วันที่ 28 เม.ย. ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องหนุ่มชื่อดัง ร่วมงานเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 8” ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องแต่งงาน หลังแฟนสาว ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ ขีดเส้นมาแล้วว่าต้องไม่เกิน 3 ปี

โดย ตูน เผยว่า พี่ก้อยมีตัวเลขให้ด้วยใช่ไหม กดดันผ่านสื่อใช่ไหม ก็ไม่รู้ อาจจะเร็วกว่าสาม หรือช้ากว่าสามก็ได้ เราก็อายุมากกันแล้ว เดือนหน้าผมก็ 38 ปีแล้ว อย่างที่อัพเดตกันทุกครึ่งปี ว่าผมก็อยากมีครอบครัว อยากมีตัวน้อย ก้อยเขาก็มีหลานน่ารักมากให้ได้ลองเลี้ยง และถ้าถึงเวลาเราก็อยากขยับสถานะเป็นพ่อแม่บ้าง อาจทำให้เราโตขึ้น

ซึ่งผมก็วางแผน ประคับประคอง และศึกษากัน ถ้าทุกอย่างลงตัวก็คงไม่พ้นคนนี้แหละ แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักพักนึง เรายังมีเป้าหมายเรื่องงานอีกเฮือกนึง มีสิ่งที่เราอยากทำอีกหลายๆอย่างช่วงปลายปี รวมถึงปีหน้าด้วย อยากให้มันสำเร็จลงแบบไม่มีห่วง

ครอบครัวสองฝ่ายถามเรื่องแต่งงานบ้างไหม

ไม่เลย ครอบครัวก้อยน่ารักและเอ็นดูผมมาก เราไม่ได้ทำอะไรที่ดูนอกลู่นอกทาง ท่านก็เลี้ยงข้าวผมประจำ (ยิ้ม)

ช่วงนี้ทัวร์คอนเสิร์ตถี่ ก้อยช่วยดูแลอย่างไรบ้าง

ดูแลดีมากครับ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะต่างทำงาน นานๆเจอกันก็ไปกินข้าว ไม่เจอก็โทร.หากัน เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีก็เหมือนอยู่ใกล้กัน ถามว่าเขามีน้อยใจบ้างไหมที่ไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่นะครับ เขาเองก็ไม่ว่างเหมือนกัน ต่างคนต่างทำงาน

ปลายปีจะทำโปรเจ็กต์อะไรอีกหรือเปล่า

ผมตั้งใจจะทำโครงการที่ผมวิ่งครับ อยากจะทำให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่กล้าพูดว่าจะทำตลอดชีวิต แต่จะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าแรงเราจะหมด ปลายปีนี้อยากจะทำให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง อยากให้รอติดตามว่าจะเป็นยังไง ส่วนถ้าเป็นเรื่องของงานปกติ เรากำลังจะทำอัลบั้มใหม่ของบอดี้สแลมอยู่ คิดว่าไม่เกินปีนี้น่าจะได้ฟัง

เรายังช่วยเหลือโรงพยาบาล หรือจะเปลี่ยนบ้างไหม

ผมยังเชื่อว่าความต้องการแรงสนับสนุนจากคนไทย ในเรื่องของโรงพยาบาล คนป่วย หรือแม้กระทั่งวงจรการรักษา ยังมีความต้องการอยู่อย่างไม่สิ้นสุด เราต้องช่วยกัน โครงการที่ผมทำอยากจะเน้นหนักไปที่การไม่มุ่งหวังเงินจำนวนเยอะจากทุกคน แค่อยากให้ทุกคนแบ่งปันเงินจำนวนน้อยๆ จากคนจำนวนเยอะๆ ที่เรามีกัน 70 ล้านคน มากองรวมกันดูสิจะช่วยชีวิตได้กี่ชีวิต

คิดอยากจะทำเป็นมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลเลยไหม

ผมไม่คิดใหญ่ เราทำด้วยตัวคนเดียวกับเพื่อนอีกกลุ่มนึง โดยมีผมเป็นสื่อกลางนำเสนอ เราทำเต็มที่ในแบบของเราที่พอทำได้ เชื่อว่าไม่มากก็น้อยทุกคนจะร่วมด้วยช่วยกัน ผมเคยไปเดินห้างแล้วมีนักศึกษาครูคนนึงเข้ามาขอจับมือ ขอถ่ายรูป เขาบอกว่าเรียนครูอยู่ ประทับใจที่เราทำมาก หนูจบไปเป็นครูจะสอนให้เด็กทำเพื่อคนอื่นเยอะๆ และหนูก็จะทำเพื่อคนอื่นด้วย ขอบคุณมากที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเขา

แค่นี้เรารู้สึกว่า สิ่งที่เราทำมันมากกว่าการเอาเงินมาช่วยคน มันได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ขึ้นในใจของเด็กน้อยหลายๆคน หรือเด็กใหญ่หลายๆ คนที่กำลังจะหาหลักในการใช้ชีวิต ก็ดีที่สิ่งที่เราทำเล็กๆ น้อยๆ ตรงนี้ไปช่วยบันดาลใจเขาได้

ใกล้จะถึงวันเกิดแล้ว ปีนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม

ไม่อยากได้อะไรแล้วครับ แค่นี้ก็เกินชีวิตแล้ว อยากจะทำให้คนอื่นๆ เยอะครับ (ยิ้ม)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน