พี่ฉอด ไม่โกรธ ขวัญ เทกอง มองเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข ได้นางเอกใหม่แล้ว

ก่อนหน้านางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ออกมายอมรับว่าเทกองละคร “สายรุ้ง” กลางอากาศ วันนี้ได้เวลาที่ฝ่ายทีมงานอย่าง พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา พร้อม เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย และผู้กำกับฯมือทอง กู่ เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระหว่างมาร่วมงาน LINE TV AWARDS 2020

หลายคนอยากทราบเหตุผลที่แท้จริงเพราะขวัญก็พูดไม่เคลียร์
“เรื่องที่เกิดพี่ว่าทุกคนก็พอจะได้ยินข่าวกันแล้ว มาถึงตรงนี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว สำหรับพี่มองว่ามันก็คือปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในการทำงานของพี่ ซึ่งพวกพี่มีหน้าที่ต้องแก้ไข กว่าจะมาถึงวันนี้ ทุกอย่างมันถูกแก้ไขไปหมดแล้ว พี่เลยรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาพูดกันอีกว่าใครถูกใครผิด หรือรายละเอียดเป็นยังไง”
ไม่โกรธแล้ว
“ไม่ได้โกรธเลยตั้งแต่ต้นค่ะ”
เมื่อวานขวัญบอกรักพี่ฉอดหลายครั้ง
“พี่ก็รักขวัญ”

พี่ฉอด

เอส ฉอด กู่ ออกงานด้วยกัน

ขวัญบอกเป็นเรื่องของการสื่อสารผิดพลาดหลายคนอยากรู้ว่าผิดพลาดตรงไหน
“เวลาที่มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ตาม พี่ว่าคนที่จะรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น คงเป็นคนที่อยู่ตรงนั้น ซึ่งมีไม่กี่คน แต่ปัญหาที่มักจะเกิดต่อมาก็คือ เราอาจมีมุมมองคนละมุม หรือความคิดเห็นคนละแบบ แล้วพอต่างฝ่ายต่างพูดกันไปต่างๆ แล้วก็จะมีพวกที่ไม่รู้ แต่อยากแสดงความคิดเห็น แล้วเรื่องราวแต่ละเรื่องก็จะลุกลามใหญ่โตไปเรื่อยๆ ซึ่งพี่ก็ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้น พี่ถึงได้บอกว่ามาถึงวันนี้มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องมาพูดกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครถูกใครผิด พี่ว่าวันนี้ได้แก้ปัญหาในส่วนของพี่ไปบ้าง”
เรื่องนี้กระทบอะไรบ้าง
“เวลาทำละครมันจะเกี่ยวเนื่องกับคนเยอะ แล้วก็เรื่องของคิวนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับฯ หรือแม้แต่ทางช่อง ซึ่งเราเองก็มีเดทไลน์กับทางช่อง”
ขวัญบอกจะชดใช้ค่าเสียหายให้
“ไม่เป็นไรค่ะ มันอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องเงินทองอย่างเดียว แต่ว่าอย่างที่บอก ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องขึ้น ในส่วนตัวพี่เอง พี่เอส พี่กู่ สิ่งที่เราต้องทำก็คือต้องไปขออภัย หลายๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน แล้วก็พยายามแก้ไขปัญหาต่อไป เช่น เราต้องไปขออภัยนักแสดงทุกท่านที่มาแล้วไม่ได้ทำงาน หรือทางช่องที่งานมันล่าช้าไป”
เปลี่ยนตัวนักแสดงเลย
“อันนี้เซ้นซิทีฟนิดหนึ่ง เพราะพี่ก็ไม่อยากให้พูดกันไปว่า พี่ถอดขวัญ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ จริงๆ หลังจากวันนั้นที่เรารู้ว่าน้องขวัญเล่นไม่ได้ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องทำโดยด่วนที่สุดก็คือหาคนอื่น ซึ่งมันคือสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วอัตโนมัติ ไม่เกี่ยวกับการถอดหรือไม่ถอด เพียงแต่ว่าเราต้องทำงานไปข้างหน้า เราก็ต้องหาคน”

พี่ฉอด

ขวัญให้สัมภาษณ์ก่อนหน้า

มันเป็นปัญหาของการข้ามช่องไหม
“จริงๆ มันไม่ได้มีปัญหาอะไรในส่วนนั้นสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองว่าเป็นปัญหาการเข้าใจผิด เรามองแบบนั้นก็ได้ค่ะ อีกอย่างหนึ่งต้องขออนุญาตพูดนะคะ ตอนที่เราพูดกันถึงการสื่อสารกันผิดพลาด หรือว่าการเข้าใจผิดใดๆ พี่ว่าคนที่ต้องรับในเรื่องนี้ก็คือทีมที่ประสานงาน ซึ่งพี่ขออนุญาตพูดแทนเขานิดหนึ่ง เพราะเขาเป็นแค่น้องทีมงานตัวเล็กๆ คงไม่มีโอกาสได้มาชี้แจง หลังจากเกิดเหตุการณ์ปุ๊บ สิ่งที่เราต้องทำคือเช็กก่อนเลยว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งเราก็ได้เช็กแล้ว น้องมีหลักฐานทั้งหมด ก็เลยคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นประเด็นการเข้าใจผิดจากฝั่งทีมงานของเรา แต่ก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าผิดจากฝั่งใคร”
เพราะวันนั้นยังไม่ถึงกอง
“ยังไม่ถึงค่ะ พอดีวันนั้นพี่กับพี่เอสมีงานอีกที่หนึ่ง แล้วก็ยังไปไม่ถึงกอง ก็ได้แต่ฝากพี่กู่ ขอโทษหลายท่านที่อยู่ตรงนั้น บางคนถึงกองแล้ว บางคนยังไม่ถึง รวมถึงพี่ๆ ทาง PPTV ด้วย ซึ่งพี่ๆ ก็น่ารักมาก เพราะตอนนี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็คือ ขอโทษกันและกัน เราก็ได้ข้อสรุปอันหนึ่ง เวลามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพูดคำว่าขอโทษกัน มันไม่ได้แปลว่าใครถูกใครผิด การขอโทษหมายความว่า เรามีความรับผิดชอบเกิดขึ้น แล้วเราก็มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งพี่ว่าตรงนี้มันโอเคที่สุดแล้ว ในสิ่งที่มันเกิดขึ้น”
ตอนนี้คือได้นักแสดงใหม่เรียบร้อยแล้ว
“อันนี้ขอยังไม่พูดแล้วกันค่ะ เดาว่าถ้าพี่บอกชื่อไปเดี๋ยวน้องๆ ก็ต้องไปถามเขารู้สึกยังไงที่มาแทน เขาก็จะเดือดร้อนเปล่าๆ ไว้ให้ทั้งช่องแถลงเองดีกว่า”
ในอนาคตจะสามารถร่วมงานกับขวัญได้ไหม
“พี่ไม่ได้มีปัญหากับใคร เมื่อวานเราก็ได้ฟังกันแล้ว น้องก็น่ารัก น้องขอโทษ พูดถึงพี่เยอะมาก พี่ไม่ได้ติดอะไร”

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
พี่กู่อยู่ในเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้น อารมณ์เป็นยังไง ผู้กำกับฯคนเก่งบอกว่า
“ไม่สะเทือนใจและไม่ได้โกรธ แต่งงมากกว่า เพราะจริงๆ เหตุการณ์ในวันนั้นพี่กับน้องคุยกันแค่คำเดียวคือคำว่า สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ แล้วพี่ก็บรีฟงานกับพี่ตั๊ก มยุรา ต่อ หลังจากนั้นก็ลงไปถ่ายงานต่อ ซึ่งยังไม่ถึงส่วนของน้อง ก็รู้สึกว่าข้างบนเสียงดังนิดนึง เราก็เอ๊ะมีเรื่องอะไร สุดท้ายเขาบอกว่ามีปัญหานิดหน่อย เราก็รอฟังว่ามีเรื่องอะไร สุดท้ายน้องเขาก็กลับไปเลย เรารู้เท่านี้”
เขาไม่ได้มาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น
“อ๋อไม่ครับ น้องพูดกับพี่แค่สวัสดีค่ะ พี่ก็เลยไม่รู้ว่าอะไร หลังจากนั้นเสร็จปุ๊ป พี่ก็งงๆ ก็เลยต้องโพสต์ว่ากองถ่ายควรงดนะ เพื่อที่จะไปบอกนักแสดงที่เขามาว่าเกิดอะไรขึ้น ก็บอกได้แบบกระท่อนกระแท่นเพราะก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นฉะนั้นสิ่งที่โพสต์คือความงง ไม่ได้โกรธ ไม่ได้อะไร คือความงงจริงๆ”
แต่นักแสดงร่วมหลายคนก็เข้ามาคอมเม้นต์ในไอจีเรา เพราะเขาเคยเจอประสบการณ์เดียวกันหรือเปล่า
“อันนั้นพี่ก็ไม่ทราบ ถ้าพี่ไม่เจอกับตัวพี่จะไม่พูด ฉะนั้นจะไม่สนอะไรทั้งสิ้นเพราะแต่ละคนปฏิบัติต่างกันอยู่แล้ว แต่พอมาเจอแบบนี้ก็ อ้าวหรอ ไม่มีอะไรก็งง”
วันนั้นเราเสียขวัญจริงหรือเปล่า
“ขวัญพี่ยังอยู่ แต่ขวัญเดินจากพี่ไปแล้ว น่าจะเสียหรือเปล่า”

พี่ฉอด

กู่โพสต์เสียขวัญ…

หันมาถามหนุ่มเอส วรฤทธิ์ ในฐานะคนดูแลภาพรวมของละคร เป็นครั้งแรกไหมที่เจอปัญหาแบบนี้ เจ้าตัวชี้แจงว่า
“วันที่เกิดเหตุการณ์ก็ไม่ได้อยู่ ติดธุระอยู่ข้างนอก ยังไม่ได้เข้ากอง แต่ส่วนตัวผมโฟกัสที่การแก้ปัญหาแล้วไปข้างหน้ามากกว่าครับ เหตุการณ์วันนั้นก็ได้รับแจ้ง ตอนที่เกิดเหตุกองก็โทรมา ก็รับทราบ โอเคต้องหาทางแก้ปัญหา อันดับแรกเวลาเกิดปัญหาคือเราต้องเช็คฟังของเราก่อนว่าสื่อสารผิดพลาดอะไรหรือเปล่า ตรงนี้พี่ว่าพี่ฉอดชี้แจงไปชัดเจนแล้วนะครับ ถ้าเกิดความผิดพลาดจากฝั่งเราเราก็ต้องยอมรับ ในแง่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ฉะนั้นพอเช็คแล้วเราก็คิดว่าเรามีความชัดเจน ในการสื่อสารเพียงแต่มันจะผิดพลาดตรงไหน ที่ทำให้น้องเข้าใจผิดอันนี้พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่สุดท้ายเรื่องมันผ่านไปแล้วเราโฟกัสเรื่องการไปข้างหน้ามากกว่า”
ด้านพี่ฉอดเสริมขึ้นว่า
“เราต้องมูฟออนค่ะ ถามว่าคิวเรื่องการฟิตติ้งมีผลกระทบไหม ก็เลื่อนไปค่ะ จริงๆ วันนั้นคือถ่ายเทลเลอร์ เป็นทีเซอร์ที่ทางช่องต้องเอาไปใช้กับลูกค้า ก็ไปขออภัย พี่ถา สถาพร ช่องGMM25 ก็อย่างนี้ล่ะค่ะ ก็ไปขอโทษทุกคน สุดท้ายทุกอย่างก็จบด้วยดีค่ะ รอดูอีกทีแล้วกันว่าเป็นใครรอให้ช่องGMM25 แถลงค่ะ โยนไปที่พี่ถา (หัวเราะ)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน