ONWARD

คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์

คอลัมน์ หนังเด่น

โดย…กฤษฎา

ONWARD –ะหว่างรอเวลาเข้าโรง ผมยืนพิจารณาภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์หนังซึ่งเป็นภาพขนาดใหญ่ ราวๆ 8 x 8 ฟุต ด้วยขนาดของภาพทำให้มองเห็นตั้งแต่ภาพบุคคลที่ต้องการเน้นไปจนถึงรายละเอียดเช่น ป้ายร้าน แสงไฟ ทิวเขาสูงด้านหลังและสัตว์ในนิทานอย่างม้ายูนิคอร์น กำลังค้นหาบางสิ่งจากถังขยะ

ONWARD

ความหมายที่สื่อออกมาทำให้พอเข้าใจได้ว่าน่าจะเป็นหนังแฟนตาซี ในขณะเดียวกัน ก็มีการเน้นไปที่งานออกแบบฉากสถานที่ให้มีสีสันสวยงาม

ในอีกด้านหนึ่ง เป็นการดูภาพโดยไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องหรือโครงเรื่องของหนังมาก่อน นั่นทำให้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร รู้แค่ว่ามีเวทมนตร์เป็นองค์ประกอบสำคัญ

เมื่อมองจากด้านนี้ กล่าวได้ว่าภาพที่เห็นสามารถเรียกร้องความสนใจใคร่รู้ ในขณะเดียวกันก็ชี้ช่องทางเล็กๆ เพื่อให้นำไปต่อเติมตามความคิดของแต่ละคน

ONWARD

ONWARD

เพียงแค่เปิดฉากแรก หนังได้ทำให้เห็นถึงจินตนาการในการสร้างเรื่องและตัวละคร เช่น การออกแบบใบหน้าของตัวละคร และได้ ย้ำถึงจินตนาการอีกขั้นในฉากต่อมาไม่นาน

ฉากที่เวทมนตร์ทำให้พ่อของสองตัวละครกลับมาในสภาพแค่ครึ่งล่าง เห็นแค่ขาและเท้า เป็นส่วนสำคัญที่สะท้อนถึงจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนตัวขับเคลื่อนให้เรื่อง เดินไปข้างหน้า

ที่ต้องไม่มองข้ามก็คือ ขณะที่เรื่องดำเนินไปนั้น หนังได้บรรยายให้เห็นถึงตัวละครที่มีความหลากหลายเหมือนภาพในนิทาน พร้อมๆ กันนั้นก็สอดแทรกอารมณ์ขันเข้ามาอย่างถูกที่ถูกเวลา

ONWARD

ONWARD

เมื่อหนังมาถึงฉากสำคัญที่สุดของเรื่อง เป็นสิ่งที่ต้องชื่นชมชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง ทั้งการกำหนดสถานการณ์และการเขียนบทสนทนา

การที่ตัวละครผู้เป็นลูกชายแอบมองเห็นพ่อ (ผู้กลับมา-จากการจากไป) กับพี่ชายพูดคุยทักทายกัน โดยมีฉากหลังอันแสนสวยงาม นั้นเป็นภาพที่น่าจะทำให้ทั้ง ตรึงใจอิ่มใจ

แม้เรื่องราวเป็นการตามหา “ครึ่งส่วนของพ่อ” แต่หนังก็บอกอย่างชัดเจนว่า ที่ตัวละครสองพี่น้องได้ค้นพบ (ซึ่งอาจจะสำคัญกว่า) ก็คือ ความรักความเข้าใจระหว่างพี่น้อง

ONWARD

หรือกล่าวได้ว่าการตามหาส่วนของพ่อเป็นเพียงวิธีการที่นำไปสู่เป้าหมายคือการค้นพบส่วนของลูก

นับเป็นหนังที่มีความเพลิดเพลินมอบให้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และแสดงถึงความยอดเยี่ยมด้านเทคนิคงานฝีมือ

แน่นอน เป็นหนังสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน