฮาร์เก็ต มารับบทนี้” คือจัดชื่อเล่น ชื่อจริง และนามกสุลเต็มๆ เลย แล้วสุดท้ายเขาก็เล่น(ยิ้ม)”
วินาทีที่ “ชมพู่ อารยา” เซย์เยส?
“กรี๊ดก่อน ดีใจมาก แล้วพอมาบอกคนอื่นก็คือกรี๊ดกร๊าดกันมาก ทั้งหมดทั้งปวงจากการมูเตลูนของฉัน จำเป็นต้องพูดนะคะ เรื่องแบบนี้สำคัญมากในการทำภาพยนตร์ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมาหมด โดยเฉพาะเรื่องดวง(หัวเราะ)”
ขอบคุณภาพ IG : chomismaterialgirl และ จีดีเอช559
