พีท ทองเจือ ทุ่มเงินหลักล้านทำค่ายเพลง ดันลูกสาวคนกลาง มิย่า เป็นนักร้องเบอร์แรก-สอนลูกทำเต็มที่ไม่ต้องแข่งกับใคร

 

พีท ทองเจือทุ่มเงินหลักล้าน – วงการเพลงไทย กำลังจะมีศิลปินหน้าใหม่วัยใสเพิ่มมาอีกคนแล้ว นั่นก็คือ น้องมิย่า หรือ มิย่า ทองเจือ ลูกสาวคนกลางวัย 14 ปี ของนักแสดง พีท ทองเจือ และภรรยาสาว เจ็ง วิไลลักษณ์ ซึ่งน้องมิย่า ก็ได้ปล่อยปล่อยทีเซอร์เพลง “mini heart” (มินิฮาร์ท) ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรก ออกมาเรียกน้ำย่อยกไปแล้ว เมื่อวันที่12 ก.พ ที่ผ่านมา โดยอยู่ภายใต้ ค่าย Lil’ Brat Records ค่ายที่พ่อพีท-แม่เจ็ง ทุ่มทุนสร้างขึ้นเพื่อส่งลูกสาวได้ทำตามฝัน

พีท ทองเจือทุ่มเงินหลักล้าน

พีท ทองเจือทุ่มเงินหลักล้าน

 

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเมื่อวันที่16 ก.พ. พีท ทองเจือ ได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมเก็บภาพบรรยากาศการถ่ายทำเอ็มวีเพลง “mini heart” ของลูกสาว ณ ที่ชั้นดาดฟ้าโรงแรมนารายณ์ สุรวงศ์ โดยเจ้าตัวและภรรยา เจ็ง วิไลลักษณ์ พร้อมทั้ง น้องมิย่า ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำเพลงและการเปิดค่ายเพลงในครั้งนี้ค่ะ

 

โปรเจ็กต์นี้เป็นไงบ้าง?

พีท: ต้องขอบอกว่าค่ายเพลงที่ทำมาไม่ได้ต้องการอะไรในวงการเพลง แต่จะทำให้น้อง เบื้อต้นเอาแค่นี้ก่อน ให้น้องได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักอละชอบ และได้ตามหาความฝัน และในที่สุดคือให้เค้าได้พิสูจน์ตัวเองด้วย

ลงทุนไปเท่าไหร่?

พีท: (หัวเราะ) ตัวเลขเหรอ…ก็เป็นล้านครับ

เรียกว่าทุ่มสุดตัว?

พีท: ก็ประมาณนั่นครับ

เป็นไงบ้างเพลงแรกของเรา?

มิย่า: ก็ดีค่ะ ชอบมาก ชอบทุกอย่าง ชอบวีดีโอที่ถ่ายพวกเอ็มวี ชอบมาก

แนวเพลงเป็นยังไง?

มิย่า :แนวเพลงก็จะเป็นแบบแนวแฝป็อปๆ ที่คนชอบฟังก็จะมีทั้งแร็ป ทั้งร้องด้วย

ปล่อยทีเซอร์ไปบ้างแล้ว กระแสเป็นไงบ้าง?

มิย่า: กระแสดีค่ะ แฟนคลับในไอจีหนูและในติ๊กต็อกก็ฟังเยอะอยู่

คอนเซ็ปต์หลักๆแล้วเป็นยังไงบ้าง

พีท: เราทำโปรเจ็กต์นี้มาเดือนนี้เป็นเดือนที่8 ลองเพลงหลายอย่าง หลายสไตล์ แต่หลักๆน้องมาจากสายเต้น ซึ่งต่างจากคนโตที่จะเป็นสายว้อยซ์เราก็เลยพยายามหาส่วนประกอบที่ลงตัวที่สุด เบื้องต้นก็เลยทำเพลงออกมา คิ้ว น่ารัก มีกึ่งร้องกึ่งแร็ป เราเลือกหลายๆอย่างมาไว้ในเพลงเดียวกัน เพื่อดูว่าสุดท้ายนี้คนฟังชอบแบบไหน แต่พอเราทำขึ้นมา ปรากฎว่าช้วงที่น้องแร็ป ที่เป็นอังกฤษกึ่งไทย เอฟซีจะชอบมากๆ จริงๆ น้องแร็ปได้เลย เราไม่อยากทำเพลงตามใจตัวเอง เหมือนออกมาเซย์ฮัลโหลกับสื่อมวลชน กับแฟนๆ ว่ามิน่ามาแล้วนะ แต่จะเดินก้าวไปยังไงเราจะดูจากงานอีกทีนึง

คาดหวังกับกระแสยังไงข้าง?

พีท :ผมบอกน้องว่า เราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เราจะไม่แข็งกับคนอื่น สำหรับน้องอายุแค่นี้ มีซิงเกิ้ลเป็นของตัวเอง เริ่มหัดทำงาน สิ่งที่พ่อแม่ต้องการมากที่สุดคืออยากให้เค้ามีประสบการชีวิต แล้วเอามาปรับใช้ในอนาคตให้ได้ แต่มันก็ย้อนกลับมาที่ผมเคยพูดบาอยๆว่า พ้อแม่พลักดันให้ลูกค้นหาตัวเองให้เจอได้เร็วที่สุด

นี่เป็นเหตุผลหลักที่พี่พีทไม่อยากให้น้องไปต่างประเทศ?

พีท:(หัวเราะ) ถ้าติดตามครอบครัวผมจะเห็นว่า ลูกชาย น้องโรเตอร์เป็นนักแข่ง โรเตอร์ก็จะมีที่ยืนของตัวเองตระเวนแข่งในเอเชีย ไปยุโรปด้วย เป็นแชมป์ในประเทศไทยมา3ปี คือน้องมีความชัดเจนในตัวเอง คนโตเซย่าก็ตามความฝันของตัวเองในสายการฝึกร้องเพลง น้องชอบร้องเพลง คราวนี้ลองนึกสภาพว่า หากมองเข้ามา แล้วน้องคนกลางล่ะ น้องคนกลางอยู่ที่ไหน นี่คือที่มาของโปรเจกต์ อยากให้น้องหาที่ยืนของตัวเองให้ได้ พอหาจุดยืนของตัวเองได้แล้ว ที่เหลือคือเราพลักกันให้ไปตามสายที่ตัวเองต้องการและอยากทำ แต่คราวนี้ขอบอกเลยว่าภาระสุดท้ายตกหนักที่พ่อแม่ สมมุติโรเตอร์ต้อง ไปแข่งที่ยุโรป มิย่ามีงานที่เมืองไทย เซย่า มีร้องที่นี่ ปรากฏว่าวิ่ง3ที่3ทาง ก็ค่อนข้างลำบาก เม็ดเงินที่ใช้ก็ค่อนข้างเยอะ

รู้สึกไงบ้างคุณพ่อทุ่มเทให้เราขนาดนี้?

มิย่า: ก็รู้สึกดีค่ะ ก็ขอบคุณมากๆ เลยเพราะทุกอย่างดีมากๆ

แล้วซิงเกิ้ลแรกเป็นไงบ้าง ?

มิย่า: ดีค่ะหนูชอบมากเลย มันเป็นที่หนูชอบเปะๆเลย

ด้านคุณแม่เจ็งรู้สึกยังบ้างกับลูกสาวเรา?

เจ็ง : ก็ภูมิใจ อย่างทีพี่พีทบอก เราเป็นพ่อแม่ที่รู้ว่าลูกทำอะไรเราก็ค่อยสนับสนุนสิ่งที่ลูกอยากเป็น วันนี้เราทำซิงเกิ้ลออกมาให้น้อง ตอนแรกก็คิดว่าน้องยังเด็ก ก็ทำงานตามประสาเด็กที่พ่อแม่บอก แต่ไม่ใช่เลย คือน้องตั้งใจบ้าง ทุกขั้นตอนขนถึงความสำเร็จ น้องมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน ไม่ว่าการเลือกคนแต่งเพลง เสื้อผ้าหน้าผมทุกอย่าง น้องดูเองหมด สุดท้ายพอมันสำเร็จเป็นก้อนนี้แล้ว เราสองคนพ่อแม่ก็ภูมิใจว่าสิ่งที่เราพยายามทุ่มเทให้ลูก ลูกตั้งใจทำมันอย่างดีที่สุด

จริงๆแล้ว ลูกคนโตจะเรียนร้องเต้นมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งปลายทางที่เค้าจะต้องเป็นก็คืออันนี้อยู่แล้ว เพราะเค้าอยากเป็นก็คืสิ่งที่เค้าทำอยู่ มันก็ไม่ได้คิดเยอะเนาะ มันถึงว่ามันถึงเวลาแล้ว แล้วเค้าก็พร้อมที่อยากจะทำ แบ้ว เจ็งว่าความสามารถเค้าก็ไม่ใช่ไม่มี สิ่งที่เค้าเรียนมาตั้งแต่เด็ก เค้าก็เอามาใช้ในงานนี้ค่ะ

แบบนี้ต้องหา ผู้จัดการเพิ่มไหม ?

เจ็ง: จริงๆ แบ้วไม่ได้จะผูกติดกับใคร จริงๆบ้านเราเลี้ยงลูกเองอยู่แล้ว แต่ที่ทำงานกันมา พี่ๆน้องในสายวงการบันเทิงก็จะแบบ ช่วยหางานให้น้อง เราก็ไม่ติด แต่เราแบบ ไม่ได้เซ็นสัญญากับใคร หลักๆเราก็ดูกันเอง

ค่ายเพลงนี้เล็งศิลปินเบอร์สองไว้ไหม?

พีท: (หัวเราะ) ช่วงนี้ต้องขออนุญาติ ใช้คำว่าเราจะโตไปกับน้องก่อนดีกว่าเพราะว่ามือใหม่มากๆ ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ใช้คำว่าเป็นค่าย เรายังอินดี้มาก น้องเพิ่งก้าวออกมาสู่โลกความเป็นจริงของวงการบันเทิง เราจะขอสร้างน้องให้แข็งแรงที่สุดแล้วก็โตไปกับน้อง

ถามถึงการถ่ายทำเอ็มวี?

มิย่า : เอ็มวีวันนี้ตอนแรกหนูไม่คิดว่ามันจะดีขนาดนั้น มาหน้าเซ็ตตอน6โมง ก็ซีนปกติ แต่พอไปแต่งหน้ากลับมาทั้งไฟ ทั้งเซ็ตติ้ง หนูตาค้างเลย เพราะมันสวยจริงๆ ต้องรอคิดตามกัน

มีจิ้นกับพระเอกไหม?

พีท: ต้องรอติดตาม จริงๆต้องขอบคุณทุกคน ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จะได้เห็นจุดเด่นของเอ็มวี ผมเชื่อว่าปกติในเมืองไทย ค่ายเพลงจะปิด ให้สื่อมวลชนเข้าไปในกองเพราะว่าต้องการเก็บความลับ แต่ก็ไม่ได้มีความลับอะไรมากมายหรอก แค่ไม่อยากให้ค่ายหรือคู่ต่อสู้เก็บข้อมูล แต่เราคิดว่าโลกหมุนไปเร็ว ผู้กำกับลงสตอรี่ไปแล้ว เสื้อผ้าหน้าผมเป็นอย่างนี้ พระเอกคนนี้ ไม่มีอะไรปิดอยู่แล้ว ไหนๆก็ไปชมกันดีกว่า

ครอบครัว ทองเจือ / (จากซ้ายไปขวา ) พีท/เซย่า/โรเตอร์/เจ็ง/มิย่า

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน