วันที่ 21 เม.ย. ที่ลานลิฟต์แก้ว ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ อ้อม-กานต์พิศชา เกตุมณี นักแสดงสาว นางเอกหนัง “แม่เบี้ย” ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานเปิดตัวสถานความงาม กรณีมีคนเห็นไปต่อยมวยกับนักแสดงหนุ่ม โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษว่า กับพี่โน่นั้น เรามีผู้จัดการคนเดียวกัน ความสนิทก็สนิทแบบคนที่มีผู้จัดการคนเดียวกัน ไม่มีไปไหนมาไหนด้วยกัน มีแต่ไปแจมร้องเพลงกันบ้างเท่านั้น ขณะที่การไปชกมวยที่ยิมนั้น เราได้ไปก็เพราะพี่โน่ แต่ไม่ได้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม มีเจอกันบ้าง
เมื่อถามว่ารู้สึกว่าเขามีหยอดหรือจีบเราไหม อ้อมตอบว่า ไม่นะคะ ปกติ ไม่ได้มีจีบอะไร คืออ้อมเกร็งนะที่เป็นข่าวกับพี่โน่ เพราะพี่เขาเป็นข่าวกับสาวๆ หลายคน ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรตามที่ข่าวออกไป เราสองคนเป็นพี่น้องที่มีผู้จัดการคนเดียวกันเท่านั้น
ต่อข้อถามหลังมีข่าว ได้คุยกับโตโน่หรือยัง อ้อมตอบว่า ไม่ได้คุย แต่ขำๆ กับพี่เมย์ ผู้จัดการ ว่ามีข่าวแบบนี้ได้ยังไง ส่วนจะมีแฟนคลับพี่โน่โจมตีเราหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาเคยเจอแฟนคลับพี่โน่บ้างแล้ว น่ารักกันทุกคน ส่วนที่บางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการสร้างกระแสเพราะมีผู้จัดการคนเดียวกันนั้น แล้วแต่คนคิด แต่อ้อมบริสุทธิ์ใจ มันไม่ได้เป็นไปตามที่ข่าวออกไป
เมื่อถามว่ากับโตโน่มีโอกาสพัฒนาไหม อ้อมตอบว่า ไม่มีค่ะ ขณะเดียวกันส่วนตัวก็ยังไม่ได้สนิทกับหนุ่มคนไหน หัวใจยังว่าง แต่ยอมรับว่ายังไม่เปิดใจให้ใคร กลัวผู้ชายเจ้าชู้ ส่วนพี่โน่นั้น ไม่รู้ว่าเจ้าชู้หรือเปล่า เมื่อถามย้ำว่าปิดประตูตายสำหรับโตโน่เลยไหม ดาราสาวกล่าวว่า ใช่ค่ะ(ยิ้ม)
วันเดียวกัน ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน โตโน่-ภาคิน มาร่วมงาน Thailand Comic Con 2017 จากนั้นให้สัมภาษณ์ข่าวซุ่มคบนางเอกสาวแม่เบี้ย อ้อม-กานต์พิศชา หลังถูกจับตามอง เพราะสาวอ้อมไปต่อยมวยที่ยิมเดียวกันว่า แปลกใจว่าข่าวมาได้ไง (หัวเราะ) คงอยากให้ผมมีแฟน แต่ไม่ใช่ อ้อมเป็นน้องสาว เคยมาช่วยเล่นเอ็มวีให้วงเรา ในเพลงยังไงก็โดน เขาตั้งใจทำงาน มีน้ำใจ แต่ไม่ใช่แฟน ผมไม่ได้จีบ
ตามข่าวเขาไปต่อยมวยกับเราจริงไหม
ไม่จริงเลย คือว่าอ้อมไป แต่เราไม่ได้ไปเจอกัน ไปคนละวัน เรียนที่เดียวกันแต่ไม่เคยไปด้วยกัน ไม่เคยไปเจอกัน อาจเคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อน 2-3 ปีแล้วมั้งครับ ผมว่าอาจจะมีใครเห็นภาพว่าอ้อมอยู่ยิมมวยนี้ อาจจะคิดว่าผมอยู่ด้วยมั้งครับ
มีผู้จัดการคนเดียวกันอาจสปาร์กกันง่ายขึ้น
ไม่ครับ ยิ่งเป็นผู้จัดการคนเดียวกันยิ่งไม่ได้เลย มันไม่ดี ตอนนี้จะเอาเวลาไหนไปจีบ เราก็ทำงานตลอด ถามว่าถ้าไม่ใช่อ้อมแล้วผมมีใครหรือเปล่า ยังไม่รีบ ถ้ามีแล้วจะบอก ตอนนี้ขอทำงาน กำลังมีความสุขดี และอยากพัฒนาตัวเอง เรื่องความรักปล่อยให้เวลาเป็นตัวบอกเอง ตัวผมไม่ได้โฟกัสอะไรมาก
รู้สึกอย่างไรบ้างที่งานรุ่งแต่รักไม่แฮปปี้
เราไม่ได้รีบ ถ้าเราขวนขวายต้องมีแฟนก็ว่าไปอย่าง การที่เราทำงานเยอะขนาดนี้ เวลาที่เราต้องดูแลใครสักคนนึง คนคนนั้นต้องมีความเข้าใจเรามาก ต้องอดทนเยอะ ไปไหนมาไหนก็ลำบาก เวลาก็ไม่มี ดังนั้นผมเลยคิดว่าให้เวลาเป็นตัวบอกคนที่พร้อม ที่ใช่ดีกว่า แต่ตอนนี้ไม่ได้รีบครับ
เราโตขึ้นด้วยหรือเปล่า มุมมองความรักเลยเปลี่ยนไป
ก็จริงนะ หมายถึงว่าเราไม่ได้ใจร้อนเรื่องนี้ ความรักจะมากจะน้อย มันไม่ได้เป็นความหลง ไม่ใช่แค่เห็นเธอสวยเราหล่อ คุยกันคบกันเพราะหน้าตา ต่อไปนี้เป็นเรื่องของนิสัยใจคอ การที่จะคบกันได้นานไม่นาน ความเข้าใจเป็นส่วนสำคัญ และเวลาจะเป็นตัวบอกทุกอย่างมากกว่าคำพูด ถ้าผมมีความรักก็จะทุ่มเทเหมือนเดิม ผมจะรักคนที่ผมรักมากที่สุด รักคนเดียว และจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะดูแลได้
แรงเชียร์หรือแรงต้านจากแฟนคลับ มีผลต่อการตัดสินใจเรื่องความรักของเราไหม
ไม่นะ ผมโชคดีที่แฟนคลับรักผมด้วยนิสัย ด้วยผลงาน แฟนๆที่ตามไปดูคอนเสิร์ต เพราะเราเล่นมันส์ เขารักในความสู้ชีวิต เป็นกันเอง แต่เรื่องของความรักหรือการมีแฟน ถ้าเกิดเรามีจริงๆ ก็อาจจะมีผล แต่ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมด แฟนๆรักที่เราเป็นเราครับ
