ร่วมปิดฉาก สตาร์ วอร์ส คลายทุกปมปริศนาสงครามดวงดาวที่ยาวนานกว่า 40ปี
ร่วมปิดฉาก สตาร์ วอร์ส – เตรียมไลท์เซเบอร์ของคุณให้พร้อม! แล้วมาสนุกกับภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่ สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ (Star Wars: The Rise of Skywalker) ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นของมหากาพย์สงครามแห่งดวงดาวในไตรภาคสุดท้าย กับการคลายปมปริศนาครั้งสำคัญ และปิดฉากการต่อสู้อันยาวนานระหว่างด้านมืดและด้านสว่างที่แฟนๆ ทั่วโลกตั้งตารอคอย
การันตีด้วยกระแสตอบรับถล่มทลายทำลายสถิติยอดขายตั๋วภาพยนตร์ล่วงหน้าของ สตาร์ วอร์ส ทุกภาคที่เคยมีมาเพียงข้ามคืน ซึ่งความตื่นเต้นมากมายในภาคนี้กำลังรอคอยให้เหล่าสาวก สตาร์ วอร์ส ชาวไทยได้ร่วมพิสูจน์ไปพร้อมๆ กัน 19 ธันวาคมนี้ก่อนสหรัฐอเมริกา
– ความตื่นเต้นแรก: เรย์ คือใคร?
คำถามที่เหล่าแฟนๆ สงสัยกันมานานจะถูกเปิดเผยในภาคนี้ ว่าที่แท้จริงแล้ว หญิงสาวที่มาพร้อมกับพลังผู้นี้เป็นใครกันแน่ โดยผู้เขียนบท คริส เทอร์ริโอ (Chris Terrio) แอบกระซิบว่า แฟนๆ จะได้ทราบถึงต้นกำเนิดของเรย์ และเธอกลายมาเป็นผู้สืบทอดจิตวิญญาณของเจไดได้อย่างไร
– ความตื่นเต้นที่สอง: การกลับมารับหน้าที่ผู้กำกับฯของ เจ.เจ. เอบรัมส์
ผู้กำกับมือทอง เจ.เจ. เอบรัมส์ ที่การันตีฝีมือการกำกับของเขาต่อเหล่าสาวก สตาร์ วอร์ส เอาไว้ใน สตาร์ วอร์ส อุบัติการณ์แห่งพลัง (Star Wars: The Force Awakens) เมื่อปี 2558 และในครั้งนี้เขาจะได้ส่งมอบบทสรุปของมหากาพย์สงครามแห่งจักรวาลให้กับแฟนๆ สตาร์ วอร์ส ซึ่งรับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
– ความตื่นเต้นที่สาม: เจ้าหญิงเลอา ผู้จะอยู่ในดวงใจของเราตลอดไป
จากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าแฟนคลับจักรวาลสตาร์ วอร์ส เมื่อปี 2559 กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ แคร์รี่ ฟิชเชอร์ ผู้รับบทเจ้าหญิง เลอา โดยใน สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่แฟนๆ จะได้พบกับตัวละครระดับตำนานอย่างเลอาบนจอเงิน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
– ความตื่นเต้นที่สี่: การกลับมาของความชั่วร้ายสุดดำมืดของพัลพาทีน
จักรพรรดิพัลพาทีน รับบทโดยนักแสดงระดับตำนานอย่าง เอียน แม็คเดียร์มิด หนึ่งในวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในไตรภาค สตาร์ วอร์ส จะกลับมาปรากฏตัวให้เหล่าแฟนๆ ได้เห็นและขวัญผวาไปกับความชั่วร้ายของเขาอีกครั้งหรือไม่นั้นต้องไปพิสูจน์ใน สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์
– ความตื่นเต้นที่ห้า: ศึกตัดสินมหากาพย์สงครามดวงดาว บทสรุปที่จะถูกพูดถึงไปตลอดกาล
และแน่นอนที่สุดกับศึกไลท์เซเบอร์สุดอลังการระหว่างเรย์และไคโลเรน ฉากแอ๊กชั่นดุดันที่เต็มไปด้วยเอฟเฟ็กต์สุดตระการตา เต็มอิ่มกับประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ในระบบพิเศษ IMAX ให้เหล่าสาวกได้ร่วมลุ้นไปกับบทสรุปครั้งนี้
ลูคัสฟิล์ม และผู้กำกับ เจ.เจ. เอบรัมส์ รวมพลังกันอีกครั้งเพื่อพาผู้ชมไปสู่มหากาพย์การผจญภัยในกาแล็กซี่อันไกลโพ้นกับ สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอร์คเกอร์ บทสรุปของตำนานอันน่าตื่นเต้นของตระกูลสกายวอร์คเกอร์ เมื่อตำนานใหม่จะถือกำเนิดและการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่ออิสรภาพกำลังจะมาถึง
นำแสดงโดย แคร์รี่ ฟิชเชอร์, มาร์ค ฮามิลล์, อดัม ไดรเวอร์, เดซี่ ริดลีย์, จอห์น โบเยก้า, ออสการ์ ไอแซค, แอนโธนี แดเนียลส์, นาโอมิ แอคกี้, ดอมห์นัล กลีสัน, ริชาร์ด อี. แกรนท์, ลูปิต้า ยองโก, เคอรี รัสเซลจูนาส ซูโอทาโม่, เคลลี่มารี ทราน, บิลลี ดี วิลเลี่ยม
สำหรับภาพยนตร์ชุด สตาร์ วอร์ส นั้น ออกฉายครั้งแรกในปี พ.ศ.2520 กับ สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่ (Star Wars Episode IV: A New Hope) ตามมาด้วย สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 5: จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ (Star Wars Episode V: The Empire Strikes Back) ในปี 2523, สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6: การกลับมาของเจได (Star Wars Episode VI: Return of the Jedi) ในปี 2526, สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1: ภัยซ่อนเร้น (Star Wars Episode I: The Phantom Menace) ในปี 2542, สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2 : กองทัพโคลนส์จู่โจม (Star Wars Episode II: Attack of the Clones) ในปี 2545, สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3 : ซิธชำระแค้น (Star Wars Episode III: Revenge of the Sith) ในปี 2548
จากนั้นเว้นวรรคไปยาวนานถึง 10 ปี ก่อนจะมีภาคใหม่ สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง (Star Wars: The Force Awakens) ในปี 2558 ต่อด้วย สตาร์ วอร์ส: ปัจฉิมบทแห่งเจได (Star Wars: The Last Jedi) 2560 และ สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ (Star Wars: The Rise of Skywalker) ที่เรากำลังจะได้ดูกันในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นหนังลำดับที่ 9 และเป็นการปิดฉากตำนานสงครามอวกาศที่ยาวนานถึง 42 ปี
