วันที่ 6 ต.ค. ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ชี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องประเด็นดราม่าหลังให้พระบี้(ธรรศภาคย์ ชี) อุ้มลูกสาวตัวน้อย ‘เป่าเปา’ รวมถึงอีกเรื่องดราม่าหลังเจ้าตัวถูกพิธีกรรุ่นใหญ่ ‘ม้า-อรนภา’ วิจารณ์เรื่องท้องก่อนแต่ง
โดย กุ๊บกิ๊บ เผยว่า “ตอนเกิดเรื่องดราม่าคนอาจจะเห็นว่าทำไมกิ๊บเงียบๆ ก็กิ๊บไม่ได้รู้สึกอะไรมันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนในสังคมจะเห็นต่างบ้าง และกิ๊บเป็นคนคริสต์ ฉะนั้นก่อนจะทำอะไรเราได้ถามเจ้าอาวาสกับพระแล้ว และคนก็อยู่เยอะเราอยู่ในที่รโหฐาน เราไม่รู้อยู่แล้วว่าทำได้หรือไม่ได้ พอพระท่านบอกได้เราก็โอเค ซึ่งมันต้องมีคนเห็นต่างอยู่แล้วบางคนก็บอกไม่เห็นเป็นอะไร บางคนก็บอกดูไม่ค่อยเหมาะ เราก็เคารพทุกความคิดเห็น อย่างในไอจีที่กิ๊บเอาขึ้นมาโพสต์กิ๊บไม่ชอบที่เขาพูดจาหยาบคายและว่าลูกเรา ว่าพระเราโกรธประมาณนึง แต่มาว่าลูกเราคนเป็นแม่ไม่ยอมอยู่แล้ว กิ๊บว่าคนแบบนี้ไม่ควรมองข้าม เราควรเอามาโชว์ให้เห็นว่าคุณควรจะมีมารยาท สมมติใครที่อยากจะคอมเม้นต์แบบนี้จะได้หยุดคิดนิดนึงว่า ถ้าพูดออกไปแล้วผลที่ได้รับกลับมาจะเป็นยังไง จะออกความคิดเห็นเราไม่ว่าแต่อย่าหยาบคายและลามไปถึงพระเจ้ามันบาปกรรม คุณไม่รู้หรอกว่ามันถูกผิดแค่ไหนก็ไม่ควรไปว่าท่าน ซึ่งท่านกำลังปฏิบัติดีอยู่ กิ๊บเลยรู้สึกว่าอย่างนี้ไม่สมควร”
“สำหรับกรณีของพี่ม้า-อรนภา อันนี้พูดเลยว่า กิ๊บไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับการวิจารณ์ของพี่ม้า กิ๊บเคารพพี่ม้าเหมือนเดิม ไม่ใช่ออกมาตอบแอ๊บแบบดารานะ แต่เรารู้สึกว่าสิ่งที่พี่ม้าพูดเนี่ยเป็นมุมของผู้ใหญ่ในแบบของพี่ม้า ซึ่งพี่ม้ามีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็น และพี่ม้าไม่ได้พูดคำหยาบคาย สำหรับตัวกิ๊บไม่ได้รู้สึกอะไรนะ กิ๊บมองว่าพี่ม้าเป็นผู้ใหญ่คนนึงที่เห็นโลกมาเยอะ แล้วเขาก็แค่เห็นต่าง เขาก็มีสิทธิ์ที่จะพูด ซึ่งเราก็แค่รับฟังแต่เราจะทำตามหรือไม่ทำตามก็เป็นสิทธิ์ของเรา”
(หลังจากเราได้ชี้แจงในอินสตาแกรม พี่ม้าได้มีมาพูดคุยหรือขอโทษที่พูดแรงไปบ้างไหม) “ไม่มีนะคะ จริงๆ กิ๊บว่าพี่ม้าไม่จำเป็นต้องขอโทษและกิ๊บก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษพี่ม้า ไม่มีใครควรจะต้องขอโทษกันในความคิดกิ๊บนะ มันเป็นความคิดส่วนบุคคล อย่างที่พี่ม้าบอกว่าเราอยู่ตรงนี้เป็นดารา ทุกคนมีสิทธิ์เข้ามาแสดงความคิดเห็น อย่างที่กิ๊บบอกว่าคิดต่างได้แต่อย่าหยาบคาย คนเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ ถ้ากิ๊บเจอพี่ม้าก็คงสวัสดีและเคารพพี่ม้าเหมือนเดิม กิ๊บไม่คิดจะเกาเหลากับพี่ม้าอยู่แล้ว กิ๊บว่าในส่วนที่พี่ม้าพูดมันก็มีส่วนที่เป็นเรื่องจริง หมายถึงว่ามันก็เป็นมุมมองของผู้ใหญ่ซึ่งมันจริง แต่อย่างที่บอกมันอยู่ที่เราเลือกที่จะทำ เราคิดอีกแบบนึงเราใช้ชีวิตอีกแบบนึงมันก็เป็นสิทธิ์ของเราแค่นั้นเอง คนที่ดราม่าเขาอาจจะรู้สึกไม่ชอบที่พูดเรื่องท้องก่อนแต่งและอาจจะไปเกี่ยวกับหลายคนด้วย อันนั้นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นเขาที่จะวิจารณ์ แต่ถ้าตัวกิ๊บเองไม่ได้เกาเหลากับพี่ม้าแน่นอน”
(ทางพระบี้ได้ทราบข่าวหรือถามเกี่ยวกับประเด็นดราม่าบ้างไหม) “พระน่าจะรู้เรื่องน้อยมาก เพราะท่านไม่ได้ติดตามโซเชียลเลย น่าจะไปอยู่ป่าเดินธุดงค์อยู่ และเราก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เอาจริงๆ มันไม่ได้กระทบชีวิตกิ๊บนะ เราไม่ได้รู้สึกว่าเราทำผิด ถ้าคนจะมองว่าไม่เห็นด้วยไม่เหมาะสมมันก็เป็นความคิดของเขา พระไม่มีถามอะไรมีแต่พูดก่อนจะบวชว่า เขากำลังจะทำบุญใหญ่นะมันอาจจะมีอุปสรรคบ้าง อาจจะมีเรื่องราวกวนใจบ้างให้เราอดทน เราเองไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าเขาหมายถึงอะไร เพราะศาสนาเราไม่มีแบบนี้แต่เราก็รับปากไป ตั้งแต่เขาบวชก็นิ่งมากดูเป็นคนละคนเลย จริงๆ กิ๊บไม่ค่อยรู้ความเป็นไปของท่านเท่าไหร่ เพราะไปเยี่ยมท่านมาแค่ครั้งเดียวเอง เราต้องเลี้ยงลูกและทำงานด้วย ท่านเองก็มีไปกิจนิมนต์ ไปธุดงค์ตลอด นี่เห็นว่าจะไปประเทศอินเดียด้วย เหมือนท่านยืดเวลาสึกออกไปอีกจากเดือนนึงเป็นเกือบสองเดือน เพราะท่านอยากอยู่งานบุญกฐินใหญ่”
(ต่อข้อถามถึงการเลี้ยงดูลูกเราต้องปรับเปลี่ยนอะไรไหม เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็กลายเป็นกระแสดราม่าไปหมด) “ไม่เปลี่ยนอะไรเลย ลูกฉลาดมากค่ะ มาเลี้ยงลูกแข่งกันมั้ยคะ(หัวเราะ) กิ๊บแฮปปี้แล้วก็ชินกับการเจอกระแสดราม่า และกิ๊บจะบอกว่า ซึ่งดาราหลายคนก็เอาไปใช้ได้นะ เวลามีกระแสดราม่าออกมาให้เราคิดในด้านบวก อย่างของกิ๊บเราคิดว่าคนคงเป็นห่วงลูกเรา เขาคงรักเด็กเขาเลยอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเด็กเสมอ แต่ว่าเราจะเลี้ยงลูกยังไงเราจะให้ลูกเราเติบโตมาแบบไหนมันก็สไตล์บ้านใครบ้านมัน กิ๊บก็มีการศึกษามาในแบบของเรา คือคุณต้องมีสตินิดนึงว่าที่เขาถ่ายคลิปลงในไอจีมันเป็นแค่ 1-2 นาทีที่คุณได้เห็นมันไม่ใช่ว่าเด็กจะเป็นอย่างนั้นตลอดเวลา กิ๊บไม่ได้ซีเรียสและไม่คิดจะเปลี่ยนอะไร ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่แคร์กระแสดราม่าใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ”
