‘รัชนก’ปรับเพลงทันยุค

‘จะได้ไม่ต้อง’กลิ่นอายอินดี้

คอลัมน์ จับกระแสลูกทุ่ง

โดย…อชริญา บุญชู

‘รัชนก’ปรับเพลงทันยุค – หลังจากที่เพลงช้าเศร้าซึ้งส่งให้แจ้งเกิด อย่าง เขียนฝันไว้ข้างฝา, ขอเจ็บครึ่งใจ, ฝนตกในทะเล, ฝากคำถามไว้กับดาว, จุดไฟใต้ฝน ล่าสุดสาวใต้เสียงโศก ‘รัชนก ศรีโลพันธุ์’ ยังคง คอนเซ็ปต์เพลงเศร้าเป็นเอกลักษณ์กับเพลง “จะได้ไม่ต้อง” ที่เป็นเรื่องราวของรักสามเส้า

วันนี้สาวใต้เสียงเศร้ามานั่งคุยกับเราตรงนี้

◆ กี่ปีแล้วในวงการเพลง

รัชนก – “จริงๆ นกเริ่มมีผลงานเพลงตั้งแต่ปี 2548 แต่ว่าอัลบั้มเดียวชุดแรกเสร็จตอนปี 2549 ชื่อว่าอัลบั้ม เขียนฝันไว้ข้างฝา ก็ประมาณ 14-15 ปี มีการเดินทางที่ยาวนานและมีการปรับเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ เพราะอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกเป็นลูกทุ่งแท้ๆ เลย เราเว้นระยะไปประมาณ 3-4 ปี ช่วงนั้นกระแสเพลงลูกทุ่งแท้ๆ ไม่ค่อยฟู่ฟ่าค่ะ เราได้รางวัลเพลงยอดเยี่ยม นักร้องยอดเยี่ยม ในรายการรางวัลมาลัยทองและรางวัลเพชรในเพลง แต่ในเชิงของธุรกิจก็ไม่ได้ถึงขั้นเปรี้ยงปร้าง แล้วด้วยตัวนกเองเป็นคนภาคใต้ บริษัทก็เลยมองว่าอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 มีการปรับเปลี่ยนจากลูกทุ่งแท้ๆ เป็นลูกทุ่งเพื่อชีวิตสำเนียงใต้ชื่อว่าอัลบั้ม ฝนตกในทะเล ค่ะ”

◆ มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับบุคลิกเราและความเป็นตัวเรามากขึ้น

รัชนก – “ค่ะ แล้วก็ผู้ฟังด้วย เพราะว่าช่วงนั้นกระแสนักร้องใต้มาแรงหลายท่านเลย พอปรับเปลี่ยนแปลงทั้งเสื้อผ้าหน้าผมแนวเพลง ปีนั้นได้รางวัลนักร้องหญิงยอดนิยม ได้เพลงยอดนิยม แล้วก็ได้รับรางวัลอินเทรนด์ 10 วอช 2 เดือนซ้อน ถือว่าเป็นเพลงที่สำเร็จในเชิงของกระแส หลังจากนั้นเราก็เลยมีอัลบั้มชุดที่ 3 ชื่อว่า ฝากคำถามไว้กับดาว พอชุดที่ 2 เราประสบความสำเร็จ ชุดที่ 3 เราก็เลยตามแนวลูกทุ่งเพื่อชีวิตสำเนียงใต้มา แต่ว่าในภาคของดนตรีก็จะมีกลิ่นอายความเป็นเวิลด์มิวสิค เป็นกวีมีการเปรียบเทียบ มีดนตรีสากลมาเกี่ยวข้องด้วย ต่อมาเป็น จุดไฟใต้ฝน จากมาก็เสียใจ ก็ยังเป็นลูกทุ่งเพื่อชีวิตสำเนียงใต้อยู่ แต่พอมา ช่วงหลังๆ ก็เหมือนกระแสเพลงเปลี่ยนอีก ปัจจุบันนี้ก็เข้าสู่ยุค ที่เราเรียกว่าร่วมสมัยทันสมัยมากขึ้น หรือว่ายุคอินดี้มาแรง ซึ่งเพลง จะได้ไม่ต้อง เป็นเพลงสไตล์ลูกทุ่งป๊อบสำเนียงใต้ และดนตรีที่ร่วมสมัยทันสมัยมากขึ้น เด็กฟังได้ผู้ใหญ่ฟังดี ให้วัยรุ่นที่เขาชอบเพลงแนวอินดี้ แนวสมัยใหม่ ฟังเพลงเราได้มากขึ้นด้วย”

◆ ตัวเนื้อหาของเพลงเล่าถึงอะไรยังไงบ้าง

รัชนก – “เพลง จะได้ไม่ต้อง เป็นสถานการณ์ความรักที่เรารู้ว่าคนรักของเราไปมีคนอื่น แล้วคนอื่นนั้นก็รู้ด้วย มันกลายเป็นรักสามเส้าที่รู้สึกอึดอัด แล้วท้ายที่สุดเรารู้สึกว่าเราอยากจบความรู้สึกอึดอัด ความลำบากใจ ความอะไรต่างๆ ซึ่งเหมือนนัดเคลียร์ เธอช่วยเลือกสักที เลือกใครสักคนสักทีนึง เขาก็ไม่เลือกมีแต่ความเงียบ มีแต่ความกดดัน เราก็เลยรู้สึกว่างั้นฉันจะตัดสินใจ เดินออกมาจากชีวิตเธอเอง เธอจะได้ไม่ต้องลำบากใจ และฉันก็จะได้ไม่ต้องอึดอัดกับเรื่องนี้อีกต่อไป เป็นเพลงเศร้าแต่ว่าจะมีความเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งมากขึ้น”

◆ แล้วดนตรีมีใส่ความพิเศษอะไรลงไปไหม

รัชนก – ดนตรีมีความเป็นป๊อปมากขึ้น จากที่ เมื่อก่อนจะเป็นแนวเวิลด์มิวสิค จะมีพวกฟลุต ไวโอลิน อันล่าสุดไม่มีค่ะ แต่ว่าจะปรับให้เป็น ทันสมัยขึ้น ไม่มีเครื่องเป่าแล้ว”

◆ เพลงนี้เราได้มีส่วนร่วมยังไงบ้าง

รัชนก – “จริงๆ คนแต่งเลยก็คืออาจารย์หนุ่ม ชวัลวิทย์ ยิ่งยศเสนี อาจารย์ได้ดีไซน์เมโลดี้หลักๆ เอื้อต่อสำเนียงใต้มาแล้วบางส่วน พอถึงขั้นเข้าห้องอัด นกก็มีส่วนร่วมในการช่วยปรับเมโลดี้อีกนิดนึง ด้วยเนื้อเป็นแค่เหมือนสำเนียงแต่ไม่ถึงกับมีภาษาใต้ที่ลึก ก็เลยมีการปรับสำเนียงเพิ่มเติมนิดหน่อย ในเชิงของการ คุมร้องก็มี อาจารย์ต๋อง มาช่วยคุมก็มีการปรับเมโลดี้บางส่วนอีก เพื่อให้ฟังดูแล้วเข้ากับความเป็นคนใต้มากขึ้น และในส่วนของดนตรีก็จะเป็นอาจารย์ เอ๋-บรรจง เวียงพล”

◆ สำหรับเพลงที่จะปล่อย มีความคาดหวังหรือกังวลอะไรไหม

รัชนก – “มีความคาดหวัง ตั้งใจสูงมาก คือซิงเกิลที่แล้ว คนสำคัญของคนไม่สำคัญ ปล่อยไปประมาณ 2 ปีกว่า เว้นไป 2 ปีกว่า กระแสเพลงต่างๆ ก็กลับเปลี่ยนไป อย่างที่เราเห็นว่าไอดอลของคนยุคนี้อายุน้อยลงทุกวัน แต่เราว่าโตขึ้นทุกวันๆ แต่เราก็หวังว่าพ่อแม่พี่น้องที่เป็นแฟนเพลงเก่าเราก็จะปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ มาฟังเพลงใหม่ทางยูทูบได้มากขึ้น ก็ยอมรับว่าคาดหวังและตั้งใจค่ะ ก็อยากให้น้องๆ วัยรุ่นได้รู้จักเราด้วย จะได้ไม่ต้องเหมือนประโยคร่วมสมัย ดนตรีที่ทันสมัยขึ้น”

◆ ทำไมต้องเว้นตัวเองห่างกันถึง 2 ปี กว่าจะมาออกซิงเกิลนี้

รัชนก – “เนื่องจากกระแสเพลงมันเปลี่ยนไป ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทก็หาเพลงมาโดยตลอดค่ะ แล้วบริษัทก็มีการให้นกทำ ช่อง ยูทูบของตัวเองชื่อ รัชนก ศรีโลพันธุ์ OFFICIAL ตอนนี้ก็เพิ่งได้ 1 แสนมาหมาดๆ เหมือนเป็นการทดสอบกระแส ลองดูว่าเมื่อก่อนตลาดเพลง บริษัทจะขายเทป ขายซีดีเป็นหลัก ก็เลยลองดูว่าถ้าเราจะปรับเปลี่ยนเป็นคนปัจจุบัน ฟังเพลงจากยูทูบ จะมีคนมาตามฟังเพลงเราไหม

ก็สรุปว่าอย่างน้อยเบื้องต้นเราก็ต้องถือว่าผ่านเกณฑ์ ได้รับการตอบรับที่ดี แล้วนกมองว่าถ้ามองในเชิงของผู้ฟังคุ้มมาก คุ้มก็คือมีทุกแนวทุกสไตล์ สตริงก็มี นก คัฟเวอร์เพลงสตริง อย่าง เชือกวิเศษ ไกลแค่ไหนคือใกล้ อย่าง เชือกวิเศษ มีการปรับใส่สำเนียงใต้ ก็ติดเทรนด์ด้วยนะคะได้ที่ 10 กว่าด้วย โอเค..มันก็เป็นเหมือนหนึ่งแนวทางให้บริษัทด้วย แล้วก็ผู้ฟังได้ฟังเพลงจากแบบหลากหลาย”