บอย ปกรณ์ เข้าใจหัวอกเจ้าของร้านอาหาร หาเงินดูแลลูกจ้าง
ก่อนหน้านี้ก็ร่วมหุ้นเปิดร้านอาหารกับเพื่อน ทำให้พระเอกหนุ่ม บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ทำให้เข้าใจความรู้สึกของผู้ประกอบการร้านอาหาร และพร้อมช่วยรีวิวโปรโมทอาหารช่วยวิกฤตโควิด
บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
กักตัวอยู่บ้านกี่วันแล้ว
“เริ่มกักตัวจริงๆ ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. อันนั้นคือกักตัวอยู่ในห้องคนเดียวเลย 14 วัน คือวันๆอยู่แต่ในห้อง แล้วก็เดินไปห้องยิมชั้นบน แล้วก็ไม่ได้เจอใครเลย แล้วก็ไม่มีใครขึ้นมาชั้นบน จะมีก็แค่ส่งอาหารมาวางไว้หน้าห้อง หลังจากหมด 14 วัน นั้นก็ออกมาอยู่ในบ้าน เจอคนในบ้าน แต่ก็ไม่ได้ออกไปไหน”
ปรับตัวยากไหม เพื่อเมื่อก่อนออกไปทำงานทุกวัน แต่ตอนนี้อยู่กับบ้านมาเดือนกว่าแล้ว
“เรื่องปรับตัวไม่ยากนะ แค่ไม่ชินเฉยๆ เพราะว่าผมเป็นคนที่แอคทีฟชอบทำงาน ทุกวันก็จะมีงานที่ต้องทำ ออกจากบ้านมีกิจกรรมตลอด แต่ตอนนี้อยู่กับบ้านมันไม่ชิน ก็ต้องหากิจกรรมทำ คือการอยู่บ้านไม่ยากหรอก เพราะว่าปกติผมก็อยู่บ้าน ทานข้าวกับที่บ้านอยู่แล้ว แค่ไม่ชินเท่านั้นเอง”
พาน้องหมาเดินเล่น
แต่บ้านเราจะมีคลิปตลกๆ มาให้ดูกันอยู่เรื่อยๆ
“ทำสนุกๆ หากิจกรรมทำกันอยู่ในบ้าน เวลาอยู่ในบ้านผมก็ทำโน้นนี้ ออกกำลังกาย เล่นเกม นอนดูซีรีส์ อย่างที่บอกว่าเราไม่ชินกับการที่ไม่มีอะไรทำ อยู่บ้านเฉยๆ แต่อยู่กับบ้านก็ไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัด เพราะว่าครอบครัวผมเราสนิทกันอยู่แล้ว มีเวลาอยู่ด้วยกัน คนที่แฮปปี้ที่สุดน่าจะเป็นคุณแม่ เพราะนานๆ จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ปกติคุณแม่เขาอยู่บ้านอยู่แล้ว เขาก็มีอะไรทำของเขาไป แต่ตอนนี้เราอยู่กันพร้อมหน้า”
ได้ออกไปไหนบ้างไหน
“อยู่แต่ในบ้าน แล้วก็เดินไปดูสตูดิโอของผม ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร ตอนนี้มันมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังสร้างไม่เสร็จ เราก็เดินไปดูงาน ดูความเรียบร้อย คือก่อนที่จะเกิดสถานการณ์แบบนี้ สตูก็เปิดให้ใช้แล้วส่วนหนึ่ง แล้วก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ยังสร้างไม่เสร็จ ตอนนี้ก็ถือโอกาสสร้างให้ได้มากที่สุด เวลาออกไปข้างนอกก็ป้องกันตัวอย่างที่ทุกคนทำกัน ใส่แมสก์ เว้นระยะห่าง มีเจลล้างมือ เลี่ยงการสัมผัสตัว ประมาณนี้ครับ”
สตูดิโอใกล้เสร็จแล้ว
ตอนนี้ดาราหลายๆคนโดนดราม่าเรื่องการรีวิวอาหาร ของเราโดนบ้างไหม
“ผมไม่โดนนะครับ แต่ของผมจะมีคนส่งอินบล็อกเข้ามาบอกว่าอยากส่งของมาให้ชิม ถ้าของอันนี้ที่เราไม่ชอบกินก็จะบอกเขาว่าไม่ต้องส่งมา ส่งแค่รูปมาให้ เดี๋ยวผมช่วยโปรโมทให้ คือผมเปิดร้านอาหาร ผมเลยเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ดี สิ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องการคือช่วยพนักงานในร้าน ให้เขามีรายได้เลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัวของเขา เพราะฉะนั้นร้านไหนที่ส่งมาให้ผมช่วยรีวิว ผมก็จะช่วยเต็มที่ แต่ก็จะบอกเขาว่าไม่ต้องส่งมาเยอะ เอาเก็บไว้ขาย เพราะว่าเวลาที่ผมลง ผมจะถ่ายเจาะเข้าไปใกล้ๆ อาหารให้มันน่ากิน แล้วก็ลงในสตอรี่ให้”
แล้วมีแบบมาขอความช่วยเหลือไหม
“มีบ้าง แต่น้อยครับ ผมก็มีคุยกับเขาบ้าง ส่งของไปช่วยถ้าเขาลำบากจริงๆ อย่างบางคนมีลูก เด็กเล็กๆ เขาก็บอกว่าเขาเองไม่เป็นไร แต่เขาสงสารลูก ผมเน้นที่คุณแม่ ผมก็จะถามเขาว่าน้องอายุเท่าไหร่ ขอที่อยู่ แล้วผมก็จะส่งนม และอาหารแห้งไปให้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกร้านอาหารมากกว่าที่ส่งมาขอให้ช่วยรีวิวให้หน่อย ผมก็ช่วยเต็มที่เท่าที่ช่วยได้ครับ”
เราได้รับผลกระทบขนาดไหน
“ผมว่าทุกคนได้รับผลกระทบหมด ผมขอพูดถึงแค่งานในวงการ ทุกอย่างหยุดหมด งานอีเว้นท์ไม่มี ละครก็หยุดถ่ายหมด ผมเองก็รอ เขาพร้อมเมื่อไร่ก็เริ่มทำตอนนั้น เราไม่ได้ไปโฟกัสที่มันมาก หรือว่ารู้สึกกดดันกันมัน ตอนนี้ก็ต้องหาอะไรทำ อย่างผมกับเพื่อนที่เปิดร้านอาหารด้วยกัน เราก็มาคิดว่าเราจะดูแลพนักงานอย่างไร แล้วร้านเราจะไปในทิศทางไหนต่อดี”
ขอบคุณรูปจากไอจี : boy_pakorn
