จั๊กกะบุ๋ม ขอฟังผมบ้าง ยอมรับทำเพราะบันดาลโทสะ ถูกกดดันมา 3 ปี
จากกรณีที่มีคนออกมาแฉว่าทำร้ายผู้หญิง ทำลายข้าวของ พร้อมกับขู่จะเผาข้าวของตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ล่าสุดผู้สื่อข่าว ข่าวสดออนไลน์ สอบถามไปทางตลกชื่อดัง จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม หรือ นรเศรษฐ์ ทรงกลด ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จั๊กกะบุ๋ม
โดย ตลกชื่อดัง เล่าอย่างละเอียดว่า
“เรื่องเกิดจากเรื่องราวหึงหวนของผัวเมีย เรียกว่าอดีตแฟนดีกว่าครับ เรื่องเกิดขึ้นวันที่ 23 มี.ค. เหตุของการทะเลาะกันเพราะเขาใส่ร้ายว่าผมไปมีอะไรกับเด็กเสิร์ฟในร้าน ผมก็เลยโมโหทุบข้าวของในร้าน ซึ่งตอนนั้นร้านใกล้จะปิดแล้ว
ตอนเช้ามาพนักงานก็มาเก็บกวาดร้าน ของที่ผมทุบเมื่อคืนแล้วก็พวกแก้วที่ผมปาผู้หญิงคนนั้น แต่ว่าไม่ได้ปาโดนเขานะ ผมปาลงพื้น คือเหตุการณ์มันมีสาเหตุ แล้วเขาก็มาใส่ร้ายผม ว่าทำร้ายร่างกายเขา ผมทำเพราะมันเกิดจากการบันดาลโทสะ มันเกิดจากความหึงหวง ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาก็จะไล่ผมออกจากบ้าน มันเป็นความกดดัน เพราะเขารู้ว่าผมไม่เงิน ไม่มีที่ไป หลังจากนั้น 2-3 วัน ก็มาคุยแล้วก็ทำข้อตกลงกัน เป็นแบบนี้มา 3 ปี
ถูกแฉ
หลังจากทุบทำร้ายของไปแล้วรอบหนึ่งตอนเย็น ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็ให้เด็กไปเก็บกวาดร้าน แล้วเด็กเสิร์ฟ 2 คนที่ผู้หญิงคนนั้นเขาหาว่ามีอะไรกับผม มาขออนุญาตไปอาบน้ำ ซึ่งตอนนั้นประมาณ 10 โมงเช้า ผมก็เห็นว่ายังมีเวลา เพราะว่าร้านผมเปิดประมาณ 11 โมง
ผู้หญิงคนนั้นก็โทรศัพท์เข้ามา ด่าอีกว่าอี 2 คนนี้มันช่วงมีอภิสิทธิเหลือเกิน ถ้าจะเอากันก็ให้ไปทำกันที่อื่น อย่ามาทำในบ้านกู คือเขาใช้ถ่อยคำหยาบมากผู้หญิงคนนั้นบอกว่า ให้ผมเลือกถ้าจะอยู่ต่อก็ให้ไล่เด็กนั้นออกไป แต่ถ้าไม่ก็ให้ออกไปอยู่ที่อื่น ด้วยความโมโหผมก็ทุบที่เดิมอีก แล้วก็หิวน้ำมันดีเซล ซึ่งผมทำไว้ไล่ยุง มันจุดไฟไม่ติด ผมก็เอาไปราดๆ
เพื่อให้รู้ว่าผมสร้างทุกอย่างมาได้ ก็ทำลายมันได้เช่นกัน แต่ว่าผมก็ไม่ได้จุดไฟหรอกครับ อีกอย่างตอนที่เกิดเหตุผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุผมมีพยานในเหตุการณ์ สาเหตุของเรื่องมันเกิดขึ้นจากเงินแค่ 50 บาท เด็กสองคนนั้นจะกลับบ้านแล้วเขาไม่มีตังค์จะเบิกเงิน ผมก็บอกว่าไม่มีให้ไปเอาที่ผู้หญิงคนนั้น วันนั้นเขายืนอยู่หน้าร้าน หลังจากนั้นต่อว่า”
แต่ที่อีกฝ่าย โพสต์ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ โดนทพร้ายร่างกาย มีบาดแผลมายืนยัน
“แผลนั้นไม่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย ผมไม่ได้ทำร่างกายเขาเลย แต่แผลได้มาจากการชุลมุนวันแรกที่ผมทุบข้าวของ และก็วิ่งหนี้กันไปมาแล้วชนโน้นชนนี้ ผมไม่โกรธนะคนที่เข้ามาเมนต์ด่า เพราะเขาไม่รู้ และผมเป็นผู้ชายยังไงก็ต้องโดนด่า แต่ผมอยากบอกว่าผมมีพยานในที่เกิดเหตุ ตอนนี้เด็กในร้านทุกคน รวมทั้งเด็กผู้หญิงทั้งสองคนก็มาอยู่กับผม แล้วเด็กสองคนที่เขาหาว่ามีอะไรกับผม จะบอกว่าพ่อแม่เขามาส่งทุกวัน ผมจะไปมีอะไรกับเขา
หลังจากวันนั้นผมก็ตัดสินใจออกมาเลย พร้อมกับมีเงินติดอยู่ในบัญชีด้วยเงิน 317 บาท หลังจากนั้นก็ไลฟ์ขายรองเท้า ได้เงินมาก็เอามาเปิดร้าน ขายสุกี้ เป็นเดลิเวอร์รี่ อยู่ที่ระยอง ชื่อจั๊กบุ๋มหม้อแม่ ซึ่งพอเปิดร้านฟีดแบ็กก็ดี แล้วอยู่ๆ เขาก็เอาเรื่องนั้นมาโพสต์ ซึ่งเรื่องมันเกิดมาจะครึ่งเดือนแล้ว เขาทำแบบนี้เพื่อที่จะตัดเส้นทางทำมาหากินของผม
เรื่องที่เกิดขึ้นสิ่งเดียวที่ผมโกรธคือเขารูปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปโพสต์ในเพจร้าน บ้านจั๊กบุ๋ม ซึ่งในนั้นมีคนติดตามเยอะมาก เขาทำแบบนั้นเพื่อให้คนเข้ามาต่อว่า และทำลายชื่อเสียงของผม ซึ่งผมก็ไลฟ์สดเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วยอมรับว่าทุบของในร้านจริงๆ แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย”
นาทีราดน้ำมัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วเรื่องที่เราเอาบ้าน รถ ไปจำนองจริงไหม
“รถ บ้าน มันเป็นชื่อของเขาทั้งหมด ก็เอาไปจำนองเพื่อเอาเงินมาเป็นทุนในการใช้เปิดร้าน บ้านจั๊กบุ๋ม ธุรกรรมทั้งหมดเป็นชื่อเขา เหมือนกับว่าผัวเมียทำธุรกิจด้วยกัน ซึ่งเดือนๆหนึ่งผมต้องจ่ายเป็นแสน ลูกน้องเยอะต้องจ่ายเงินเดือน ซื้อของเข้าร้านอีก ร้านมันก็ไม่ได้ดี แต่ผมก็ยังบอกกับทุกคนว่าร้านยังได้กำไลอยู่ ผมกู้เงินนอกระบบมาเพื่อให้ร้านอยู่ได้ ผมต้องจ่ายให้คนที่มาเก็บเงินนอกระบบเดือนล่ะ 2.4 หมื่นบาท แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะมาทวงเงินว่าเมื่อไหร่จะใช้หนี้ ระหว่างที่ผมต้องรับผมชอบใช้หนี้ แต่เขาไปเที่ยวอยู่เยอรมัน เขาได้มารับรู้ไหมว่าผมต้องจ่ายเดือนล่ะเท่าไหร่ แล้วมานั่งกดดัน
คนเราพอมีหนี้ก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อหาเงินใช้หนี้ ทุกวันผมจะเป็นคนไปจ่ายของเข้าร้านเอง ดูแลลูกค้าเอง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็คอยดูกล้อง แล้วก็แคปภาพตอนที่ผมคุยกับลูหค้าผู้หญิง แล้วก็ส่งมาด่า ว่าผู้หญิงเป็นใครด่าหยาบๆ เป็นแบบนี้มา 3 ปีแล้ว ผมยอมรับอย่างไม่อายว่าผมเคยไปกระชากผมผู้หญิงคนนี้ออกมาจากห้องเข้ามาในร้าน
แล้วถามว่ามึงเป็นอะไรมาว่ากูไปเอากับลูกค้า ผมกดดัน ผมเจอแบบนี้มาตลอด 3 ปี แต่ใครจะรับฟังผมบ้างว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนร้านเดินมันเป็นบ้านเขา คือถึงผมทำใช้หนี้ผมแล้ว มันก็เป็นชื่อเขา ผมเคยเสนอว่าผมให้ค่าเช่าเดือนล่ะแสน แล้วพอหมดหนี้แล้วผมจะไป แต่เราจะอยู่แบบไม่ใช่ผัวเมีย เขาก็ไม่ยอม”
แล้วพอข่าวออกมาแบบนี้กระทบกับร้านไหม
“ไม่เลยครับ กลับขายดีขึ้นกว่าเดิม ผมว่าเข้าน่าจะรู้ว่าผมทำมาหากินจริงๆ”
