วันที่ 15 มิ.ย. ที่ สำนักงานใหญ่โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) ถ.อโศกดินแดง กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในงาน “Toyotsu Japan Festival” กรณีดราม่า “เข็มทิศชีวิต” หลัง เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน ดาราสาว โพสต์ถึงไลฟ์โค้ชคนดัง ครูอ้อย-ฐิตินาถ ณ พัทลุง เจ้าของหนังสือ “เข็มทิศชีวิต” ที่จัดคอร์สสัมมนาปรึกษาปัญหาชีวิตและได้มีการนำภาพของดาราสาวไปโปรโมตผลงาน ทั้งที่ไม่ได้ไปเข้าร่วมคอร์สนี้ 3 ปีแล้ว ซึ่ง ‘กาละแมร์’ ถือเป็นหนึ่งในคนสนิทและเข้าคอร์สกับ ‘ครูอ้อย-ฐิตินาถ’ หลายครั้ง
โดย ‘กาละแมร์’ กล่าวว่า “สำหรับเรื่องของน้องเอ๋เท่าที่พอทราบก็มีการพูดคุยกันแล้ว และทีมงานของครูอ้อยพยายามจะนำภาพของน้องออกให้ จริงๆ ก่อนที่จะมีการโพสต์ของน้อง คือได้มีการพูดคุยกันและพยายามจะเอารูปออกให้หมด ในส่วนของแมร์ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยินดีให้นำภาพไปใช้ได้ถ้าหากจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวให้กำลังใจหรือให้แง่คิด อะไรที่พอช่วยได้ก็ยินดี ส่วนตัวก็ได้คุยกับครูอ้อยถึงเรื่องนี้ แต่ครูก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร อย่างที่บอกว่าก็ได้ดำเนินการตามที่น้องต้องการให้ ข่าวที่ออกมาก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร เห็นครูอ้อยก็ปกติค่ะ”
“จริงๆ เวลาเข้าไปเรียนเขาก็จะมีการเซ็นเอาไว้ว่าภาพและเสียงเป็นของที่เรียนอยู่แล้ว แต่ถ้าใครที่ไม่สบายใจหรือไม่สะดวกใจก็สามารถแจ้งได้ ทางเลขาฯ ของครูอ้อยก็จะจัดการให้” กาละแมร์กล่าว
รู้สึกยังไงพอมีข่าวออกมาแบบนี้ แล้วคนตีความว่าคอร์สที่ครูอ้อยจัดเหมือนกับเป็นลัทธิหนึ่งเลย กาละแมร์บอกว่า “มันไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เข้าไปแล้วมันก็เหมือนกับการไปเรียนแบบหลักสูตรหนึ่ง แต่นี่เป็นเรื่องที่สอนเกี่ยวกับว่าความกตัญญูต่อพ่อแม่ การคิดดีทำดีพูดดี และการเสริมสร้างกำลังใจ มันไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวหรืองมงายหรือไสยศาสตร์อะไรเลย ตอนแรกแมร์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเรียนอะไรจึงเกิดความอยากรู้ เลยเข้าไปลองเรียนดูจึงเข้าใจว่าเขาเรียนอะไรกัน และเอามาปรับใช้ในชีวิตของเราได้ยังไง”
“สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายที่มีคนบอกว่าค่อนข้างแพง คือมันเรียน 2 วัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ถ้าไปเรียนออกกำลังกายทั่วไปชั่วโมงหนึ่งก็ตกเกือบ 2,000 บาท แล้วนะ แต่ว่าครูอ้อยก็ทำทั้งแบบที่เรียนฟรีคือดูจากทางแฟนเพจหรือยูทูบได้ถ้าใครไม่สะดวก แต่คนไหนที่สะดวกใจและพอมีตังค์จ่ายก็ว่ากันไป” พิธีกรคนดังกล่าว
ครูอ้อยรู้สึกเครียดไหมที่มีคนเอาไปเปรียบเทียบกับวัดหนึ่งย่านปทุมธานี กาละแมร์กล่าวว่า “ไม่ได้เครียดหรอกค่ะ ครูค่อนข้างชิล บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่รู้ว่าจะไปเครียดทำไม คนเราก็สามารถพูดและคิดต่างๆ นานาไปได้ คนที่ยังไม่เคยสัมผัสแมร์เข้าใจเลยว่าทำไมถึงคิดกันแบบนี้ จนมีโอกาสได้เข้าไปถึงรู้ว่ามันไม่มีการสะกดจิตทุกอย่างรู้ตัว ไม่มีไสยศาสตร์ ไม่มีความเชื่อ ไม่ต้องไหว่ผีสางอะไรทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ”
“ส่วนตัวยังเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้เข้าไปเรียนอยู่ เท่าที่เรียนมามันก็โอเคกับชีวิต เอามาปรับใช้ได้ อย่างสิ่งที่สอนก็เช่นสอนให้รักพ่อแม่ จริงๆ ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าต้องรักพ่อแม่ แต่บางทีก็จะมีอารมณ์แบบทำไมยังงั้นอย่างนี้ ไม่เข้าใจพ่อแม่บ้าง มีหงุดหงิด แต่พอได้เข้าไปเรียนก็ยิ่งทำให้รู้ว่าพ่อแม่รักเรามากเหลือเกินก็จะได้กลับไปกตัญญูกับท่านให้ถูกต้อง” กาละแมร์กล่าว
ดาราบางคนที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ออกมาบอกว่าไม่ได้ไปเข้าคอร์สนี้แล้ว เพราะไม่ตรงกับแนวทางของตัวเอง คนเลยสงสัยว่ามีการสอนอะไรกัน มีการล้างสมองหรือเปล่า พิธีกรกล่าวว่า
“มันไม่ได้ขนาดนั้นนะ แต่เข้าใจว่าคนอาจจะตั้งคำถาม จริงๆ มันก็เหมือนกับการสอนในห้องเรียนก็จะมีนักเรียนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ”
“ส่วนที่มีรูปเหมือนว่าไปนั่งสมาธิกันแล้วคนเอาไปโยงเกี่ยวกับเรื่องพระพุทธศาสนา ต้องบอกว่าอันนั้นเป็นคนละคลาสกันค่ะ ตอนนี้ทุกคนเอามารวมกันไว้หมดแล้ว อย่างที่เห็นว่านั่งสมาธิก็นั่งฟรี ซึ่งเป็นการภาวนา แต่ตอนนี้คนเอาไปรวมกันว่าไปนั่งสมาธิกับเข้าคอร์สเรียนต้องจ่ายตังค์ด้วย” กาละแมร์กล่าว
ได้มีโอกาสคุยกับน้องเอ๋บ้างไหม พิธีกรคนเก่งกล่าวว่า “ไม่ได้สนิทกันน่ะสิ แต่คิดว่าเรื่องนี้ก็น่าจะจบแล้ว พอแจ้งมาทางครูอ้อยก็ทำให้ ตอนนี้ก็กำลังทำให้อยู่และทยอยลบรูปออก แล้วมันอาจจะส่วนกับตอนที่น้องเขาออกมาโพสต์”
อีกเรื่องหนึ่งที่คนพูดถึงคือบ้านของครูอ้อยที่ใหญ่โตและใช้กระเป๋าราคาหลักล้าน เพราะจัดคอร์สแบบนี้หรือเปล่า พิธีกรคนเดิมกล่าวว่า “ตอนนี้ต้องแยกกันให้เข้าใจก่อนว่าครูอ้อยเป็นคนเป็นฆราวาสเหมือนคนทั่วไปอย่างพวกเรานี่แหละ มีบ้านได้ ใส่เสื้อผ้าได้ คือเขาก็เป็นคนไง แมร์ขอพูดกลางๆ ไม่ได้เข้าข้างใคร ตอนเนี่ยประเด็นมันผิดเพราะมีการเอาครูอ้อยไปเที่ยวกับพระ ซึ่งมันไม่ใช่เพราะครูเขาก็เป็นคนและใช้ชีวิตตามปกติ อยู่บ้านสวยได้ ตามฐานะความเป็นอยู่ เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนที่สอนเรื่องอะไรพวกนี้แค่นั้นเองค่ะ
