ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงาน Filorga Clinic 3rd Anniversary Party ที่ห้องเกรท รูม โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ สาทร ถึงเรื่องที่เพิ่งไปให้กำลังใจลูกชายทั้งสอง น้องแพนเตอร์-น้องพูม่า เดินแบบในงานอีเว้นต์ แต่ก็ไม่วายมีประเด็นดราม่า ที่เจ้าตัวลงคลิปเดินแบบของลูกชายในอินสตาแกรมแต่กลับครอปหน้า พลอย-พลอยพรรณ ภรรยา ออกไป อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางกระแสลุ้นและเชียร์ให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกัน แถมยังมีแฮชแท็กจากแฟนๆ #พลอยปีเตอร์รีเทิร์น โดยสาวพลอยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่าไม่พร้อมให้โอกาส แล้วหนุ่มปีเตอร์จะว่าอย่างไร

ปีเตอร์ กล่าวว่า “วันนั้นเด็กๆ น่ารักมากครับ ผมก็ตั้งใจไปให้กำลังใจพวกเขา ซึ่งคราวก่อนผมไปไม่ทันเพราะว่าติดงานบวกกับมันค่อนข้างกระชั้นชิดเกิน ครั้งนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะไปให้กำลังใจเขาเต็มที่ ดีใจมากครับ (ยิ้ม) อย่างก่อนหน้านี้เวลาไปหาพวกเขาที่บ้านผมก็จะคอยสอนว่าเวลาเดินต้องยิ้มนะ และพอไปถึงสุดขอบเวทีก็ให้กอดอกเลย จำได้ว่าซ้อมกันอยู่ 3-4 รอบ ซึ่งพอวันจริงปุ๊บเขาก็เอาเลยกอดอกเลย (หัวเราะ) มีท่านี้ด้วย คือผมกับพลอยเราก็ช่วยกันเทรนช่วยกันสอนอยู่แล้ว”

เห็นลีลาลูกชายเดินแบบในวันนั้นแล้วรู้สึกยังไงบ้าง? “โอ้โห โตมาน่าจะเยอะกว่าผมนะครับ (หัวเราะ)”

อย่างช่วงนี้พอเด็กๆ เขาเริ่มหันมารับงานบ้างแล้ว ตัวเราเองมีส่วนในการช่วยตัดสินใจหรือช่วยดูด้วยไหม? “ไม่นะครับ เพราะจริงๆ เขาก็จะรับงานของเขากันเองอยู่แล้ว คือพอมีติดต่อมาเขาก็จะพากันไป ส่วนผมมีหน้าที่เป็นหน้าม้า (หัวเราะ) ก็เรายกอำนาจการตัดสินใจให้เป็นของคุณแม่เขามากกว่าครับ ซึ่งพลอยเขาก็จะมีเข้ามาขอปรึกษาบ้างและผมก็แค่ให้คำแนะนำไป”

ถามถึงกระแสดราม่าเรื่องงานเดินแบบในวันนั้น ที่คนมองว่าเราลงคลิปลูกแล้วครอปเอาหน้าพลอยออก? “(หัวเราะ) อันนี้ต้องอธิบายนิดหนึ่งครับเพราะว่ามีคนถามเยอะ คือเวลาเราถ่ายวีดีโอเนี่ย เราก็ต้องเลือกไงครับว่าเราจะให้ภาพมันเห็นลูกหรือให้เห็นพลอย เพราะถ้าให้เห็นทั้งพลอยทั้งลูกเนี่ยมันก็จะมีให้เราเห็นแค่หัวลูกนิดหนึ่ง แถมไม่เห็นท่าของแพนเตอร์ด้วย ดังนั้นไหนๆ พอมันเป็นงานเด็กแล้วเราก็เลือกเอาให้เห็นลูกดีกว่า ซึ่งสุดท้ายมันก็มีดราม่าตามมา แต่ตอนหลังผมก็เข้าไปอธิบายให้คนที่เขาเข้ามาถามในไอจีนะว่ามันเป็นอะไรยังไง”

พลอยเขาได้เข้ามาถามเราบ้างไหมสำหรับประเด็นนี้? “ไม่ได้ถามเลยครับ อย่างวันนี้จริงๆ เราเองก็เพิ่งจะคุยโทรศัพท์กันเพราะว่าเดี๋ยวเขาจะต้องไปบิน ก็เลยอยากให้ผมแวะไปรับลูก คือไม่ได้มีการคุยเรื่องคลิปเลยครับ”

สำหรับฟีดแบ็กดราม่าที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีคนเข้ามาถามเราเยอะไหม? “ก็มีหมดนะครับ คือมันก็ยังมีกลุ่มที่เขาพยายามจะจับผิด ซึ่งพอผมอธิบายถึงเหตุผลไปหลายคนเขาก็เข้าใจ เพราะว่าอย่างที่ผมบอกคือผมอยากให้พอลูกเขาเดินมาสุดเวทีแล้วกล้องมันถ่ายเห็นท่าทางของเขาเต็มๆ แต่ที่เหลือเวลาเดินเนี่ยผมก็ขยับกล้องไม่ได้ไงครับ ผมก็เลยต้องปล่อยให้มันเป็นไป เนื่องจากตอนนั้นผมถ่ายทั้งจากกล้องของตัวเองและก็กล้องของพลอย คือไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาไม่ดีหรอกครับเพราะผมเองก็พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องดราม่าอยู่แล้ว (ยิ้ม)”

รู้สึกยังไงบ้างที่ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็โดนจับผิดมีดราม่าตลอด? “มันก็เป็นเรื่องปกติไปแล้วครับกับมรสุมดราม่าที่ผ่านมา คือมันก็ต้องใช้เวลา (ยิ้ม) จริงๆ แล้วเรื่องราวที่ผ่านกันมามันก็เยอะแยะมากมายนะครับ และผมเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะเป็นเพื่อนกันได้ เพราะว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับลูกมากๆ แต่ผมก็ยอมรับนะครับว่ามันเองก็คงยาก เพราะที่ผ่านมาเราก็ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าที่จะกลับมาคุยกันด้วยความใจเย็นได้ ซึ่งเอ่อ…ตอนนี้ไม่เป็นไร เพราะผมเองก็ไม่ได้ขออะไรมาก ขอแค่นี้ก่อน ขอแค่ไม่ต้องทะเลาะกัน อยู่ด้วยกันได้ ได้ใช้เวลากับลูกแค่นี้ก็พอแล้วครับ คือมันก็มีเหตุผลนะครับถือว่าสมเหตุสมผลกับเรื่องราวที่ผ่านมา”

จริงๆ ตัวเราเองเข้าใจไหมเพราะเหมือนเขาก็จะยังไม่พร้อมให้โอกาส? “ก็เอ่อ คือเรากลับมาคุยกันแบบไม่มีเรื่องราวอะไรมากกว่านี้ แค่ได้คุยกันปกติ แค่นี้ผมก็ถือว่าโอเคแล้วนะครับสำหรับขั้นตอนนี้ แค่ได้อยู่กับลูกเราก็ดีใจแล้ว”

รู้สึกยังยังบ้างกับแฮชแท็กที่แฟนๆ ลุ้นกันมากกว่า #พลอยปีเตอร์รีเทิร์น? “(หัวเราะ) อย่างที่พลอยบอกครับมันก็น่าจะเลยจุดนั้นไปแล้ว และสิ่งที่น่าจะทำได้ตอนนี้ก็คือทำหน้าที่พ่อและแม่ให้ดีที่สุดเพื่อลูกของเรา (ยิ้ม)”

หลังจากนี้ตัวเราเองจะมีโอกาสได้กลับมาหาลูกมากขึ้น หรือเจอกับลูกมากขึ้นไหม? “ใช่ครับ ตอนนี้ก็คุยกันและก็ตกลงกันไว้ว่าเราทั้งคู่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูก คือตกลงที่จะช่วยกันครับ (ยิ้ม)”

สำหรับสถานะของเราสองคนตอนนี้ใช้คำว่าอะไรดี? “เอ่อ ก็คงต้องเรียกว่าเป็นพ่อเป็นแม่นี่แหละครับ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนหรือไม่ แต่เราก็ตั้งใจจะเป็นทีมเวิร์คที่ช่วยกันเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด ได้หมดถ้าสดชื่น (หัวเราะ)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน