ดาว พิมพ์ทอง ใจอ่อน ยอมคืนดี พอร์ช อนุญาตให้เริ่มจีบใหม่

หลังจากที่ พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ออกมายอมรับว่ากำลังตามง้อหวานใจ ดาว พิมพ์ทอง วชิราคม แต่ฝ่ายหญิงยังไม่ใจอ่อน ล่าสุดได้เจอนักแสดงสาวในงาน “Oscars Party The Neon Night” ที่ สยามพารากอน ผู้สื่อข่าวจึงได้อัปเดตถึงเรื่องหัวใจตอนนี้ว่ายอมใจอ่อนหรือยัง

ดาว พิมพ์ทอง

ดาว เองค่ะ

ความสัมพันธ์กับพอร์ชเป็นยังไงบ้าง?
“ยังอนุญาตในการจีบใหม่ได้ค่ะ เป็นการเริ่มต้นคุยใหม่ที่ถูกวิธีแล้วกัน เพราะว่าอย่างที่บอกก่อนหน้านี้เราคุยกัน 4วัน ก็เป็นแฟนกันเลย อาจจะไม่ได้เข้ามาเรียนรู้ในส่วนที่เขาเข้ามาจีบ มาเป็นแฟน มันอยู่ในโมเมนต์ของคำว่าเพื่อนมาโดยตลอด เลยคิดว่าถ้าเขามีจุดประสงค์ที่จะกลับมา เขารู้สึกดีกับเราจริงๆก็อยากจะให้จีบใหม่ อย่างที่บอก เรายังไม่ได้โมเมนต์ของการจีบกันในตอนนั้นเลย”

หมายถึงยอมเปิดโอกาสให้เธอจีบฉันอีกสักครั้งหนึ่ง?
“อย่างว่าแหละคนเราต้องได้โอกาส ถ้าคิดว่าเขาจะปรับตัว หรืออีกอย่างที่เขาคิดว่าเขาทำในสิ่งที่เราไม่โอเค ให้โอกาสเขาได้เราก็ให้โอกาสค่ะ ถามว่ายังรักเขาอยู่มั้ย หนูตอบในทุกๆการสัมภาษณ์นะ ยังรักอยู่ หนูไม่โกหกความรู้สึกตัวเอง”

ดาว พิมพ์ทอง

รวมช็อตหวาน

 

ตอนนั้นใจแข็งที่จะเดินออกมา?
“ถามว่าตอนนี้มันไม่ได้หมายความว่าใจอ่อนหรือใจแข็งนะ มันอยู่ที่ว่าตอนนี้ที่เขาเข้ามาจีบแล้ว มันดีขึ้นขนาดไหนในความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคน มันไม่ได้หมายความว่าตอนนี้เราอนุญาตแล้วใจอ่อนไปแล้ว มันก็ยังไม่ใช่ ตอนนี้เขาเข้ามาคุยแบบปกติค่ะ มีเจอกันบ้าง กินข้าวกันบ้าง ดูหนังกันบ้างค่ะ”

มีกฎเกณฑ์อะไรไหม?
“รอบนี้ไม่มีกฎเกณฑ์เลยค่ะ รู้สึกว่าให้ความเป็นส่วนตัวเขามากกว่าเดิม ก่อนหน้านี้เราอาจจะตัวติดกันมากเกินไป ด้วยความที่มันอาจจะมีอะไรหลายๆอย่าง อึดอัดกันด้วย ตอนนี้เหมือนเราถอยกันคนละหนึ่งก้าวเหมือนให้สเปซของกันและกันดีกว่า เขาก็มีชีวิตส่วนตัวของเขา ถามว่ามีแอบหวั่นใจมั้ย ก็ต้องหวั่นใจแหละ ถ้ามีเรื่องเจ้าชู้ เราก็หวั่นใจ เพราะเราต้องห่วงความรู้สึกตัวเอง”

อย่างแรก ครอบครัวเราตั้งใจปิดเขาไว้แล้ว?
“คุณพ่อ คุณแม่เขาอยู่ในส่วนของผู้ใหญ่ เขาไม่มาตัดสินใจอะไรแทนเรา เราขอคำปรึกษาเขาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมาแบบว่า คนนี้ต้องห้ามคบนะ คนนี้ต้องห้ามคุยนะ เขาก็ให้สิทธิ์เราในการคิดเอง”

เขาบอกว่าเขาจะทำตัวให้ดีขึ้น?
“อันนี้ก็ให้ทุกคนเป็นพยานพร้อมๆกับหนูแล้วกันเนอะ ดีขึ้นหลายๆอย่างนะ แต่บางอย่างก็เหมือนเดิม อะไรมองข้ามได้ก็มองข้าม อะไรมองข้ามไม่ได้ก็ต้องพูด”

รู้สึกยังไงบ้างกับคำว่าหนังสือเล่มเดิม อ่านไปแล้วยังไงก็จบเหมือนเดิม?
หนังสือเล่มเก่าอ่านกี่ครั้งก็ยังจบแบบเดิม แต่อย่าลืมว่าสมัยนี้มันมีซีซั่นสองนะ ถามว่าเข็ดมั้ย เข็ดค่ะ เข็ดตลอดเวลาในเรื่องความรัก จริงๆความรักมันมีความสุข มันสวยงาม แต่มันก็มาพร้อมความเจ็บปวดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราได้เริ่มต้นจะรักใครสักคน รักไปแล้ว เราก็ต้องยอมรับได้ว่าวันหนึ่งมันเจ็บปวด อย่างที่ผ่านมามันเป็นบทเรียนให้เราเยอะมาก ทั้งในเรื่องของตัวเองด้วยที่ว่า ออกสื่อวุ่นวายเกินไป การที่โพสต์ลงโซเชียลโดยที่ไม่มีสติ มันก็สอนเรา อันนี้ยอมรับตรงๆ เราพูดกับพอร์ชนะว่าเราผิด เราก็มีส่วนผิดของเรา แล้วเขาจะให้อภัยในส่วนตรงนี้ไหม ซึ่งเขาก็ให้อภัย เพราะฉะนั้นอย่างที่บอก เขาให้โอกาสเราเราก็ต้องให้โอกาสเขาด้วย”

ปัญหาเก่าคือเคลียร์กับเรียบร้อย?
“ต้องเคลียร์กันทั้งหมด ถ้าเกิดจะเดินเข้ามาใหม่ต้องเคลียร์กันให้หมด ไม่ได้หมายความว่าเขาทำผิดแล้วให้อภัยแล้วมันจบ มันให้อภัยได้แต่ว่าสิ่งที่เป็นคือมันจะต้องไม่กลับมาเป็นแบบนั้นอีก ดาวไม่เช็กโทรศัพท์อยู่แล้วแต่ว่า รอบนี้เขาค่อนข้างโปร่งใส เขาก็ให้ดูเอง แต่ถ้าเกิดคนเรามันจะมี มันไม่ใช่เรื่องที่แบบนี้อยู่แล้วค่ะ”

ตอนนี้เรายังนึกถึงโมเมนต์เสียใจไหม?
“ถ้าอะไรจะเกิดก็สมน้ำหน้าตัวเองอีก เพราะว่าเราเลือกเอง เราเจ็บเอง สมน้ำหน้าตัวเอง ถ้าเราแฮปปี้ก็ดีใจกับตัวเอง หนูคิดรอบคอบแล้ว ตอนที่โสดก็มีคนเข้ามาบ้าง แต่อย่างที่บอก ยาก เป็นคนที่รักใครก็รักยาก ชอบใครก็ชอบยาก เราอาจจะชอบ แต่เราอาจจะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้”

บอกไหมว่าจริงๆฉันก็มีคนเข้ามานะ?
“บอกค่ะ เขาก็พูดว่ามันไม่แปลกหรอก มีคนเข้ามาแต่ว่าเขาก็สู้ กลับมาสู้ใหม่เหมือนเดิม”

สถานะนี้เราสามารถคุยหรือปรึกษาคนอื่นได้ไหม?
“ยอมรับถ้ากลับมาคุยกับเขาแล้ว ก็ขอปิดกั้นตัวเองโดยการไม่ขอคุยกับคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ให้เกียรติเขาด้วย ให้เกียรติตัวเองด้วยว่าการทำแบบนี้เราก็ดูไม่ดี”

เราต้องการสถานะ?
“หนูยังพูดกับเขาทุกวันค่ะ สิ่งที่ทำมันก็ไม่ใช่เล็กก็ให้โอกาสให้เวลากันด้วย”

เพราะว่าไปเที่ยวด้วยกันหรือเปล่าเลยใจอ่อน?
“เขาคงชอบไปเที่ยวทะเลอยู่แล้ว หัวหินคนไม่ได้เยอะมากด้วย ถามว่าเรารู้ก่อนหน้านี้มั้ยว่าเขาจะไป เขาก็ถามค่ะ ถามว่าไปไหนปีใหม่ เราไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะตามไป เพราะเพื่อนแย้บๆว่าแบบ มันมาแน่นอน รู้อยู่แล้ว ไม่เป็นไร มาก็มา ไม่ได้ซีเรียส”

บรรยากาศเป็นยังไงเมื่อเราบอกทีบ้านไปว่าเลิกแล้ว?
“มันก็ตลกดี อย่างที่บอก ตีท้ายครัว เราไปบอกยามหน้าบ้านไว้แล้วว่าห้าม พอร์ช ศรัณย์ เข้าบ้าน หนูพูดเรื่องนี้ตีท้ายครัวไปคือมันก็ตลก เขาก็จะเข้ามา เราก็ลืมไปว่าเราบอกยาม ยามบอกว่าบ้านนี้ไม่ให้คุณพอร์ชเข้าบ้าน เขาก็โทรมาเสียงน้อยใจนิดนึงว่าจะไม่ให้เข้าบ้านเลยหรอ ไม่มาก็ได้นะ กลับก็ได้ เราก็เลย ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลับ ไหนๆก็ขับรถมาแล้ว เดี๋ยวไปบอกยามเอง”

เราเห็นความทุ่มเทที่เขาพยายามง้อเราไหม ?
“ความตลก เขาไม่ให้เข้าบ้านก็น้อยใจ แต่ว่าก็เห็นในความทุ่มเทของเขาค่ะ การพยายามทำดีหลายๆอย่างเลย แต่มันก็เหมือน คนจีบกันแรกๆ มันก็ต้องดูกันไปในระยะยาว”

เข้าบ้านเราต้องยังไงต้องขอโทษพ่อแม่ไหม ?
“แม่กับพ่อน่ารักมาก คือเขาก็เปิดโอกาสให้เราใช้ชีวิตของตัวเอง พ่อก็มีเตือนบ้างบอกพอร์ชก็เหมือนผู้ชายคุยกัน รู้ใช่ไหมผิดอะไร แล้วเข้ามาจะต้องไม่เป็นแบบเดิมนะ ให้ผู้ชายเขาเคลียร์กันเลย”

กลับมารอบนี้มีเพื่อนๆเห็นด้วยไหม ?
เพื่อนไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว พอร์ชก็รู้แหละว่าเพื่อนไม่เห็นด้วย เขาเลยต้องง้อเพื่อนด้วย ไม่ใช่ว่าง้อดาวคนเดียว เขาต้องง้อครอบครัวเรา แล้วก็ต้องไปง้อเพื่อนเราค่ะ

ระหว่างวันนี้สถานะที่ผ่านมาสบายใจหรือยัง?
“สิ่งที่สบายใจไม่ใช่เหมือนแบบมาคุยกับเขารอบสอง แต่สิ่งที่สบายใจคือเราเคลียร์ในสิ่งที่เราหงุดหงิด ทะเลาะกันเป็นเรื่องจนคาราคาซัง มันเคลียร์ไปแล้วมันสบายใจ ถ้าสมมติว่าอนาคต เราอาจจะไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็สบายใจในเรื่องเก่าๆที่ว่า เราจะไม่เอาเรื่องเก่าๆมาพูดแล้ว เป็นการขอโทษแล้วก็อย่าทำอะไรใหม่ขึ้นมาอีก”

อยากบอกอะไรเขาไหม?
“ไม่มีล่ะ”

อย่างตอนที่คบกันช่วงนั้นเขาเปย์เรามาก ครั้งนี้ล่ะ ?
“เขาไม่ได้เปย์ขนาดนั้น เขาจะให้เป็นโมเมนต์สำคัญเช่นวันเกิด วาเลนไทน์ คริสต์มาส ปีใหม่ก็ไม่มี คือมันก็จะแค่โมเมนต์สำคัญเท่านั้นเอง เราก็ซื้อเอง ใช้เองตลอด ทำงานเองก็ใช้เอง”

ใกล้วาเลนไทน์แล้วคาดหวังเซอร์ไพรส์ไหม?
“คาดหวัง ขอให้น่ารักต่อไปแล้วกัน”

ขอบคุณรูปจากไอจี : pimtdao

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน