โอบควงมะปราง ฉลองครบรอบ 3 ปีที่ลอนดอน รับกลัวอาถรรพ์รัก
โอบควงมะปราง – นักแสดงหนุ่ม ‘โอบ’นิธิ วิวรรธนวรางค์ เปิดตัวหนัง “ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด” พร้อมอัพเดตความรักกับสาว ‘มะปราง อลิสา’ ที่เพิ่งฉลองครบรอบ3 ปี
ถามถึงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา?
โอบ “จริงๆ ผมเพิ่งถ่ายละครเสร็จ ก็มีแค่กินข้าวตอนเย็น”
เหมือนหวานก่อนหน้าแล้วฉลองครบ 3 ปี?
โอบ “ไปฉลองครบรอบ 3 ปีที่นั่นครับผม”
หลายคนกลัว 3,5,7 ปี จะเป็นอาถรรพ์?
โอบ “ผมก็กลัวเหมือนกันครับ แต่ว่าทุกวันนี้ก็มีความสุขดี น่าจะโอเค ไม่เป็นอะไร”
พิเศษยังไงถึงไปฉลองกันที่ลอนดอน?
โอบ “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ พอดีพี่สาวผมรับปริญญาที่อังกฤษ แล้วมีเวลาว่างอยู่ช่วงหนึ่งก็เลยไปงานรับปริญญา พร้อมไปเที่ยวกับครอบครัว ก็คือไปทั้งบ้านเลย พ่อแม่ พี่สาว แฟนพี่สาว เหมือนรวมญาติ เพราะไม่น่าจะมีบ่อยๆ ที่คนในครอบครัวไปรับปริญญาต่างประเทศ”
เขาเอ็นจอยไหม?
โอบ “ก็ดีนะครับ เขาบอกว่าปกติถ้าไปเที่ยวกับเรา ส่วนใหญ่จะผมจะมีหน้าที่แบกกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบ สุดท้ายผมก็แบกเหมือนเดิม แต่เป็นของแม่ ส่วนเขาต้องแบกเอง”
พิเศษไหม 3 ปี?
โอบ “มันก็เป็นวันๆ หนึ่งที่เรารู้สึกว่ากลับมาครบรอบอีก 1 วันแล้ว เราก็ไม่ได้มีของอะไรให้กัน ปีนี้เป็นปีที่แปลกอีก 1 ปี เพราะเราได้มาอยู่ที่นี่ ทุกปีจะอยู่แค่กรุงเทพ”
ปีต่อไปต้องมีเป้าหมายใหญ่กว่าเดิม?
โอบ “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาว่าเวลานั้น เราทำอะไรอยู่มากกว่า ถ้ามีโอกาสก็คงได้ไป หรือไม่ได้ไป แล้วแต่ช่วงเวลา”
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ช่วงนี้ดูเหนื่อยเหมือนกันเขาทำงานหนัก?
โอบ “เขาทำงานเหมือนร้อนเงิน มีทั้งละคร ทั้งรายการร้องเพลง มีรายการใหม่อีก มีโน่นนี่นั่นอีก ผมก็เลยรู้สึกเขาร้อนเงิน รับเยอะ แต่ก็ครับ เวลาเราเห็นใครได้งานเยอะๆ ก็รู้สึกดีใจกับเขา เพราะเหมือนเป็นช่องทาง เป็นโอกาสของเขา”
เป็นห่วงสุขภาพไหม?
โอบ “ก็เป็นห่วงกลัวเขานอนไม่พอ”
ต้องไปรับไปส่งไหม?
โอบ “มีบ้าง เวลากินข้าว แต่ช่วงนี้ผมถ่ายละคร ก็ไม่ค่อยมีเวลา”
เวลาเป็นอุปสรรคกับคู่เราไหม?
โอบ “ไม่หรอกครับ จริงๆ แล้วผมว่าอยู่ที่การคุยกันมากกว่า ถึงแม้เราไม่ได้เจอกัน เราก็ยังติดต่อสื่อสารกันได้ บอกว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่”
ช่วงนี้กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว?
โอบ “จริงๆ แล้วก็ประมาณนั้น มีงานดี ก็ดีใจ”
ถามถึงเรื่องที่ต้องมาพูดภาษาอีสานในเรื่อง “ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด”?
โอบ “ผมเป็นคนที่พูดไม่ได้เลย เป็นคนภาคกลาง ผมไม่ค่อยมีบทบาทอะไรพวกนี้เข้ามาผมเลยรู้สึกว่าการที่เราเป็นนักแสดง มันเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับเรา มันน่าจะลองอะไรแบบนี้ เพราะมันอะไรที่ท้าทายสำหรับเรา”
ปิดไว้นานแค่ไหน ที่ไม่บอกใครว่าเล่นเรื่องนี้?
โอบ “เรื่องนี้ถ่ายตั้งแต่ ก.ค. ปีที่แล้ว ผมต้องเงียบจนกว่าที่ทีเซอร์จะปล่อย ผมอยากให้มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงว่าผมจะทำอะไรแบบนี้”
มีการเรียนเรื่องภาษาไหม?
โอบ “มีการเวิร์กชอป ผมบินไปขอนแก่น 2-3 ครั้ง เพื่อไปดูว่าคนที่นั่นเขาใช้ชีวิตอย่างไร และไปพูดคุยกับเขา มันยากมาก ภาษาอีสานสำเนียงมันต่างกัน ในแต่ละจังหวัด มันเลยมีความแตกต่างกันนิดๆ หน่อยๆ แต่เรื่องเล่นเป็นคนอีสานขอนแก่น”
นอกจากภาษาอีสานแล้ว เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ล่ะ?
โอบ “เป็นรูปแบบใหม่ที่ผมไม่เคยเจอ ไปต่างจังหวัด ที่บ้านไม่มีแม้กระทั้งรั้ว เป็นแค่ไม้กั้นธรรมดา เป็นดินแดง ตอนเช้าผมได้คนเห็นพาฝูงควายไปเดินตามท้องนา ตอนเย็นเขาก็พาควายกลับมา และสิ่งที่เรียนรู้ได้คือ เดินผ่านฝูงควายห้ามมองตามัน ไม่งั้นมันจะวิ่งชนเรา แล้วเราต้องหลบให้เขาด้วย ไม่ว่าเราจะเป็นรถยนต์คันใหญ่ หรือยืนอยู่ เพราะเขามีอยู่ประมาณ 20-30 ตัว”
ไปอยู่ที่ขอนแก่นนานแค่ไหน?
โอบ “ช่วงนั้นบินไปกลับขอนแก่นเกือบ 2 เดือน ถ้าเรามีงานที่กรุงเทพเราต้องบินกลับมา แล้วมันค่อนข้างเหนื่อยกับการเดินทาง”
คาดหวังมากน้อยขนาดไหน?
โอบ “ผมไม่ถึงกับคาดหวังว่ารายได้จะเยอะขนาดนั้น ผมรู้สึกว่าอยากให้หลายๆ เคส เห็นพัฒนาการของผมว่าสิ่งเหล่านี้ผมก็สามารถทำได้เหมือนกัน”
มีติดมาใช้ในชีวิตประจำวันไหม?
โอบ “มีติดอุทาน”
มะปรางว่าไงบ้าง?
โอบ “พอออกมาเขาบอกว่าทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ หลายๆ คนไม่เชื่อ เพื่อนผมหลายๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก็บอกว่านั้นใช่โอบเหรอ ผมบอกว่าใช่ดิ นั่นคือความสำเร็จของผมอย่างนึง เพราะคนไม่คิดว่าจะทำอะไรแบบนี้”
อย่างแบงค์ก็เป็นคนขอนแก่นได้ปรึกษาไหม?
โอบ “แบงค์พูดไม่ได้ แต่ฟังออก มันเลยสอนอะไรผมไม่ได้”
